ทรู คอร์ปอเรชั่น ผนึก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วม ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย ชูแคมเปญ “ทรูทั่วไทย” ทั่วไทย ทั่วถึง ทุกคน : เช็ด สัญญาณถึงที่ 4 ภาคทั่วไทย เช็คอินความสุขให้คนไทย เช็คสปิดเน็ตไม่สะดุด ชัวร์ทุกพื้นที่ พร้อมลุยเดินสายสร้างคอนเทนท์แนะนำจุดท่องเที่ยวทั่วไทย พิสูจน์พลังสัญญาณทรู แบบอัน ซีนไม่อันสัญญาณ ร่วมสร้างประสบการณ์ระดับเวิลด์คลาสเพื่อลูกค้าทรู-ดีแทค และนักท่องเที่ยว ทั้งไทยและต่างชาติ ชูจุดเด่นเน็ตเวิร์คที่ดีที่สุด พร้อมคัดสรรสินค้าบริการ ตลอดจนสิทธิพิเศษ ที่ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์นักท่องเที่ยวยุคดิจิทัลอย่างครบครัน
นายมนัสส์ มานะวุฒิเวช ประธานคณะผู้บริหาร บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “ทรู คอร์ปอเรชั่น พร้อมร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นำเทคโนโลยีดิจิทัล ร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศไทย ซึ่ง เป็นอีกหนึ่งภารกิจหลักของทรู คอร์ปอเรชั่น นอกเหนือจากการดูแลลูกค้าทรูและดีแทคกว่า 52 ล้านคน ให้ได้ประสบการณ์ระดับเวิลด์คลาสทั้งด้านเน็ตเวิร์คที่ดีที่สุด และสินค้าบริการสิทธิพิเศษที่เหนือระดับตอบ โจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัล จากข้อมูลของ World Bank ที่มีรายงานการพัฒนาโลก ได้ให้ข้อมูลที่ยืนยัน ว่า “เทคโนโลยีดิจิทัล"เป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงให้กับองค์กรภาครัฐและเอกชน ที่จะนำไปสู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจของแต่ละประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงเรื่องการ ท่องเที่ยว ที่เทคโนโลยีดิจิทัลจะเข้าไปมีบทบาทอย่างชัดเจน จึงนับเป็นโอกาสสำคัญสำหรับประเทศไทย เพราะล่าสุด สถาบัน IMD สวิตเซอร์แลนด์ ที่ทั่วโลกใช้เป็นข้อมูลจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขัน ของประเทศ (World Competitiveness) ได้รายงานถึงดัชนีชี้วัดเรื่องโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ของ ประเทศไทยที่โดดเด่น คือ
ประสิทธิภาพของโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมของประเทศไทย ขยับขึ้นเป็นอันดับที่ 5 ของโลก ทั้ง เรื่องของ การลงทุนด้านโทรคมนาคมที่ไทยสูงสุดเป็น NNN BHUP UPRISI อันดับที่ 5 ของโลก และเรื่องคุณภาพสัญญาณความเร็ว Internet Bandwidth Speed ที่ประเทศไทยขึ้น เป็นอันดับที่ 5 ของโลก
ทรู คอร์ปอเรชั่น จึงมั่นใจว่า เราจะเป็นอีกหนึ่ง Key Driver ที่สำคัญที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ โดยเฉพาะเรื่องการท่องเที่ยวของประเทศไทย ที่นอกเหนือจากด้าน Connectivity ความครอบคลุมของ คลื่นสัญญาณ และความเร็ว แรง ที่ทำให้นักท่องเที่ยวได้ใช้งานอย่างเต็มที่แล้ว เรายังจะนำนวัตกรรม เทคโนโลยีดิจิทัล ร่วมเสริมขีดความสามารถสนับสนุนภาคธุรกิจ ผู้ประกอบการขนาดเล็ก ขนาดกลางขนาด ใหญ่ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยวให้มีศักยภาพมากยิ่งขึ้น เพิ่มโอกาสในการดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่ว โลกให้ประทับใจทุกครั้งที่มาเยือนประเทศไทยอีกด้วย”
