Apple ประกาศเปิดตัว iPad Air รุ่น 11 นิ้ว ที่ออกแบบใหม่ และรุ่น 13 นิ้วแบบใหม่หมดที่อัดฉีดพลังแรงโดยชิป M2 ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ iPad Air มาในสองขนาด ได้แก่ รุ่น 11 นิ้ว ที่พกพาสะดวกสุดๆ และรุ่น 13 นิ้ว ที่มาพร้อมจอภาพที่ใหญ่ขึ้นเพื่อให้ผู้ใช้มีพื้นที่ในการทำงาน เรียนรู้ และเล่นสนุกได้มากขึ้น โดยทั้งสองรุ่นมาพร้อมประสิทธิภาพอันน่าทึ่งและความสามารถสุดล้ำที่ทำให้ iPad Air ทั้งทรงพลังและอเนกประสงค์ยิ่งกว่าครั้งไหนๆ และด้วยความที่ชิป M2 นั้นมาพร้อม CPU, GPU และ Neural Engine ที่เร็วยิ่งขึ้นiPad Air ใหม่จึงมีประสิทธิภาพยิ่งกว่าที่เคย และเป็นอุปกรณ์ที่ทรงพลังเหลือเชื่อสำหรับ AI ยิ่งไปกว่านั้นกล้องหน้าอัลตร้าไวด์ 12MP พร้อมคุณสมบัติจัดให้อยู่ตรงกลางยังย้ายมาอยู่บนขอบแนวนอนของ iPad Air แล้ววันนี้ ซึ่งลงตัวสุดๆ สำหรับการโทรแบบวิดีโอนอกจากนี้ iPad Air ยังมี Wi-Fi ที่เร็วยิ่งขึ้น และรองรับ5G ที่เร็วสุดแรงในรุ่นเซลลูลาร์ ผู้ใช้จึงต่อติดกับทุกเรื่องได้ทุกที่ทุกเวลา และด้วยดีไซน์ที่พกพาสะดวก แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานตลอดวัน จอภาพ Liquid Retina
กล้องหน้าในแนวนอน กล้องหน้าอัลตร้าไวด์ 12MP บน iPad Air ที่ออกแบบใหม่ได้ย้ายมาอยู่บนขอบแนวนอน โดยมาพร้อมคุณสมบัติจัดให้อยู่ตรงกลาง ซึ่งใช้การเรียนรู้ของระบบ (ML) เพื่อปรับให้ทุกคนอยู่ในเฟรมโดยอัตโนมัติต้องบอกเลยว่าตำแหน่งกล้องใหม่นี้ยอดเยี่ยมมากเพราะอยู่ในแนวที่ผู้ใช้ iPad Air ใช้งานบ่อยที่สุด ไม่ว่าจะพูดคุยกับเพื่อนและครอบครัวผ่าน FaceTime หรือเข้าร่วมการประชุมผ่านวิดีโอในขณะที่ใช้งานคีย์บอร์ดบน iPad Air ไปด้วย ขณะที่กล้องหลังไวด์ 12MP บน iPad Air นั้นสามารถถ่ายภาพความละเอียดสูงและวิดีโอระดับ 4K ที่มีรายละเอียดครบครันพร้อมการรองรับสโลว์โมชั่น ที่ 240 fps ไมโครโฟนคู่ได้รับการออกแบบมาให้ทำงานร่วมกับกล้องอย่างลงตัว โดยสามารถบันทึกเสียงจากกล้องที่ใช้งานอยู่ และลดเสียงรบกวนรอบข้างให้เหลือน้อยที่สุดiPad Air ใหม่ยังมีลำโพงสเตอริโอในแนวนอนพร้อมระบบเสียงตามตำแหน่งอีกด้วย โดยรุ่น 13 นิ้วจะให้คุณภาพเสียงที่ดียิ่งขึ้นพร้อมเบสที่เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า ซึ่งเหมาะกับการฟังเพลงและดูวิดีโออย่างเพลิดเพลิน
ประสิทธิภาพที่จัดเต็มยิ่งกว่าเดิมด้วยชิป M2
ชิป M2 ยกระดับประสิทธิภาพของ iPad Air แบบครั้งใหญ่ด้วย CPU แบบ 8-core และ GPU แบบ 10-core ที่เร็วยิ่งขึ้น ชิป M2 เป็นชิปอันทรงพลังที่ได้รับการปรับปรุงให้เหนือกว่าชิป M1 ในหลายๆ ด้าน จึงเรียกได้ว่ามีประสิทธิภาพแบบก้าวกระโดดสำหรับผู้ที่อัปเกรดจากiPad Air รุ่นก่อนหน้า และเมื่อรวมกับแบนด์วิดท์หน่วยความจำที่เร็วขึ้นด้วยแล้ว iPad Air ใหม่จึงเร็วกว่า iPad Air รุ่นก่อนหน้าที่มีชิป M1 เกือบ 50% สำหรับงานและการสร้างสรรค์ทุกประเภท1 และเมื่อเปรียบเทียบกับ iPad Air ที่ใช้ชิป A14 Bionic จะพบว่า iPad Air ใหม่มีประสิทธิภาพเร็วขึ้นสูงสุด 3 เท่า โดยผู้ใช้จะสัมผัสได้ถึงความเร็วของชิป M2 ในทุกๆ สิ่งที่พวกเขาทำ ตั้งแต่การสร้างคอนเทนต์ที่ดึงดูดใจได้รวดเร็วกว่าที่เคยในAffinity Designer ไปจนถึงการเล่นเกมที่เน้นกราฟิกหนักๆ อย่าง Zenless Zone Zero
