กระทำชำเราอันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิงแล้วถ่ายคลิป

ปกติแล้วความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเรา ตาม มาตรา ๒๗๖ ซึ่งมีโทษจำคุกตั้งแต่สี่ปีถึงยี่สิบปีและปรับตั้งแต่แปดหมื่นถึงสี่แสนบาท วรรคแรกนั้นจะเป็นความผิดที่ยอมความได้ แต่ถ้าการกระทำชำเราอันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิง ตาม มาตรา ๒๗๖ วรรคสามนั้นจะเป็นความผิดที่ยอมความไม่ได้นะครับ และโทษหนักกว่าวรรคแรก โทษจำคุกตั้งแต่สิบปีถึงยี่สิบปีและปรับตั้งแต่สามแสนบาทถึงสี่แสนบาท หรือ จำคุกตลอดชีวิต โทษจะค่อนข้างหนักจะเห็นได้ว่าเริ่มต้นคือจำคุกขั้นต่ำเลยสิบห้าปี จนถึงหนักสุดอาจจำคุกตลอดชีวิต



การกระทำชำเราอันมีลักษณะเป็น "การโทรมหญิง" คืออะไรครับ การโทรมหญิงคือการที่ผู้ลงมือกระทำชำเราต้องมากกว่าหนึ่งคน ผลัดเปลี่ยนไปกันทำอย่างน้อยสองคน คนละครั้ง ถ้าคนเดียวข่มขืนชำเราอีกคนแค่ยืนขู่หรือช่วยจับไม่ให้เหยื่อดิ้นแต่ไม่ได้ชำเราแบบนี้ไม่เป็นการโทรมหญิงแต่ทั้งสองคนอาจมีความผิดเป็นตัวการร่วมร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๗๖ ประกอบ มาตรา ๘๓

กรณีถ้ามีผู้กระทำความผิดแค่สองคนถ้าเหยื่อยินยอมผู้กระทำชำเราหนึ่งคน แต่อีกคนหนึ่งไม่ยินยอม เช่นนี้ก็ไม่เป็นโทรมหญิง แต่ถ้าผู้กระทำความผิดมากกว่าสองคนเช่นสามคน ถ้ามีการชำเราโดยเหยื่อไม่ยินยอมอย่างน้อยสองคนก็เป็นโทรมหญิงได้ครับ

แต่ถ้าเหยื่อเป็นเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปี ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๗๗ มีหลักว่าไม่ว่าเด็กจะยินยอมหรือไม่ยินยอมก็มีความผิด และถ้าการกระทำนั้นมีลักษณะเป็นการโทรมเด็กโทษจะหนักคือต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิตสถานเดียวครับ ตามที่มาตรา๒๗๗วรรคสี่ระบุไว้

ปัจจุบันคนร้ายมักนิยมถ่ายคลิปเหยื่อเก็บไว้เผื่อข่มขู่เหยื่อหรือแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ ซึ่งคนร้ายมักจะทำการถ่ายคลิปเพื่อเหยื่อขณะถูกกระทำชำเราเก็บไว้เพื่อใช้ข่มขู่เหยื่อ โดยบางทีอาจข่มขู่ว่าจะเผยแพร่คลิป ทำให้เหยื่ออาจไม่กล้าที่จะดำเนินคดี ตามพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา(ฉบับที่ ๒๗) ได้มีการแก้ไข เพิ่มเติม มาตรา ๒๘๐/๑ บัญญัติว่า "ถ้าผู้กระทำความผิดตามมาตรา ๒๗๖ มาตรา๒๗๗ มาตรา ๒๗๘ หรือ มาตรา ๒๗๙ ได้บันทึกภาพหรือเสียงการกระทำชำเราหรืออนาจารนั้นไว้ เพื่อแสวงประโยชน์โดยมิชอบสำหรับตนเองหรือผู้อื่น ต้องระวางโทษหนักกว่าที่บัญญัติไว้ในมาตรานั้นๆ หนึ่งในสาม
ถ้าผู้กระทำความผิดตามวรรคหนึ่ง เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งภาพหรือเสียงการกระทำชำเราหรือการกระทำอนาจารที่บันทึกไว้ ต้องระวางโทษหนักกว่าที่บัญญัติไว้ในมาตรานั้นๆ กึ่งหนึ่ง"

ซึ่งจะเห็นได้ว่าเป็นการเอาผิดกับผู้กระทำความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเราที่ถ่ายคลิปไว้ เพื่อแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ แต่ผู้จะผิดมาตรานี้ต้องเป็นผู้ที่กระทำความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเรา หรือ กระทำความผิดฐานกระทำอนาจาร ดังนั้น ถ้าเป็นบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ผู้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดเลย เช่น เดินผ่านมาเห็นเหตุการณ์ที่กำลังมีการข่มขืนกระทำชำเราพอดีแล้วถ่ายคลิปเก็บไว้จึงไม่มีความผิดตามมาตรานี้ แต่ถ้าเป็นการกระทำในลักษณะตัวการร่วมกันกระทำความผิด เช่นนายเอ นายบี ร่วมกันข่มขืนกระทำชำเรานางสาวซี ช่วงที่ผลัดกันกระทำชำเรา นายเอผลัดกันเป็นคนถ่ายคลิปเช่นนี้อาจเข้าข่ายผิดมาตรานี้ครับ

ความผิดนี้มีมูลเหตุจูงใจหรือเจตนาพิเศษคือ "เพื่อแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบสำหรับตนเองหรือผู้อื่น" ซึ่งรวมหลายกรณีครับ อาจจะเป็นประโยชน์ด้านสนองความใคร่ ประโยชน์ในลักษณะการค้า และน่าจะรวมไปถึงการเอาไว้ข่มขู่blackmailด้วย ซึ่งถ้ามีเจตนาพิเศษหรือมูลเหตุจูงใจตามนี้ เมื่อบันทึกภาพหรือเสียงการข่มขืนกระทำชำเราหรืออนาจารแล้ว ก็มีความผิดทันทีแม้จะยังไม่เผยแพร่หรือส่งต่อก็ตาม แต่ถ้ามีการเผยแพร่หรือส่งต่อ ผู้กระทำก็จะต้องรับโทษหนักขึ้น ตามมาตรา ๒๘๐/๑ วรรคสอง

นอกจากนี้ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๕ ได้มีโปรโมชั่นพิเศษ ว่า ถ้าการกระทำความผิดตามมาตรา ๒๗๖ หรือมาตรา ๒๗๗ จะข่มขืนกระทำชำเราธรรมดาหรือกระทำในลักษณะโทรมหญิงก็ตาม ถ้าเป็นการกระทำแก่บุพการี ผู้สืบสันดาน พี่น้องร่วมบิดามารดาหรือร่วมแต่บิดาหรือมารดา ญาติสืบสายโลหิต ศิษย์ซึ่งอยู่ในความดูแล ผู้อยู่ในความควบคุมตามหน้าที่ราชการ ผู้อยู่ในความปกครอง ในความพิทักษ์หรือในความอนุบาล หรือ ผู้อยู่ใต้อำนาจด้วยประการอื่นใด ผู้กระทำต้องระวางโทษหนักกว่าที่บัญญัติไว้ในมาตรานั้นๆหนี่งในสามครับ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าผู้กระทำผิดมีอาชีพเป็นครู แล้วไปข่มขืนกระทำชำเราศิษย์ซึ่งอยู่ในความดูแล ก็จะต้องรับโทษโปรโมชั่นเพิ่มเติมจากมาตรานี้ครับ

ผศ.ธนาวุฒิ วงศ์อนันต์
มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์