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า รัฐบาล ต้องการให้ “ประเทศไทย” เป็นศูนย์กลางทางการท่องเที่ยว (Tourism Hub) ขับเคลื่อนเศรษฐกิจในทุกมิติ อย่างยั่งยืน มุ่งเน้นการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ ทั้งเมืองหลักและเมืองรอง โดยผ่าน Soft Power ในเรื่อง อาหาร วัฒนธรรม เทศกาลงานประเพณี คอนเสิร์ต งานศิลปะ งานภาพยนตร์ กีฬา หรือศิลปะป้องกันตัว ในปี 2567 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เร่งฟื้นฟูการท่องเที่ยว ทั้ง Demand และ Supply ด้วย หัวใจหลักของการสร้างระบบนิเวศใหม่ที่มีคุณค่า สมดุล และยั่งยืน พร้อมเสริมภูมิคุ้มกันสร้างความมั่นคง ทางการท่องเที่ยว ก้าวสู่ High Value and Sustainable Tourism อย่างแท้จริง สร้างรายได้จากนักท่องเที่ยว ที่มีกำลังซื้อสูง พัฒนาห่วงโซ่อุปทานร่วมกับพันธมิตรในอุตสาหกรรมฯ ให้พร้อมรับกลุ่มนักท่องเที่ยว คุณภาพ รวมทั้งกระจายรายได้สู่ฐานรากอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม คาดว่าจะสร้างรายได้รวมกว่า 3 ล้าน ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ 1.92 ล้านล้านบาท และรายได้จากตลาด ท่องเที่ยวในประเทศ 1.08 ล้านล้านบาท
ททท. มีโครงการ “365 วัน มหัศจรรย์เที่ยวเมืองรอง” ที่ต้องการผลักดันสร้างกระแสการท่องเที่ยวเมือง รองตลอดทั้งปี 2567 พร้อมบูรณาการร่วมมือกับภาครัฐและภาคเอกชน จัดแคมเปญและกิจกรรมส่งเสริม การ ท่องเที่ยวเมืองรอง นำเสนอสินค้าและการท่องเที่ยวไทยตามแนวคิด Soft Power สะท้อนเอกลักษณ์และอัต ลักษณ์ของเมืองรองแต่ละภูมิภาคทั่วประเทศ มาเป็นจุดขายให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวได้ตลอด 365
ซึ่งคาดการณ์ว่าในปี 2567 รายได้จากการท่องเที่ยวเมืองรองจะเติบโตขึ้นร้อย 10-15 จากปี 2566 อย่าง แน่นอน ซึ่งจะทำให้เกิดการกระจายรายได้ไปสู่ชนท่องเที่ยวเกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐ์ในแต่ละจังหวัด เพิ่มขึ้น ส่งผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ อันนี้ไปสู่การท่องเที่ยวที่ในภาคต
นายชาวัด เมห์โรทรา รองประธานคณะผู้บริหาร บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “หลังจากที่ผ่าน ทันช่วงของโควิด 10 แล้ว สัญญาณบวกของการท่องเที่ยวไทยชัดเจนยิ่งขึ้น โดยเฉพาะประเทศไทย จุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก และนักท่องเที่ยวในประเทศไทยที่เพิ่มมากขึ้น สังเกตได้จาก ปริมาณการใช้งานดาตัวที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ในจุดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ซึ่ง สอดคล้องกับเทรนด์การท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ของโลก คือกลุ่ม Digital Norra ที่เดินทางท่องเที่ยว และทำงานไปด้วยได้ทุกที่ทุกเวลา โดยนำเทคโนโลยีดิจิทัล มาเป็นตัวกลางในการทำงานให้สามารถทำางาน ได้จากทั่วโลก” ซึ่งกลุ่มนี้ให้ความสำคัญกับเรื่องคุณภาพสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่ดี สามารถทำงานได้ทุกที่ ทุกเวลา ทรู พร้อมที่จะนำจุดแข็ง ทั้งเรื่องสัญญาณคุณภาพ การสรรหาสิทธิพิเศษ ที่ตอบโจทย์กลุ่ม ท่องเที่ยว ตลอดจน การพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ ความบันเทิง ผ่าน TrueID ที่นักท่องเที่ยวสามารถดูหนัง ดูข่าว หรือเชียร์ บอลทีมโปรดได้ตลอดเวลา รวมทั้งหากมีปัญหาทางการแพทย์ ก็สามารถปรึกษาหมอออนไลน์ ผ่าน Telemedicine ของกลุ่มทรู คือ แอปหมอดี รวมทั้งหากเป็นลูกค้าทรู ก็ยังเพิ่มความมั่นใจกับประกันอุบัติเหตุตลอดการเดินทาง รวมทั้งสิทธิ พิเศษต่างๆ ที่รับรองจะถูกใจนักท่องเที่ยวตลอดการเดินทาง
