21 ก.พ.68 - อิมเมจิน ไทยแลนด์ ส่งเสริมพลังเยาวชนสู้ภัยปัจจัยเสี่ยง จับมือเทศบาลตำบลคลองพนพัฒนา จ.กระบี่ จัดค่ายพัฒนาแกนนำเยาวชนขับเคลื่อนสุขภาวะ พร้อมดึงผู้เชี่ยวชาญติวเข้มทักษะการเป็นผู้นำ
จากสถานการณ์ด้านปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ทางสุขภาวะ ทั้งยาสูบ ยาเสพติด และแอลกอฮอล์ ในประเทศไทย โดยเฉพาะในชุมชนต่างๆ ที่ยังคงน่าเป็นห่วง ทำให้การขับเคลื่อนโครงการร่วมพัฒนาพื้นที่ปลอดภัยปลอดปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพในชุมชนและสถานประกอบการ ด้วยมาตรการชุมชน มาตรการองค์กร นำโดย ดร.อุดม หงส์ชาติกุล ผู้ก่อตั้ง Imagine Thailand Movement ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก สสส. ยังคงเดินหน้ารุกเข้าไปทำงานร่วมกับคนในชุมชนอย่างต่อเนื่อง โดยหนึ่งในพื้นที่เป้าหมายที่มีการขับเคลื่อน คือ พื้นที่ตำบลคลองพน อ.คลองท่อม จ. กระบี่ ล่าสุดเมื่อเร็วๆนี้ ได้จับมือเทศบาลตำบลคลองพนพัฒนา ผู้นำชุมชน คณะผู้ก่อการดีในชุมชน จัด“ค่ายพัฒนาแกนนำเยาวชนร่วมขับเคลื่อนคลองพนสู่ตำบลสุขภาวะ” โดยมีเด็กและเยาวชนแกนนำจาก 9 โรงเรียน จำนวน 54 คน เข้าร่วม ได้แก่ โรงเรียนบ้าน ท่ามะพร้าว โรงเรียนบ้านทุ่งครก โรงเรียนบ้านดินนา โรงเรียนบ้านคลองแรด โรงเรียนบ้านคลองปิ้ง โรงเรียนบ้านคลองไคร โรงเรียนคลองพน โรงเรียนบ้านหินเพิง และโรงเรียนอนุบาลจิตจงรักษ์
ดร.อุดม หงส์ชาติกุล ผู้ก่อตั้ง Imagine Thailand Movement กล่าวว่า เป็นที่น่าดีใจและน่าชื่นชม ที่หลายปีมานี้ ผู้นำชุมชน ผู้นำศาสนา ผู้บริหารสถานศึกษา และแกนนำเยาวชน ผู้ก่อการดีทุกภาคส่วน ต่างมีความตื่นตัว ตระหนักถึงผลกระทบของปัจจัยเสี่ยงที่รุกและแฝงเข้ามาในชุมชนทุกรูปแบบ โดยต่างยินดีสละเวลามาร่วมกันทำงานเพื่อให้คนในตำบล โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและเยาวชน ซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนในชุมชน ที่จะต้องปกป้อง เอาใจใส่ดูแลใกล้ชิด และสร้างภูมิคุ้มกัน ให้มีความเข้มแข็งและแข็งแรง ตระหนักในพิษภัย และอยู่ห่างไกลจากปัจจัยเสี่ยงหลัก เช่น เหล้า บุหรี่ ยาสูบ แอลกอฮอล์ การพนัน และยาเสพติด ทุกรูปแบบ ให้มากที่สุด
“ความพิเศษของค่ายผู้นำเยาวชนตำบลคลองพนที่จัดขึ้น และนับเป็นปัจจัยความสำเร็จของการทำค่ายพัฒนาแกนนำเยาวชนขับเคลื่อนสุขภาวะที่ผ่านมา โดยเฉพาะที่บ้านท่ามะพร้าว ที่มีการทำต่อเนื่องมาแล้ว 9 รุ่น เป็นค่ายพัฒนาเยาวชนฯ ที่ผู้ใหญ่ในชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมอย่างแท้จริง ตั้งแต่ร่วมกันออกแบบ วางแผนในการจัดค่าย ตลอดจนมาร่วมเป็นกำลังใจ และมาร่วมรับฟังแนวคิดไอเดียจากกลุ่มแกนนำเยาวชน รวมถึงการส่งเสริมสนับสนุนกิจกรรมรณรงค์ของเยาวชน เพื่อทำให้ชุมชนตำบลคลองพน เป็นตำบลสุขภาวะ ปลอดภัยจากปัจจัยเสี่ยง โดยเด็กและเยาวชน สามารถเติบโตเป็นผู้ใหญ่อย่างมีคุณภาพ และเป็นกำลังหลักของชุมชนต่อไปในอนาคต ดังเช่น แกนนำเยาวชนรุ่นพี่ๆ ที่เคยผ่านกิจกรรมค่ายฯ แล้วมาช่วยทำกิจกรรมพัฒนาเยาวชนรุ่นใหม่ในครั้งนี้”
