ทำไมพระบรมสารีริกธาตุ หรือพระธาตุของพระผู้มีคุณธรรมสูง ถึงกลายเป็นผลึกแก้วอัญมณี ในเมื่อพระพุทธเจ้าหรือพระอรหันต์ ก็คือมนุษย์ ทำไมพระบรมอัฐิ หรือ กระดูกจึงเปลี่ยนไป ?
ว่ากันว่า การเกิดพระบรมสารีริกธาตุเป็นเรื่องปาฏิหาริย์ เหตุผล 3737 งวดนี้ออกแน่ ที่หรือกระดูกเมื่อถวายพระเพลิงพระบรมศพของพระพุทธเจ้าแล้วหรือได้ถวายเพลิงพระสรีระของพระผู้ปฏิบัติธรรมขั้นสูงเหตุไฉนกระดูกของท่านจึงเหมือนกับกระดูกของคนทั่วไปที่ผ่านวิธีสอบทำไมจึงแปลเปลี่ยนกลายเป็นผลึกแก้วรูปร่างสีสันสวยงาม
ขอใช้ สิ่งที่จารึกไว้ในพระไตรปิฎก และอรรถกถาพระไตรปิฎก (หรือคำอธิบายพระไตรปิฎกนั่นเอง) รวมถึง ตำราพระธาตุโบราณได้กล่าวถึงเหตุที่ทำให้เกิดพระบรมสารีริกธาตุว่า
การแปลเปลี่ยนไปของกระดูกของผู้มีคุณธรรมสูงพระพุทธเจ้าหรือพระอรหันเจ้ากลายเป็นผลึกแก้วในกรณีของพระพุทธเจ้าเป็นพุทธประสงค์ก่อนที่จะเสด็จดับขันธปรินิพพาน พระพุทธเจ้าทรง ทรงดำริเห็นว่าร่อง มีเวลาปฏิบัติพุทธกิจเพียง 45 ปีเมื่อเทียบกับพระพุทธเจ้าองค์ก่อนหน้า ถือว่าน้อยมากจึง ทรงอธิษฐานให้พระบรมสารีริกธาตุของพระองค์แตกย่อยลงกระจายไปในที่ต่างๆ เพื่อที่พุทธศาสนิกชนจะได้นำไปเคารพสักการะ บูชาและรำลึกถึงพุทธานุสติกับธัมมานุสติ
“พระบรมสารีริกธาตุ” จึงหมายถึงกระดูกของพระพุทธเจ้า (พระสัมมาสัมพุทธเจ้า) คำว่า “พระธาตุและพระบรมสารีริกธาตุ” นี้ ตรงกับภาษาอังกฤษว่า “Relic” ซึ่งตรงกับภาษาลาตินว่า “Reliquiae” แปลว่า ส่วนที่เหลืออยู่ (Remains) เผ่าชนทั้งหลายในอดีตถือว่า กระดูกคนเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ลัทธิถือผีสางเทวดานิยมเก็บกระดูกคนไว้ ประเพณีนิยมในพระพุทธศาสนาไม่ว่าจะในยุคของพระพุทธเจ้าองค์ไหน
ลักษณะสี สัณฐาน และขนาดของพระธาตุ/พระบรมสารีริกธาตุมีหลากหลาย มีลักษณะเป็นมันเลื่อมสีต่าง ๆ มีสีทองอุไรบ้าง สีขาวใสดังแก้วผลึกบ้าง สีดอกพิกุลแห้งบ้าง มีสัณฐานต่าง ๆ เช่น กลม ยาวรี เสิ้ยว เป็นเหลี่ยม มีขนาดต่าง ๆ กัน เช่น ขนาดใหญ่เท่าเมล็ดถั่วหัก ขนาดกลางเท่าเมล็ดข้าวสารหัก ขนาดเล็กเท่ากับเมล็ดพันธุ์ผักกาด พระธาตุและพระบรมสารีริกธาตุมีลักษณะและสัณฐานหลากหลายตามที่กล่าในตำราโบราณ พอกล่าวไว้เป็นตัวอย่างดังนี้
พระบรมสารีริกธาตุ (ของพระพุทธเจ้า) ขนาดใหญ่ ประมาณเท่าเมล็ดถั่วหัก จำนวน 5 ทะนาน ทรงพระบวรสัณฐานเหมือนหนึ่งพรรณทองอุไร
