ประเทศไทยในยุคสมัยของกรุงรัตนโกสินทร์ โดนโจมตีด้วยโรคระบาดหลายครั้ง ครั้งใหญ่ๆ คือ สมัยรัชกาลที่ 2 และรัชกาลที่ 5 แต่ละครั้งเรามีวิธีรับมือที่แตกต่างกัน ในรัชสมัยสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย เกิดโรคระบาดอหิวาตกโรค ผู้คนล้มตายจำนวนมาก ครั้งนั้นโปรดเกล้าฯ ให้จัดพระราชพิธี อาพาธพินาศ
อาพาธพินาศ ทำอะไรบ้าง ? พิธีจะจัดขึ้นใน 3 วัด โดย ให้เอาหม้อใหม่ 27 ใบ ใส่น้ำบริสุทธิ์ บาตรดิน 3 ใบ ใส่ทรายบริสุทธิ์“ แล้วจับมงคลสูตร มงคลย่นสมหม้อน้ำและบาตรทรายวงสายสิญจน์ แล้วนิมนต์พระ 20-30 รูปมาเจริญพระพุทธมนต์ ตั้งแต่ 7 ตำนาน 12 ตำนาน สามวัน วันละ 3 เวลา สักการะด้วยธูปเทียนข้าวตอกดอกไม้ ” ตั้งพิธีบูชาพระรัตนตรัย เทวดาผู้รักษาเมืองและพระศาสนา ให้ผู้ทำพิธีถือศีล 5 และศีล8 เป็นเวลา 3 วัน พิธีนี้ยึดพระรัตนตรัยเป็นที่มั่น โดยหวังให้โรคภัยไข้เจ็บอันตรธานหายไป เมื่อตั้งเครื่องบูชาครบแล้ว ก็ทำพิธีสงฆ์อีก 5 พระอาราม แล้วเพิ่มเป็น 7 พระอารม โดยการสวดมนต์ พอครบ 5 วัน ให้สวดภาณยักษ์ แล้วเอาน้ำและทรายนั้นไปโปรยทั่วพระนคร จุดหมายเพื่อขับไล่โรค ใช้สิ่งที่เป็นมงคลขับไล่อวมงคล การไล่นอกจากสวดยังยิงปืนใหญ่ปืนไฟ เคาะเกราะตีระฆังไล่ให้โรคไปไกลๆ จุดหมายหลักคือสร้างขวัญและกำลังใจให้คนในพระนคร อหิวาระบาดต่ออีกระยะแล้วก็จากไป
พอสมัยรัชกาลที่5 อหิวาตกโรคมาอีก ระบาดในกรุงเทพฯ และเมืองริมแม่น้ำทั้งเจ้าพระยา ท่าจีน แม่กลอง คราวนี้สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ไม่ได้ใช้วิธีสร้างกำลังใจด้วยการสวดมนต์ รัชกาลที่ 5 วางแผนการรักษาพยาบาล ซึ่งตอนนั้นเริ่มมีการปฏิรูประบบการแพทย์ไทยบ้างแล้ว แม้จะไม่มีหมอฝรั่งมาก รัชกาลที่ 5 ตั้งโรงพยาบาลชั่วคราว เรียกว่าสถานที่กักโรค สมัยนี้ก็โรงพยาบาลสนามที่กำลังเร่งสร้างกันทั่วบ้านทั่วเมืองตอนนี้ นวัตกรรมโรงพยาบาลสนามนะเรามีมาตั้งนานแล้ว รัชกาลที่ 5 โปรดฯให้ตั้งสถานที่กักโรคในพื้นที่ที่มีการระบาดทุกจังหวัด แล้วส่งหมอไปรักษา จนโรคหายไปจากพื้นที่จนหมดแล้วจึงปิดโรงพยบาลสนามเมื่อโรคระบาดสงบลง
จะเห็นว่าเมืองไทยมีวิธีการรับมือกับวิกฤติ แต่ละยุคสมัยทำไม่เหมือนกัน จุดประสงค์ของการสวดมนต์ เพื่อรักษาจิตใจ จุดประสงค์ของการมุ่งรักษาโรคให้บรรเทาลงเป็นการแก้ไขที่เหตุ เวลาที่เกิดวิกฤติคนเราจะทุกข์ใจและทุกกาย กุศโลบายในการสร้างกำลังใจใช้มงคลไล่โรคร้ายก็คล้ายๆกับ อาณาจักรศรีวิชัย สมัยพระเจ้าศรีธรรมโศกราช ทำหัวนโมหว่านทั่วเมือง จนหัวนโมยังปรากฏอยู่ถึงทุกวันนี้ มาถึงการรักษาโรคที่ต้นเหตุด้วยการออกไปตั้งโรงพยาบาลสนามแล้วสกัดโรคสกัดการระบาดทางน้ำ ทำให้อหิวาอำลาจากไป เราไม่รู้ว่าโควิด-19 จะรู้จักรัตนสูตรหรือไม่ แต่การสวดน่าจะให้ให้ผู้คนมีกำลังใจขึ้น ควบคู่ไปกับการสร้างกำลังใจคงต้องสร้างความตะหนักรู้ และความเชื่อมั่น สิ่งสำคัญที่สุดในยุคนี้คือความเชื่อมั่นในระบการรักษาพยาบาลและความเชื่อมั่นในวัคซีนสิ่งเหล่านี้บทสวดมนต์น่าจะสร้างได้ยาก