นายณธรรมรักษ์ จงรักษ์ นายกเทศมนตรีตำบลคลองพนพัฒนา กล่าวว่า จากความสำเร็จของการบ่มเพาะความเป็นผู้นำของเยาวชนในตำบลคลองพน ที่ทาง Imagine Thailand Movement ได้เข้ามาสนับสนุน ผ่านมา 2 รุ่นแล้ว ถือเป็นประโยชน์อย่างมาก เกิดผลดีอย่างชัดเจน เช่น การจัดการปัญหาขยะในชุมชน โดยเด็กๆ ที่ได้รับการอบรม นำความรู้ไปจัดการปัญหา ใช้โรงเรียนเป็นพื้นที่หลักในการคัดแยกขยะ และยังไปบอกเล่าให้ผู้ปกครองทำตาม ทำให้เกิดการคัดแยกขยะในชุมชนมากขึ้น ส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อมตามมา ดังนั้น ทางเทศบาลจึงอยากให้มีการขยายผลสร้างแกนนำให้ครบ 9 โรงเรียนของตำบล ซึ่งเชื่อว่ากิจกรรมนี้น่าจะช่วยแก้ปัญหาได้อีก โดยเฉพาะเรื่องยาเสพติด และบุหรี่ไฟฟ้า ที่กำลังรุมเร้ากลุ่มเยาวชน จากพลังความร่วมมือของทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ชุมชน รวมถึงผู้นำศาสนา ที่ร่วมกันอย่างเข้มแข็ง ในส่วนของเทศบาลฯ มีแผนที่จะจัดสรรงบประมาณปีละ 1 แสนบาท มาสนับสนุนการขับเคลื่อนกิจกรรมค่ายผู้นำเยาวชน ให้มีความต่อเนื่องและยั่งยืน เพื่อปลูกฝังให้เยาวชนให้มีความรักและหวงแหนชุมชน ช่วยกันพัฒนาให้ตำบล เป็นพื้นที่ปลอดภัยจากปัจจัยเสี่ยง
สำหรับกิจกรรมค่ายแกนนำเยาวชนครั้งนี้ ได้รับการออกแบบกระบวนการ เพื่อให้เยาวชนมีความรู้พิษภัยปัจจัยเสี่ยง มีทักษะความเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นระบบ รวมถึงกล้าแสดงออก รู้จักการทำงานเป็นทีม มีทักษะสังคม และมีเทคนิคการสื่อสารสังคม โดยมีโจทย์ท้าทายให้ร่วมกันทำคือ การวางแผนรณรงค์ให้คนในชุมชน และเพื่อนเยาวชน ตระหนักถึงพิษภัยปัจจัยเสี่ยง และ ลด ละ เลิก ยาสูบ บุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า รวมถึงควันบุหรี่มือสอง โดยเด็กและเยาวชนที่ถูกวางตัวเป็นแกนนำขับเคลื่อนจากรุ่นสู่รุ่น จะเป็นนักเรียนชั้น ป.5 ซึ่งสามารถจะส่งต่อความเป็นผู้นำให้กับน้อง ชั้นป.5 รุ่นต่อไปได้
ทั้งนี้ในการสร้างทักษะความเป็นผู้นำให้กับเด็กและเยาวชน อาจารย์ปณัฐ เนรมิตตกพงศ์ ผู้จัดการโครงการฯ เล่าว่า ใช้หลัก “Problem Based Learning” ให้น้องๆ เรียนรู้ผ่าน 3 ขั้นตอนหลัก คือ 1.ให้ความรู้ 2.พาลงมือทำ 3.เอาผลจากการลงมือทำมาวิเคราะห์ ทบทวนและวนกลับไปให้ความรู้ใหม่ เป็นการฝึกอย่างเป็นระบบ เป็นวงจร ให้เกิดการเรียนรู้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนสามารถหาทางแก้ปัญหาได้ในที่สุด ซึ่งทักษะสำคัญที่สุด ที่เราต้องการปลูกฝังเด็กคือ “ความกล้าหาญในการแก้ไขปัญหา”
และในกิจกรรมค่ายฯ ครั้งนี้ ยังมีการพัฒนาความเป็นผู้นำให้เยาวชน เกิดการเปลี่ยนแปลงจากภายใน โดยได้รับความร่วมมือจากทีมนักจิตวิทยาเด็ก วัยรุ่น และครอบครัว จาก Joymind community มาจัดกระบวนการ และกิจกรรมเกม ให้เด็กและเยาวชน ได้เรียนรู้ และเกิดการเปลี่ยนแปลงทางความคิด จิตใจ นิสัย และพฤติกรรม เพื่อให้สามารถแสดงความเป็นผู้นำได้อย่างเหมาะสม มองคนอื่นอย่างเข้าใจ และยังได้รับความร่วมมือจาก คุณเจษฎา เตี่ยวย่อง ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาชนบทผสมผสานกระบี่ มาร่วมถ่ายทอดความรู้และแชร์ประสบการณ์ รวมถึงได้รับความร่วมมือจากแกนนำเยาวชนตำบลคลองพนรุ่นแรกๆ นำโดยคุณสุพิตา น้ำใส มาร่วมจัดกิจกรรมและให้แรงบันดาลใจการพัฒนาตน ที่จะต้องมีการพัฒนาต่อเนื่อง เพื่อสร้างความก้าวหน้าให้กับตนเอง และพร้อมกลับมาร่วมกับแกนนำรุ่นอื่นๆ สร้างแกนนำรุ่นใหม่ต่อไป ดังเช่นรุ่นพี่ๆ ที่ได้กลับมาดูแลน้องๆ ในครั้งนี้
