นายกฯ ย้ำแก้สลากแพง แบบรักษาสมดุล ปีนี้ไม่เกิน 20 ล้านใบ

เห็นกันชัด ๆ มาเท่าไหร่..ก็หมด ตอกย้ำความต้องการ ใบละ 80 บาทมีจริง จากงวดที่ผ่านมา เพิ่มสลากไปมากกว่า 5 ล้านใบ ใช้เวลาขายเพียง 3 วัน เกลี้ยงแผงดิจิทัล และล่าสุด วันนี้ (24 มิ.ย. 2565) พร้อมขยับปริมาณสลากฯ เพิ่มอีก 2 ล้านฉบับ รวมเป็นเปิดขาย 7 ล้านฉบับ ในงวด 1 ส.ค. นี้ โดยรัฐบาล ย้ำ.. จะแก้ปัญหาสลากแพง แบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่มีนโยบายมอมเมาประชาชน เน้นการเพิ่มสลาก เป็นการประเมินตาม ความต้องการของประชาชน

โฆษกรัฐบาล เผย นายกฯ ย้ำแก้ปัญหาสลากแพง แบบรักษาสมดุล สลากใบ - สลากดิจิทัล กองสลากฯ พร้อมเพิ่มสลากดิจิทัลเข้าระบบ แบบค่อยเป็นค่อยไป เน้นประเมินตาม ความต้องการของประชาชน งวด 1 ส.ค. เคาะเพิ่ม 2 ล้านฉบับ เริ่มจำหน่าย 17 ก.ค.นี้พร้อมเพิ่มจุดจำหน่ายสลาก 80 บาท



วันที่ 24 มิถุนายน 2565 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามและประเมิน โครงการสลากดิจิทัล ที่จำหน่ายสลากผ่านแอป “เป๋าตัง” ซึ่งถือว่าเป็นความสำเร็จ ในการแก้ปัญหาจำหน่าย สลากเกินราคาอย่างเป็นรูปธรรม

โดยล่าสุด คณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล มีมติให้เพิ่มปริมาณสลาก จำหน่ายผ่านแพลตฟอร์ม หรือ สลากดิจิทัล อีก 2 ล้านฉบับ ในงวดวันที่ 1 สิงหาคม 2565 โดยจะเริ่มจำหน่าย ตั้งแต่วันที่ 17 กรกฎาคม 2565 เพื่อให้ประชาชนสามารถ ซื้อสลากหมายเลขที่ต้องการได้ ในราคา 80 บาท มากขึ้น สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล ที่ต้องการแก้ไขปัญหาสลากแพง ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม



ทั้งนี้ การเพิ่มปริมาณสลากดิจิทัล จะเป็นในลักษณะ ค่อยเป็นค่อยไป งวดละ 1 - 2 ล้านใบ ตามความต้องการของตลาด โดยมีการประเมิน แบบงวดต่องวด ถ้างวดไหนขายดี ใช้เวลาขายน้อย งวดต่อไป ก็จะเพิ่มจำนวนมากขึ้น แต่ภายในปีนี้ จะมีจำนวนสูงสุดไม่เกิน 20 ล้านใบ
 
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า พร้อมกันนี้ จะมีการเพิ่มจุดจำหน่ายสลาก ในราคา 80 บาท จากเดิมตั้งเป้า 1,000 จุดทั่วประเทศ จะเพิ่มอีก 2,000 จุดทั่วประเทศ ผ่านการขาย ณ ปั๊มน้ำมันบางจาก และ ปตท. เพื่อเพิ่มช่องทางให้ประชาชน เลือกซื้อได้สะดวก คาดว่า ประชาชนจะให้ความสนใจ ไม่แพ้สลากดิจิทัล



นายธนกรฯ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี กำชับให้รักษาสมดุล ระหว่างสลากใบ และระบบดิจิทัล การแก้ไขปัญหา ขอให้ค่อยเป็นค่อยไป อย่าเป็นแบบก้าวกระโดด ยืนยันรัฐบาล ไม่มีนโยบายมอมเมาประชาชน พร้อมกับย้ำให้ประชาชน มีสติในการเลือกซื้อสลาก รัฐบาลมีความตั้งใจ ในการพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหา และให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน

