X
หลง “รส” หลง “รัก” ของกิน งานศิลป์ @ตลาดนางเลิ้ง

หลง “รส” หลง “รัก” ของกิน งานศิลป์ @ตลาดนางเลิ้ง

14 ธ.ค. 2567
9370 views
ขนาดตัวอักษร


14 ธ.ค.67 - “ตลาดนางเลิ้ง” ตลาดเก่าแก่กว่า 120 ปี ในกลางกรุงเทพ ที่ครองใจนักชิม เต็มไปด้วยของอร่อยที่ใครมาต้อง หลง “รส” และ หลง “รัก”


เรื่องของของกิน “กรุงเทพ” เป็นเบอร์ 1 ที่เต็มไปด้วยแหล่งของกินรสเด็ดที่ไม่ควรพลาด ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ “ตลาดนางเลิ้ง”


ตลาดนางเลิ้ง เกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยมีลักษณะเป็นตึกตลาด หรือบ้างก็เรียกว่าตึกฝรั่ง  ให้ประชาชนได้เช่าทำการค้า ซึ่งอาคารย่านนี้จะมีลักษณะเป็นทรงปั้นหยา ตลาดแห่งนี้ได้รับความนิยมอย่างมาก และเริ่มมีชื่อเสียงในด้านอาหารการกินมากขึ้น เนื่องจากพ่อค้าแม่ขายชาวนางเลิ้งส่วนใหญ่ได้รับการถ่ายทอดวิชาการทำอาหารมาจากตำรับในวัง ด้วยพื้นที่ของตลาดอยู่ใกล้วังถึง 3 วัง ทำให้แต่ละร้านมีรสชาติที่อร่อย และมีความพิถีพิถันนาในการทำอย่างยิ่ง ต่อมามีการเข้ามาอาศัยของคนจีนมากขึ้น จึงเกิดการผสมผสานของวัฒนธรรม ทำให้ในตลาดมีทั้งอาหารไทยและอาหารจีนให้เลือกกินในตลาดนางเลิ้งแห่งนี้ จนขึ้นชื่อว่ามีรสอร่อยรสเด็ด ที่ใครได้มาชิมต้อง “หลงรส หลงรัก” แน่นอน


ร้านแรกหอมมาแต่ไกล “ร้านรุ่งเรืองบะหมี่เกี้ยวนางเลิ้ง” มาเปิดต่อมรับรสกันหน่อย เครื่องแน่น ครบรส ต้องร้านนี้ ด้วยทีเด็ดของร้าน “รุ่งเรือง บะหมี่เกี้ยวนางเลิ้ง” เจ้าของบอกมาเองเลยว่า เส้นบะหมี่ของร้านการันตีความอร่อย ที่ร้านมีสูตรเฉพาะจากรุ่นสู่รุ่น ทุกขั้นตอนลงมือทำเอง


ด้วยกรรมวิธีใช้ไม้ไผ่และนวดด้วยมือ เพื่อให้ได้เส้นบะหมี่ที่ออกมาในแบบฉบับของร้าน จนได้เส้นบะหมี่ที่มีความเหนียวนุ่ม กินกับเมนูไหนก็อร่อย ออกมาเสิร์ฟให้กับลูกค้าที่กินแล้วต้องติดใจ นอกจากนี้ยังมีอีกหลากหลายเมนู ทั้งข้าวขาหมู ข้าวหน้าเป็ด หรือเมนูหมูกรอบ ที่ทอดกันสดๆ เห็นหนังกรอบๆฟูๆ เห็นแล้วชวนให้ท้องร้องแน่นอน


ต่ออีกร้านเลยแล้วกัน “ขนมผักกาด เจ๊เกี้ย นางเลิ้ง” มาด้วยสโลแกน “ของอร่อย มันต้องลอง”มาร้านนี้ไม่ลองคงไม่ได้ เพราะสโลแกนเชิญชวนกันขนาดนี้ “ของอร่อย มันต้องลอง”


