TikTok ประเทศไทย แพลตฟอร์มวิดีโอสั้นชั้นนำของโลก ประกาศขยายความร่วมมือในโครงการ #คนไทยรู้ทันซีซัน 2 สู้ภัยออนไลน์ในปี 2568 ผนึกกำลังพันธมิตรเพิ่มอีก 4 หน่วยงาน ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA), สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (NCSA), กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI), กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (CCIB) ร่วมกับ 8 หน่วยงานหลักทั้งจากภาครัฐและประชาสังคม ได้แก่ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (MDES), สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA), โครงการโคแฟค (Cofact), สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (OCPB), กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB), สภาองค์กรของผู้บริโภค (TCC), ธนาคารแห่งประเทศไทย (BOT) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) รวมเป็น 12 หน่วยงาน เพื่อยกระดับองค์ความรู้และสร้างเกราะป้องกันภัยออนไลน์ที่แข็งแกร่งและครอบคลุมมากยิ่งขึ้นให้กับคนไทย
นางชนิดา คล้ายพันธ์ Head of Public Policy for Southeast Asia, TikTok กล่าวว่า "TikTok มุ่งมั่นสร้างอนาคตดิจิทัลที่ปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง จากความสำเร็จโครงการ "คนไทยรู้ทัน" ในปีแรก ที่มีผู้ทำคลิป TikTok ร่วมกิจกรรม#คนไทยรู้ทัน มากกว่า 2.5 ล้านคลิป และมียอดรับชมสูงถึง 3,400 ล้านครั้ง โดยมุ่งเน้นการสร้างคอนเทนต์ที่มีคุณภาพและอาศัยความเชี่ยวชาญของหน่วยงานต่าง ๆ ที่ร่วมแบ่งบันข้อมูลที่น่าสนใจ ให้ความรู้ด้านภัยออนไลน์ให้กับคนไทยมาโดยตลอด นอกจากเราจะขยายพันธมิตรเพิ่มเป็น 12 หน่วยงานแล้ว เรายังได้ยกระดับการพัฒนาเนื้อหาสาระต่าง ๆ ให้ทันสมัย ครอบคลุม และตอบโจทย์พฤติกรรมของผู้ใช้มากยิ่งขึ้น โดยมุ่งหวังปลูกฝังเป็น New Online Behavior ใหม่ให้กับคนไทย เพื่อป้องกันตัวเองจากการหลอกลวงออนไลน์ ผ่านการสร้าง Big Idea ต่อยอดคอนเทนต์ให้ผู้คนจดจำได้และนำไปปฏิบัติจริงได้"
"TikTok เชื่อว่าการสร้างภูมิคุ้มกันผ่านการมอบองค์ความรู้ด้านดิจิทัล ยังเป็นรากฐานสำคัญที่จะช่วยให้แพลตฟอร์มของเราเป็นพื้นที่ปลอดภัย และมอบโอกาสให้คนไทยได้ต่อยอดพลังความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างต่อเนื่อง โดย #คนไทยรู้ทัน เป็นการยกระดับความร่วมมือกับทุกภาคส่วนในมิติที่เข้มข้นกว่าเดิม เพราะการต่อสู้กับภัยออนไลน์ไม่ใช่งานของหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง แต่ต้องอาศัยความร่วมมือเป็นหนึ่งเดียวจากทุกฝ่าย" นางชนิดา กล่าวเพิ่มเติม
การขยายความร่วมมือกับพันธมิตร: ครอบคลุมความปลอดภัยยิ่งขึ้น
โครงการ #คนไทยรู้ทันซีซัน 2 ในปี 2025 ได้รับแรงสนับสนุนจากพันธมิตรสำคัญจากทั้ง 12 หน่วยงาน ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านต่าง ๆ โดยสามารถแบ่งเป็น 3 กลุ่ม หลัก ๆ ดังนี้
• สร้างการตื่นตัวต่อภัยหลอกลวง - ที่จะร่วมกันสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับรูปแบบการหลอกลวงใหม่ ๆ ประกอบด้วย กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (MDES), กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB), สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (NCSA)
• การซื้อขายออนไลน์ที่ปลอดภัย - เพื่อเสริมสร้างระบบนิเวศอีคอมเมิร์ซที่แข็งแกร่ง ทั้งยกระดับความเข้าใจเกี่ยวกับปัญหาสินค้าปลอมและสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน ฟื้นความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค ผู้ขาย และตลาด ประกอบด้วย สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA), สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA), สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (OCPB), กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (CCIB), และสภาองค์กรของผู้บริโภค (TCC)
• การป้องกันการหลอกลวงด้านการเงิน/การลงทุน - เพื่อรับมือกับการหลอกลงทุนที่มีรูปแบบซับซ้อนมากขึ้นประกอบด้วย ธนาคารแห่งประเทศไทย (BOT) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC), กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และโครงการโคแฟค (Cofact)
TikTok มุ่งสร้างความตระหนักรู้ การมีส่วนร่วม สู่การสร้างพื้นที่ดิจิทัลที่ปลอดภัย โดยตั้งเป้าหมายให้โครงการ #คนไทยรู้ทัน ซีซัน 2 เข้าถึงชาวไทยทุกคน ผ่านการสร้างเนื้อหาที่หลากหลายและเข้าใจง่าย และอาศัยพลังครีเอเตอร์มากกว่า 10 ราย ที่มีผู้ติดตามรวมกว่าหลายล้านราย อาทิ ช่อง พยาบาลอัญ (Aunnyc), Brighten_Studios, Prewery Land, 1 นาที รีวิว, mightyptk, Auichocky รีวิวไปเรื่อย, AMPOSSIBLE, KWA, นักพากย์ตั่วเฮีย🎤 บน TikTok เป็นต้น ช่วยส่งต่อสาระความรู้ โดยเน้นไปที่การให้ความรู้เชิงป้องกันและเสริมสร้างทักษะการรู้เท่าทันภัยออนไลน์ในทุกรูปแบบ ตั้งแต่การหลอกลวงพื้นฐานไปจนถึงเทคนิคหลอกลวงใหม่ ๆ ที่ซับซ้อน
นอกจากนี้ยังได้จัดกิจกรรมพิเศษ "เอ๊ะ ถาม อ๋อ" หรือ #Hashtag Challenge ชวนครีเอเตอร์ร่วมสร้างสรรค์เนื้อหาวิดีโอไวรัล ตั้งแต่วันนี้ถึง 25 กันยายน 2568 เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับภัยออนไลน์ เนื้อหาที่มีคุณภาพและมียอดชมสูงสุดจะได้ลุ้นรับการรางวัลพิเศษ ซึ่งจะช่วยกระจายความรู้ไปสู่ชุมชนในวงกว้างและสร้างกระแสการตื่นตัวอย่างยั่งยืน เพราะการต่อสู้กับภัยออนไลน์ต้องอาศัยความร่วมมือและการดำเนินการร่วมกันจากทุกฝ่าย เมื่อทุกคนมีส่วนร่วม เราจะสามารถสร้างสังคมดิจิทัลที่ปลอดภัยและมั่นคงได้