พระพิฆเนศ หรือ พระคเณศ มหาเทพผู้ทรงภูมิปัญญายิ่งใหญ่ ผู้ขจัดอุปสรรคและอำนวยความสำเร็จในทุกสิ่งทรงเป็นเทพเจ้าที่มีผู้เคารพนับถือมากที่สุด ด้วยความเฉลียวฉลาด มีฤทธานุภาพมาก ทรงคุณธรรม ทำได้รับการสักการบูชา
ฤทธานุภาพของพระเป็นเจ้า ถูกถ่ายทอดออกมาผ่านเทวะลักษณะ เราเห็น พระคเณศ มีกายเป็นมนุษย์ มีเศียรเป็นช้าง มีงาข้างเดียว มีท้องพลุ้ย มีหูยาน พระวรกายสีแดงบ้าง สีขาวบ้าง หรือ สีเหลือง นุ่งห่มภูษาแดง มี 4 กร ถือบ่วงบาศ ขอสับช้าง และมีเทพศัสตราวุธอีกหลายชนิดทุกสิ่งมีความหมาย
เศียรเป็นช้าง ลักษณะสำคัญ มีงาเดียวและหัก (งาขวา) เหลือแต่งาด้านซ้าย พระองค์มีพระนามว่า เอกกะทันตาผู้มีงาเดียว บางครั้งอาจเห็นว่างาซ้ายหัก เรื่องนี้ไม่ผิด แต่มีความเชื่อว่าเทวรูปที่งาขวาหักจะแรงกว่า งวง จะปรากฏ งวงโค้งแตะขนมโมทกะ จึงได้พระนาม วักกตรตุณฑะผู้มีงาโค้ง พระนาม เอกกะทันตา และวักกตรตุณฑะ ปรากฏในคาถาสรรเสริญพระคเณศ เศียรจะต้องมีขนาดใหญ่แสดงให้เห็นถึงสติปัญญา
พุงใหญ่ และพระวรกายสมบูรณ์ สื่อความหมายถึงความ อุดมสมบูรณ์หนึ่งแผ่นดินที่สามารถเก็บอาหารและแร่ธาตุไว้ได้มากจนได้รับพระนามว่า มโหทร (พุงใหญ่) ลัมโพทร (พุงใหญ่) ภุมโภทร (ท้องเหมือนหม้อ)
ขวานและบ่วงบาศ หมายถึงสิ่งที่ใช้ตัดและสิ่งที่ใช้ผูกอีกนัยยะหนึ่งแสดงให้เห็นว่าพระองค์เป็นผู้ต่อสู้อุปสรรคและเป็นผู้ประธานซึ่งความสำเร็จขวานอีกมีความหมายหนึ่ง หมายถึงการฟาดฟันซึ่งอุปสรรค ในบางปางอาจจะใช้นาคหรือดอกบัวที่มีก้านยาวแทนบ่วงบาศ
ตาเล็กหมายถึงความมุ่งมั่น หูที่ใหญ่หมายถึงการฟังเยอะการตระหนักรู้เยอะ ขนมโมทกะหมายถึงความอุดมสมบูรณ์ ปากที่เล็กหมายถึงพูดน้อยกระทำมาก
สิ่งที่ทรงถือ วัชระเป็นตัวแทนของการใช้สติปัญญาทางอาวุธในการเอาชนะอุปสรรคทั้งปวง
นอกจากสิ่งที่เราเห็นบนเทวะลักษณะแล้วยังมีสิ่งที่หมายถึงองค์พระพิฆเนศอีกบางประการเช่น สัญลักษณ์สวัสดิกะ ดอกชบาดอกไม้ที่พระฆเณศโปรดที่สุด และยังมีเกรดแห่งการตั้งพระบูชาหรือเทวรูปที่ห้ามยึดติดถาวรเทวะรูปกับแท่นบูชาหรือที่ตั้ง การตั้งเทวรูปห้ามตั้งสามองค์ แต่ตั้งมากหรือน้อยกว่า 3 ได้สิ่งเหล่านี้ปรากฏอยู่ในคัมภีร์โบราณที่กล่าวถึงเรื่องราวของพระองค์