ซึ่งขนมผักกาด จริงๆแล้วไม่ได้ทำจากผักกาดใบเขียวๆ นะ แต่ทำมาจากหัวไชเท้า ซึ่งคนไทยเนี่ยแหละที่เรียกหัวไชเท้าว่าผักกาด จนติดกลายมาเป็นชื่อเมนูอาหารชนิดนี้ ที่ร้านก็จะมีคนเข้ามาสั่งไปขาดเลยนะ โดยเฉพาะเมนูผัดไท ที่หากมาร้านนี้อย่าพลาดเชียว


“ร้านไส้กรอกปลาแนม” ร้านนี้ขายมาตั้งแต่ปี 2516 นับเป็นอีกไอเทมที่ไม่ควรพลาด ของเด็ดที่หาคนทำยากแล้ว เพราะกรรมวิธี และเครื่องเคียงที่เยอะจัด


วิธีกินไส้กรอกปลาแนมให้อร่อย มีเคล็ดลับที่ไม่ยากเลย เพียงเอาใบชะพูล มาทำเป็นห่อแล้วใส่ปลาแนมลงไป ถั่ว กระเทียมดอง พริกสด แล้วก็อ้าม เข้าปลากคำเดียวอร่อยมาก ความสดชื่นกระจายอยู่เต็มปากเลย อร่อยแบบนี้ แต่ราคาไม่แพงนะ ชุดละ 50 บาทเท่านั้น


ตลาดนางเลิ้ง พูดได้เลยนะว่านี่คือสวรรค์ของคนรักการกินมากๆ ร้านอาหารเต็มไปทั้งตลาดเลย แถมคุณภาพแล้วก็รสชาติก็ดีแทบทุกร้านเลย อย่าง “ร้านเนื้อตุ๋นนางเลิ้ง” ที่กลิ่นเตะจมูกแต่ไกล สายเนื้อไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง ทั้งเนื้อทั้งเครื่องในตุ๋นออกมาดีสุดๆ นุ่ม ละลาย จะกินแบบก๋วยเตี๋ยว หรือจะเกาเหลาก็ได้หมด ยิ่งช่วงเที่ยงๆ ต้องบอกว่าคนแน่นร้านสุดๆ


หรือจะร้านอาหารเด็ดๆ ในตลาดก็มีให้เลือกเยอะมาก ทั้งข้าวแกง เมนูกับข้าวก็หลากหลาย หรือจะขนมหวานก็มีให้เลือกซื้อเลือกชิมกันไม่หมด ต้องมาลองชิมเองแล้วละว่าร้านไหนจะเป็นเจ้าประจำของแต่ละคนกันบ้าง


อีกร้านที่เขาบอกว่าคนระดับบิ๊กๆ มากินที่นี่กันทั้งนั้น “ร้านแกงกะหรี่หมู-สตูลิ้นหมูนางเลิ้ง” การันตีความหอมของแกงกะหรี่ แถมความนุ่มของเนื้อสตูที่นุ่มละลายในปาก เคี้ยวง่ายอร่อยจนหยุดไม่ได้


ร้านนี้ต้องรีบมาหน่อยนะ ร้านนี้เปิดตั้งแต่ 7โมงครึ่ง และเที่ยงๆ บ่ายๆ ก็หมดหม้อแล้ว


กินข้าวแล้วอย่าลืมของหวาน ขาดไม่ได้สำหรับคนหวานๆแบบหนอยแน่ ร้านนี้น่ากินมากกกก “ร้านขนมหวานแม่สมจิตต์” แต่ละอย่างน่ากินสุด โดยเฉพาะถั่วแปบกุ้ง แป้งนุ่มลื่นคอ เข้ากันกับกุ้งตัวโตๆ เข้ากันอย่างไม่น่าเชื่อ เมนูนี้ยังไงก็ต้องชิม ส่วนของหวานอื่นๆ ก็อร่อยไม่แพ้กัน


ไม่ใช่แค่คนไทยนะ ชาวต่างชาติก็แวะเวียนมาอุดหนุนร้านขนมแม่สมจิตต์ ไม่ว่าจะขนมชั้น ข้าวเหนียวมูนหน้าต่างๆ ขนมหนียว หรือขนมไทยอื่นๆ ด้วยฝีมือที่สืบทอดมาจากฉบับชาววัง รับลองว่าอร่อยถูกปากแน่นอน