พระบรมสารีริกธาตุ (ของพระพุทธเจ้า) ขนาดกลาง ประมาณเท่าเมล็ดข้าวสารหัก จำนวน 5 ทะนาน ทรงพระบวรสัณฐานเหมือนหนึ่งพรรณแววแก้วผลึกอันเลื่อนลอย
พระบรมสารีริกธาตุ (ของพระพุทธเจ้า) ขนาดเล็ก ประมาณเท่าเมล็ดพันธุ์ผักกาด จำนวน 6 ทะนาน ทรงพระบวรสัณฐานดังพรรณดอกบุปผชาติพิกุลอดุลสีใส
พระธาตุของพระสารีบุตร สัณฐานกลมเป็นมณฑล บ้างรีเป็นไข่จิ้งจก บ้างดังรูปบาตรคว่ำ บ้างพรรณขาวดังสีสังข์ สีพิกุลแห้ง สีหวายตะค้า
พระธาตุพระโมคคัลลานะ สัณฐานกลมเป็นปริมณฑลอย่างหนึ่ง รีเป็นผลมะตูม และเมล็ดทองหลางก็มี และเมล็ดสวาก็มี เป็นสีดำ หรือขาว หรือเขียว หรือเหลือเหมือนหวายตะค้า ลายดังไข่นก หรือร้าวเป็นสายเลือด
พระธาตุของพระอานนท์ สัณฐานดังใบบัวเผื่อน พรรณดังสีดอกพิกุล พรรณดำดังน้ำรัก หรือขาวสะอาดดังสีเงิน
พระธาตุของพระอุบลวรรณาเถรี สัณฐานงอกดังกระดูกสันหลังงู มีรูทะลุกลาง พรรณเหลืองดังเกสรบัว
พระธาตุของพระอัญญาโกณฑัญญะ สัณฐานงอนช้อยดังงาช้าง พรรณขาวดังดอกมะลิตูม สีเหลือง สีดำ
พระธาตุของพระอุตตระ สัณฐานดังเมล็ดแตงโม พรรณแดงดังเปลือกกรู ดังผลหว้า
พระธาตุของพระสีวลี สัณฐานดังผลยอป่า เมล็ดในพุทรา เมล็ดมะละกอ
พระธาตุของพระอุปคุต สัณฐานหัวคอดท้ายคอด พรรณสีดอกพิกุลแห้ง สีเปลือกหอมใหญ่
ความหลากหลายด้านลักษณะ สี สัณฐานของพระธาตุหรือพระบรมสารีริกธาตุ อาจขึ้นอยู่กับองค์ประกอบหลายอย่าง เช่น สภาพทางกาย ลักษณะพิเศษทางจิตของพระอรหันต์หรือพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สภาพแวดล้อมทางภูมิศาสตร์ หรือปฏิกิริยาทางเคมีอย่างอื่น นอกจากนี้ น่าจะเกี่ยวเนื่องกับอายุของพระธาตุหรือพระบรมสารีริกธาตุแต่ละองค์ด้วย
ไว้โอกาสอันเป็นมงคลยิ่งในปีนี้ที่ รัฐบาลได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ จากประเทศอินเดีย มาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ ประเทศไทย เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 จึงได้เปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าร่วมสักการะได้ตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ.-3 มี.ค. 2567 ณ มณฑลท้องสนามหลวง กรุงเทพฯ
ข้อมูลจาก
-Facebook page : พระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุโดยชมรมพุทธปัญญามหาบารมีธรรม