นอกจาก การหาซื้อสลากฯ 80 บาท ให้ได้ตัวเลขตรงใจ ตามความต้องการแล้ว Backbone MCOT มีข้อแนะนำ ในเรื่องของการรับเงินรางวัล ที่ทางกองสลากฯ มีให้เลือก 2 วิธี ดังนี้

1. เลือกรับเงินรางวัล โดยการโอนเงิน เข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย ที่ผูกไว้กับแอปพลิเคชันเป๋าตัง โดยเงินรางวัล จะโอนเข้าบัญชี หลังจากที่ได้ทำการผูกไว้ ภายในระยะเวลา 12 ชั่วโมง และมีการหักค่าธรรมเนียม ในการโอน ไม่เกินร้อยละ 1 ของเงินรางวัล
 
2. เลือกรับเงินรางวัล โดยเดินทางมารับด้วยตนเอง ที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (สนามบินน้ำ) โดยติดต่อกำหนด วัน เวลา เข้ามารับเงินรางวัล เพื่อที่สำนักงานฯ จะจัดเตรียมสลากใบตัวจริง ส่งคืนให้กับผู้ซื้อ เพื่อนำไปขึ้นเงินรางวัล วิธีนี้ คิดเฉพาะค่าภาษีอากรแสตมป์ ร้อยละ 0.5 ของเงินรางวัล



ทั้งนี้ ยังมีวิธีการรับเงินรางวัล ที่สะดวกรวดเร็ว มากกว่าเดินทางไปที่ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (สนามบินน้ำ) แต่จะมีการเสียเงินเพิ่ม ในส่วนของค่าธรรมเนียม และค่าอากรแสตมป์ ซึ่งการขอรับเงินรางวัล สลากกินแบ่งรัฐบาล มี 3 ธนาคารที่พร้อมให้บริการ ในตอนนี้ คือ ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารออมสิน และ ธนาคารเพื่อการเกษตร และสหกรณ์การเกษตร

อ่านเพิ่มเติม คลิกที่นี่ >> (การขึ้นรางวัลเงิน สลากกินแบ่งรัฐบาล กับ ธนาคารกรุงไทย)

อ่านเพิ่มเติม คลิกที่นี่ >> (การขึ้นรางวัลเงิน สลากกินแบ่งรัฐบาล กับ ธนาคารออมสิน)

อ่านเพิ่มเติม คลิกที่นี่ >> (การขึ้นรางวัลเงิน สลากกินแบ่งรัฐบาล กับ ธ.ก.ส.)


และสำนักงานสลากฯ แนะนำเพิ่มเติมว่า ขอให้ทุกท่านตรวจผลรางวัลอย่างละเอียด โดยสามารถตรวจผลรางวัลที่ถูกต้อง ได้ผ่านช่องทาง ดังนี้

✅ ระบบโทรศัพท์อัตโนมัติ หมายเลข 1900 1900 10

✅ เว็บไซต์สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล www.glo.or.th

✅ Application "GLO Lottery official"

เมื่อท่านถูกรางวัล สลากฯ สามารถขึ้นเงินรางวัลได้ ผ่านช่องทาง ดังนี้

+ ธนาคารเพื่อการเกษตร และสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส) ทุกสาขาทั่วประเทศ

+ ธนาคารออมสิน ทุกสาขาทั่วประเทศ

+ ธนาคารกรุงไทย ทุกสาขาทั่วประเทศ

สามารถขึ้นเงินรางวัล งวดปัจจุบันได้ทุกรางวัล

❌ยกเว้นรางวัลที่ 1 ❌

โดยมีค่าธรรมเนียมการให้บริการ จากผู้ขอรับเงินรางวัล ในอัตราร้อยละ 1

+ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center โทร. 0 2528 9999


อ้างอิง และขอบคุณข้อมูล จาก :

เว็บไซต์ : รัฐบาลไทย
https://www.thaigov.go.th