ชิป M2 ทำให้ iPad Air ใหม่เป็นอุปกรณ์ที่น่าทึ่งสำหรับAI เพราะมาพร้อม Neural Engine แบบ 16-core ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และเร็วกว่าชิป M1 ถึง 40% ยิ่งเมื่อผนึกกำลังกับตัวเร่งความเร็ว ML ใน CPU และ GPU ที่ทรงพลังเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้ของระบบบนอุปกรณ์ ควบคู่ไปกับสถาปัตยกรรมหน่วยความจำแบบรวมของ Apple Silicon ด้วยแล้ว iPad Air จึงมอบประสิทธิภาพด้าน AI ได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งการใช้ประโยชน์จากประสิทธิภาพนี้นี่แหละที่ทำให้ผู้ใช้ได้เพลิดเพลินกับคุณสมบัติอันชาญฉลาดของ iPadOS เช่นค้นดูจากภาพ ดึงตัวแบบออกจากพื้นหลัง และข้อความในภาพ iPadOS ยังมีเฟรมเวิร์กขั้นสูง เช่น Core ML ที่ช่วยให้นักพัฒนาใช้ประโยชน์จาก Neural Engine เพื่อส่งมอบคุณสมบัติด้าน AI อันทรงพลังบนอุปกรณ์ได้อย่างง่ายดาย ระบบนิเวศที่หลากหลายของแอปยังมาพร้อมคุณสมบัติ AI สุดล้ำที่ช่วยให้ผู้ใช้ทำสิ่งต่างๆ เช่น ใช้เครื่องมือการปรับอัตโนมัติใน Photomator เพื่อปรับแต่งภาพถ่ายด้วยการคลิกเพียงครั้งเดียวโดยใช้โมเดล AI หรือวิเคราะห์ประสิทธิภาพการกีฬาอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนด้วย Onform และความสามารถในการติดตามการเคลื่อนไหว ยิ่งไปกว่านั้น iPad Air ยังรองรับโซลูชันแบบคลาวด์ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ใช้งานแอปเพื่อการทำงานและการสร้างสรรค์สุดล้ำที่อาศัยความสามารถของ AI อย่างMicrosoft Copilot สำหรับ Microsoft 365 และ Adobe Firefly ได้
การเชื่อมต่อแบบไร้สายที่เร็วขึ้นระหว่างเดินทางช่วยให้ผู้ใช้ทำสิ่งต่างๆ ได้มากขึ้นบน iPad Air โดย iPad Air ใหม่รองรับ Wi-Fi 6E ซึ่งมาพร้อมประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นสูงสุด2 เท่าจากรุ่นก่อนหน้า ผู้ใช้จึงสามารถดาวน์โหลดไฟล์เล่นเกมออนไลน์ และสตรีมภาพยนตร์ได้ ส่วนรุ่น Wi-Fi + Cellular ที่มี 5G ก็ช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงไฟล์ ติดต่อกับเพื่อนร่วมงาน และสำรองข้อมูลได้ในพริบตาไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนและ iPad Air ใหม่ในรุ่นเซลลูลาร์ยังเปิดใช้งานด้วยeSIM ซึ่งเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่าซิมการ์ดจริง ผู้ใช้จึงสามารถเชื่อมต่อและถ่ายโอนแผนบริการที่มีอยู่แบบดิจิทัลได้อย่างรวดเร็ว และจัดเก็บแผนบริการเซลลูลาร์หลายแผนไว้ในอุปกรณ์เครื่องเดียวได้ ลูกค้าสามารถเชื่อมต่อกับแผนข้อมูลไร้สายบน iPad Air ใหม่ได้อย่างง่ายดายในกว่า 190 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก โดยไม่ต้องขอรับซิมการ์ดจริงจากผู้ให้บริการในพื้นที่
Apple Pencil Pro มาพร้อมความสามารถที่มหัศจรรย์มากยิ่งขึ้นและการโต้ตอบใหม่ๆ อันทรงพลังที่จะยกระดับประสบการณ์ Apple Pencil ให้ดียิ่งขึ้นไปอีก เซ็นเซอร์ใหม่ที่อยู่ในด้ามสามารถรับรู้เมื่อผู้ใช้บีบ และจะแสดงชุดเครื่องมือเพื่อให้ผู้ใช้สลับเครื่องมือ น้ำหนักเส้น และสีได้อย่างรวดเร็ว ทั้งหมดนี้โดยไม่รบกวนกระบวนการสร้างสรรค์ ส่วนเอนจิ้นแบบสั่นที่ออกแบบมาโดยเฉพาะจะสั่นเบาๆ เพื่อยืนยันเมื่อผู้ใช้บีบ แตะสองครั้ง หรือคลิกไปที่ Smart Shape เพื่อประสบการณ์การใช้งานที่เป็นธรรมชาติอย่างน่าทึ่ง นอกจากนี้ยังมีไจโรสโคปที่ให้ผู้ใช้หมุน Apple Pencil Pro เพื่อควบคุมเครื่องมือที่ใช้อยู่ได้อย่างแม่นยำ เพียงแค่หมุนด้ามก็สามารถเปลี่ยนแนวของเครื่องมือประเภทปากกาและแปรงรูปทรงต่างๆ ได้เช่นเดียวกับการใช้ปากกาและกระดาษจริงๆ และยังสามารถใช้การยกปลาย Apple Pencil เพื่อดูแนวการหมุนของเครื่องมือได้อย่างแม่นยำก่อนจะลงมือเขียนอีกด้วย