X
เกิดอีกแล้ว Superspreading กระจายเชื้อวงกว้าง.. งานเดียว

เกิดอีกแล้ว Superspreading กระจายเชื้อวงกว้าง.. งานเดียว

6 ธ.ค. 2565
1730 views
ขนาดตัวอักษร

อาจารย์แพทย์จุฬาฯ เตือน !! เกิดขึ้นอีกแล้ว การระบาดจาก... การรวมกลุ่ม แบบไม่ใส่หน้ากากอนามัย หลังจบงาน พบว่า เกิด.. Superspreading Event การแพร่กระจายเชื้อโควิดฯ แบบเป็นวงกว้าง และรวดเร็ว โดยตรวจพบ มีคนติดเชื้อ แพร่เชื้อกันจำนวนมาก จากการประชุมวิชาการประจำปี ในกิจกรรมนั้น ทั้งนี้ อาจารย์หมอ ยังได้ยกงานวิจัยฯ จากมหาวิทยาลัยชื่อดังของญี่ปุ่น เผยความสามารถการแพร่ระบาด สายพันธุ์ย่อย BQ.1.1



วันนี้ (6 ธ.ค. 2565)​ รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat กล่าวถึงสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เกิดขึ้นทั่วโลก โดยระบุว่า เมื่อวาน (5 ธ.ค. 2565) ทั่วโลก ติดเพิ่ม 258,416 คน ตายเพิ่ม 461 คน รวมแล้วติดไป 649,895,046 คน เสียชีวิตรวม 6,646,222 คน

5 อันดับแรก ที่ติดเชื้อสูงสุด คือ ญี่ปุ่น, บราซิล, เกาหลีใต้, ฝรั่งเศส และไต้หวัน

เมื่อวานนี้ (5 ธ.ค. 2565) จำนวนติดเชื้อใหม่ มีประเทศจากยุโรป และเอเชีย ครอง 6 ใน 10 อันดับแรก และ 13 ใน 20 อันดับแรกของโลก

จำนวนติดเชื้อใหม่ ในแต่ละวันของทั่วโลก ตอนนี้ มาจากทวีปเอเชีย และยุโรป รวมกันคิดเป็นร้อยละ 71.69 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิต คิดเป็นร้อยละ 82.23

นอกจากนี้ รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ ได้เปิดเผยข้อมูล งานวิจัยล่าสุด เกี่ยวกับความสามารถ ในการแพร่ระบาดของ สายพันธุ์ย่อย BQ.1.1 พร้อมยกกรณีที่น่าเป็นห่วง จากการแพร่กระจายเชื้อโควิดฯ ที่เกิดขึ้นเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็ว ในการประชุมวิชาการ ที่ประเทศออสเตรเลีย โดยระบุว่า



ทีมงานจาก The Sato Lab สถาบันวิทยาศาสตร์การแพทย์ มหาวิทยาลัยโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เผยแพร่ผลการศึกษาล่าสุด เกี่ยวกับสายพันธุ์ย่อย BQ.1.1 ที่ทั่วโลกกังวล และกำลังแพร่ระบาด ขยายวงมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง พบว่า เมื่อเทียบกับสายพันธุ์ ที่ระบาดอยู่เดิม คือ BA.5 แล้ว BQ.1.1 ดื้อต่อภูมิคุ้มกัน ที่เกิดจากการเคยติดเชื้อ BA.2 และ BA.5 หลายเท่า

นอกจากนี้ BQ.1.1 ยังมีสมรรถนะ ที่จะจับกับเซลล์มากกว่า BA.5 ถึง 2.4 เท่า และมากกว่า BA.2 ถึง 4.6 เท่า

ผลการศึกษานี้ ตอกย้ำให้เรารู้ว่า แม้ปัจจุบัน ไทยเราจะมี BA.2.75.x กำลังระบาดอยู่ แต่มีโอกาสสูงที่ BQ.1.1 ที่ระบาดมากในยุโรป และอเมริกา จะเข้ามาระบาดในประเทศไทยได้ และอาจทำให้ติดเชื้อกันได้มากขึ้น การไปฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น มีความจำเป็น เพื่อลดโอกาสป่วยรุนแรง เสียชีวิต และ Long COVID และเป็นการรับมือกับการระบาด ทั้งในตอนนี้ และในอนาคตอันใกล้ ทั้งนี้ เพื่อให้สามารถประคับประคอง การดำเนินชีวิต เศรษฐกิจ และสุขภาพ ไปให้ได้ตลอดรอดฝั่ง เหนืออื่นใด การใช้ชีวิตประจำวันต้องมีสติ ไม่ประมาท และป้องกันตัวอย่างสม่ำเสมอ

อุทาหรณ์ จากการประชุมที่ เมลเบิร์น ออสเตรเลีย

ข่าวที่เป็นที่สนใจกันมาก ตอนนี้ คือ การเกิดการระบาดแบบ superspreading event ซึ่งเกิดขึ้นใน การประชุมวิชาการ ประจำปี 2022 ของสมาคมภูมิคุ้มกันวิทยา ของออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ (Annual scientific meeting of the Australian and New Zealand Society of Immunology) ซึ่งจัดที่ กรุงเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ในช่วงปลายเดือนที่ผ่านมา

เป็นการจัดประชุม ที่มีคนเข้าร่วมจำนวนมาก และไม่ได้มีการใส่หน้ากากป้องกันตัว รวมถึงมีกิจกรรม ที่มีการพบปะสังสรรค์ใกล้ชิด ต่อมาพบว่า มีคนติดเชื้อ แพร่เชื้อกันจำนวนมาก ถือเป็นเหตุการณ์ ที่สะท้อนให้เห็น ถึงความจำเป็นที่คนในสังคม รวมถึงนักวิชาการ ด้านสุขภาพ และการแพทย์ ควรปรับตัวในการดำเนินชีวิต ท่ามกลางสถานการณ์ระบาดทั่วโลก ที่ยังไม่สิ้นสุด

ทำงาน ประชุม เรียน ท่องเที่ยว หรือ ใช้ชีวิตประจำวันต่าง ๆ ควรมีการระมัดระวัง ป้องกันตัว หากต้องพบปะกัน ควรหมั่นถามไถ่กันว่า สบายดีไหม ใครไม่สบาย ควร..งดคลุกคลีใกล้ชิดกับคนอื่น การใส่หน้ากากอย่างถูกต้อง สม่ำเสมอนั้น ถือเป็นหัวใจสำคัญ มีความจำเป็น และจะช่วยลดโอกาสแพร่เชื้อ ติดเชื้อลงไปได้มาก พฤติกรรมของเรา จะเป็นตัวกำหนด ความเสี่ยงของตัวเราเองว่า จะเป็นเช่นไร เพียงแต่ความเสี่ยง ที่เกิดขึ้นกับเรานั้น ไม่จบแค่ที่เรา ยังนำไปสู่คนรอบข้าง ทั้งในครอบครัว ที่ทำงาน และสังคม


#BackboneMCOT
อ้างอิง และขอบคุณข้อมูล จาก :

เฟซบุ๊ก : Thira Woratanarat (รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์)
https://www.facebook.com/thiraw



อ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ..คิดอย่างไรกับเรื่องนี้ เขียนเลย
Terms of Service © 2025 MCOT.net All rights reserved นโยบายข้อมูลส่วนบุคคล นโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยเว็บไซต์ นโยบายเว็บไซต์ของ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)