แถวนี้ยังมีคาเฟ่น่ารักซ้อนตัวอยู่ท่ามกลางตลาดเก่า เจ้าของปรับเปลี่ยนบ้านเก่ามาเป็นร้านให้นักท่องเที่ยวได้นั่งพัก นั่งเก็บบรรยากาศของวิถีชีวิตชุมชน


หรือพักแวะถ่ายภาพแนวๆกับสตรีทอาร์ตจากฝีมือศิลปินต่างประเทศ แล้วถ้าอากาศร้อนมากๆ อยากสดชื่นอีกนิดลองเดินมาที่ร้านชำอาม้าชิมน้ำเก็กฮวยสูตรบ้านๆ ก็เติมพลังออกไปเดินเที่ยวต่อได้แล้ว


“หลงรส” แล้วมา “หลงรัก” กันต่อ “ตลาดนางเลิ้งยังเป็นที่ของชุมชนงานศิลป์ ได้มีโอกาสแวะเวียนไปที่ “บ้านนางเลิ้ง” ได้พูดคุยกับพี่แดงเป็นเจ้าของบ้านนางเลิ้ง ที่สืบทอดศิลปะการแสดงละครชาตรีจากรุ่นสู่รุ่น ซึ่งพอพ่อแดงพาเข้ามาภายในบ้าน เหมือนถูกมนต์สะกดเลยนะ โดยเฉพาะจากกลิ่นของเครื่องหอม


พี่แดงบอกว่านี่แหละคือกลิ่นนางเลิ้ง แถมบรรยากาศบ่งบอกถึงความขลัง ความมีเสน่ห์ของศิลปะไทย ซึ่งวันนี้หนอยแน่ มีโอกาสลองทำแป้งพวง หนึ่งในงานศิลป์ที่คนรุ่นก่อนเรียนรู้จากในวัง ต้องใช้สมาธิ ค่อยๆหยดแป้งชนิดพิเศษที่ละจุดลงบนเส้นด้าย รอจนแห้งดึงออกมาเป็นเส้น นำมาประดับบนปิ่น เป็นเครื่องประดับที่ใครได้กลิ่นก็ต้องหลง หากมาถูกช่วง หรือนัดหมายไว้จะได้ นุ่งโจง ร้อง รำ หลงรักกับศิลปะไทยแบบไม่เหมือนที่ไหนเลย


ยังมีอีกบ้านที่อนุรักษ์งานศิลป์ของชุมชนนางเลิ้งไว้ “บ้านนราศิลป์” ที่พร้อมเปิดต้อนรับผู้คนเข้ามาเรียนรู้ พูดคุยกันวันเดียวไม่พอ ที่บ้านนราศิลป์ ของพี่ปู เป็นอีกที่ที่รักษาศิลปะ วัฒนธรรมของชาวนางเลิ้งเอาไว้อย่างดีเลย หัวโขนที่เห็นอยู่เหล่านี้มีอายุกว่าร้อยปีแล้วนะ เข้มขลังมากๆ ซึ่งบ้านนี้พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวอยู่เสมอ 


โดยเฉพาะสายกิจกรรมอยากลงมือทำ บอกพี่ปูได้เลย มาลองนั่งปักเครื่องโขน ซึ่งก็ไม่ง่ายแต่ก็ได้ประสบการณ์อีกแบบ แถมได้มีสมาธิกับการลงมือทำงานศิลป์ไทยๆ อีกด้วย เป็นอีกที่นะที่ได้ชื่นใจว่าศิลปะวัฒนธรรมของไทยของคนไทย ยังมีผู้ที่สานต่อ และกำลังส่งต่อคุณค่าสู่คนรุ่นต่อไปอยู่

อ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ..คิดอย่างไรกับเรื่องนี้ เขียนเลย
Terms of Service © 2025 MCOT.net All rights reserved นโยบายข้อมูลส่วนบุคคล นโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยเว็บไซต์ นโยบายเว็บไซต์ของ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)