ถือเป็นกำลังใจ และเป็นธรรมเนียมปฎิบัติ ที่ผู้สมัครผู้ว่าราชการ กรุงเทพมหานคร ต้องไปสักการะ มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่ 4 สถานที่ที่ผู้สมัคร (หรือคนที่มาทำงานและะพักพิงอาศัยในกรุงเทพฯ) จะต้องไปสักการะ เริ่มต้นด้วย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำเมืองพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรณ์ หรือ พระแก้วมรกต ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เหตุที่ต้องไปสักการะขอพรท่านเพราะท่านเป็นพระคู่บ้านคู่เมือง ใครที่อยากจะมีโอกาส มีอำนาจบริหารเมืองหลักเมืองหลวงของประเทศ ย่อมต้องได้รับพรจากพระแก้วมรกตพระที่เป็นใหญ่ของบ้านเมือง
ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร ไหว้พระแล้ว ต้องไหว้เทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์ที่ปกป้องคุ้มครองเมืองกรุงเทพฯมาตั้งแต่สร้างกรุง จะเป็นใครไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่พระหลักเมือง หรือเจ้าพ่อหลักเมือง อีกทั้งเทพยดา ที่ปกป้องคุ้มครองเมืองกรุงเทพฯ อาทิ พระเสื้อเมือง พระทรงเมือง พระกาฬไชยศรี เจ้าพ่อเจตคุปต์ เจ้าพ่อหอกลอง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกองค์ควรทำพิธีบรวงสรวงขอพรเพื่อขอโอกาสในการเข้ามาทำงานใหญ่ของกรุงเทพฯ
พระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ เหตุที่ต้องไปสักการะพระอินทร์ เพราะพระอินทร์ คือสัญลักษณ์ของกรุงเทพมหานคร สามารถสักการระที่อนุสาวรีย์ที่ กรุงเทพมหานครที่ดินแดง หรือทุกสถานที่ที่มีเทวรูปพระอินทร์ อาทิ ศาลาว่าการกทม. 2 ที่ดินแดง , วัดเทวราชกุญชร หรือพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ
อนุเสาวรีย์พระเจ้าตากสิน ละเลยไม่ได้ที่ต้องไปสักการะ สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งเมืองธนบุรี ด้วยขนาดของกรุงเทพฯ ไม่ได้อยู่เฉพาะฝั่งพระนคร แต่ยังมีพื้นที่ฝั่งธนบุรี จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก พระเจ้าตากสินมหาราช ผู้ที่เป็นที่พึ่งและหลักชัยของชาวฝั่งธนบุรี นอกจากนี้ ถ้าจะขอพรให้เกิดความมั่นใจ ยังมี เจ้าพ่อกวนอู ที่คลองสาน ศาลกวนอู่ที่เก่าที่สุดในกรุงเทพฯก็ว่าได้อายุมากว่า 250 ปี ท่านกวนอูนั้นเป็นสัญลักษณ์ของผู้ซื่อสัตย์สุจริต พร้อมสู้พร้อมชนกับคนชั่ว การขอพรเพื่อให้ได้ชัยในการขิงเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม.พลาดไม่ได้ที่จะต้องไปขอพร