แล้วเยาวชนได้อะไรจากกิจกรรมค่ายพัฒนาแกนนำบ้าง? เสียงสะท้อนบางส่วนของเด็กและเยาวชนที่มาเข้าค่าย น่าจะเป็นคำตอบ ดังเช่น ด.ช.สิทธิเดช เบิกนา หรือ แม๊ก ชั้นป.5 โรงเรียนคลองพน ที่บอกว่า “ตระหนักถึงอันตรายของควันบุหรี่ ต่อทั้งคนสูบและคนที่อยู่ใกล้ ที่ควันบุหรี่จะเข้าไปทำลายปอดและทำให้สุขภาพเราเสื่อมโทรม กลับจากค่าย จะไปบอกพ่อกับก๋ง ผมรู้ว่ามันเลิกยาก แต่อยากให้พ่อกับก๋งลดลงทีละนิดๆ เพื่อพ่อและก๋งจะได้มีสุขภาพแข็งแรง”
เช่นเดียวกับ ด.ญ.กัญจน์ณิชา โสสนุ้ย หรือ ณดา ชั้นป.5 โรงเรียนจิตจงรักษ์ ที่เล่าว่า “การมาเข้าค่ายนี้ได้เรียนรู้เรื่องกฎการเป็นผู้นำ ที่จะต้องมีความมุ่งมั่นตั้งใจ เสียสละ กล้าหาญ มีความคิดสร้างสรรค์ และได้ความรู้เรื่องพิษภัยของยาเสพติด ยาสูบ บุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า ควันบุหรี่มือสอง ซึ่งหลังจากนี้ จะไปวางแผนกับเพื่อนแกนนำ ชวนกันทำป้ายโปสเตอร์เดินรณรงค์เรื่องควันบุหรี่มือสอง และสื่อสาร ขอความร่วมมือคนในชุมชน ไม่สูบบุหรี่ใกล้เด็ก หรือช่วยลด ละ เลิก บุหรี่ เพื่อสุขภาพที่ดีของทุกคน”
ขณะที่ ด.ญ.ณัชชา ห้วยลึก หรือ จัสมิน โรงเรียนบ้านทุ่งครก เล่าว่า “การมาเข้าค่ายนี้ได้ความรู้มากมาย ทั้งเรื่องความเป็นผู้นำ ที่จะต้องมีการเสียสละ ความสามัคคี มีความคิดสร้างสรรค์ ยอมรับข้อผิดพลาด พร้อมปรับปรุงแก้ไข และการเป็นแกนนำที่ดี กลับไปจะชวนเพื่อนแกนนำวางแผนงานรณรงค์ฯ ทำโปสเตอร์ให้ความรู้โทษของบุหรี่ ไปติดที่โรงเรียน และในชุมชน และบอกเล่ากับครอบครัว”
•
ส่วน ด.ญ.สาวิตรี หนูทอง หรือ เบล ชั้นป.5 โรงเรียนบ้านหินเพิง เล่าว่า “ที่บ้านไม่มีใครสูบบุหรี่ไฟฟ้า แต่ที่โรงเรียนเห็นเพื่อนสองสามคนพกบุหรี่ไฟฟ้ามาโรงเรียนด้วย ก็เคยเตือนว่ามันไม่ดีต่อสุขภาพ และคุณครูจะลงโทษ จากนี้ไปก็จะนำความรู้ที่ได้ ไปขยายผล เพื่อชวนให้เพื่อนเลิกบุหรี่”
“ศักยภาพของเด็กๆ มีความมหัศจรรย์เสมอ เมื่อไรก็ตามที่เราเปิดพื้นที่ให้ เราจะเห็นมุมมองความคิดที่น่ารัก ขณะเดียวกันเป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่คิดไม่ถึง ดังนั้น จะทำอย่างไรให้ผู้ใหญ่ตระหนักรู้ว่า การเป็นตัวอย่างที่ดีเป็นเรื่องสำคัญ เพราะเด็กๆ ที่เติบโตจากสภาพแวดล้อมซึ่งมีผู้ใหญ่เป็นตัวอย่างที่ดี จะทำให้เด็กๆ ได้เรียนรู้สิ่งที่ดี แต่หากเด็กได้เห็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม หากเขามีโอกาสสะท้อนออกมา จะทำให้ผู้ใหญ่รับรู้และตระหนักว่าเด็กกำลังมองอยู่เช่นกัน จึงเป็นการทำงานร่วมกันต่อไป ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ และผู้นำในพื้นที่ เพื่อร่วมกันพัฒนาตำบลคลองพน สู่ตำบลสุขภาวะต้นแบบ ด้วยข้อตกลงและมาตรการของชุมชนต่อไป”