นายประเทศ ดันกุรานันท์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านเทคโนโลยี บมจ. ทรูคอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “ทรู คอร์ปอเรชั่น พร้อมให้ความมั่นใจกับคนไทย และนักท่องที่ยวทุกคน ว่า ทรู 56 เป็นเครือข่ายที่ดีที่สุด โดยเฉพาะภายหลังการรวมกัน ที่ทำให้มีเสาสัญญาญเพิ่มมากขึ้น คลื่นความถี่เพิ่มมากขึ้น ความ ครอบคลุมกว้างไกลยิ่งขึ้น ทีมงานวิศวกรผู้เชี่ยวชาญทั้งในประเทศและระดับโลกที่ผ่านมากขึ้น รวมทั้งการ นำ AI เข้ามาเสริมศักยภาพเครือข่ายให้อัจฉริยะยิ่งขึ้น โดยเราได้มีการยกระดับเครือข่ายทรู 5G ให้ทันสมัย (Network Modernization) ทยอยอัปเกรดเสาสัญญาณทั่ว ประเทศมาตั้งแต่ปลายปี 2566 นำร่องไปแล้วหลายพื้นที่ทั่วประเทศไทย โดยเฉพาะเมืองที่เป็นสมาร์ท ซิตี้ อย่าง เชียงใหม่ ขอนแก่น นครราชสีมา ภูเก็ต และสงขลา ตลอจนโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) อีกด้วย ซึ่งได้ผลเป็นที่น่าพอใจมากคือคุณภาพสัญญาณและความเร็วสูงสุดในการใช้งานบนมือ ถือ ทั้ง 5G และ 4G เพิ่มมากขึ้นเป็น 2 เท่า ซึ่งจะเสริมศักยภาพการใช้งานเน็ตในทุกจุดท่องเที่ยวให้ได้รับประสบการณ์ระดับเวิล์คลาสได้อย่างแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ Machine Learning มาใช้ตรวจดูการใช้สัญญาณ ทำให้เรารู้ถึงปริมาณการใช้งานในแต่ละพื้นที่ โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยว หรือช่วงเทศกาลที่มีคนใช้งานเยอะ และแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็วหากเกิด กรณีฉุกเฉิน เพื่อยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าให้ดีที่สุด การันตีจากสถาบันทดสอบคุณภาพระดับโลก nPert ฝรั่งเศสกับรางวัลเครือข่ายที่ดีที่สุด 8 ปีซ้อน
เช็คสัญญาณถึงที่ 4 ภาคทั่วไทย เช็คอินความสุขให้คนไทย เช็คสปิดเน็ตไม่สะดุด ชัวร์ทุกพื้นที่ นายฐานพล มานะวุฒิเวช หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการตลาด บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “ด้วยความพร้อมด้านเครือข่ายคุณภาพของทรู จึงเป็นที่มาของแคมเปญ “ทรูทั่วไทย” ที่จะเดินทางไป 4 ภาคทั่วประเทศตลอดทั้งปี 2567 เพื่อร่วมพิสูจน์สัญญาณทรู 5G เช็คสปิดเน็ตทุกพื้นที่ และยกระดับ ประสบการณ์ใช้งานอินเทอร์เน็ต ทั่วไทย ทั่วถึง ทุกคน ทุกพื้นที่ ทั้งในเมืองหลวง เมืองหลักและเมืองรอง นำร่องเช็คสัญญาณ 4 จังหวัด อาทิเชียงใหม่, ขอนแก่น, อยุธยา และสงขลา โดยเน้นสถานที่ Unseen ใน จังหวัดต่างๆ เพื่อชวนให้เกิดการท่องเที่ยวในประเทศไทย และยังมีสิทธิประโยชน์และสิทธิพิเศษระดับเวิลด์ คลาสที่จะสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติตลอดการเดินทางท่องเที่ยว ตั้งแต่ก่อนเริ่มทริป, ระหว่างทริปจนถึงจบทริป อาทิ ฟรีเซ็ตเมนูและเครื่องดื่มที่สนามบิน 9 แห่งทั่วประเทศ ประกันอุบัติเหตุฟรี ส่วนลดคาเฟ่และร้านอาหารชั้นนำทั้งเมืองหลักและเมืองรอง, รถกอล์ฟรับส่งจาก เครื่องบินจนถึงบริเวณตรวจคนเข้าเมือง และอีกหลากหลายสิทธิพิเศษจากพาทเนอร์ชั้นนำทั่วประเทศ”
ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีโครงการสิทธิพิเศษที่กำลังเกิดขึ้น ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างททท. กับทรู ที่สนับสนุน การท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์ คือ กิจกรรม 365 วันแห่งการเดินทางของคนรักกาแฟ ท่องเที่ยวเมืองรอง ผ่าน
รสชาติกาแฟอันเป็นเอกลักษณ์ในแต่ละชุมชน ทั้ง ยังมีความสุขกับการท่องเที่ยวชิมกาแฟได้ตลอดทั้งปี แถมยังมีกิจกรรมสะสมไอเท็มพิเศษ แก้วกาแฟ 10 เมืองรอง ที่ททท. เป็นผู้ออกแบบ Limited Edition อีกด้วย”