เชียงใหม่ยังเอาไม่อยู่ หมอกควันไฟป่า ยังปกคุมทั่วทั้งจังหวัด ค่ามลพิษพุ่งขึ้นอันดับ 1 ของโลกอีกครั้ง ประชาชนอยู่ลำบาก
วันนี้มองเห็นม่านควันด้วยตาเปล่าชัดเจน แสบตาและจมูก ต้องเปิดน้ำพุรอบคูเมือง อยู่บนสะพานลอยในระยะ 1 – 2 กิโลเมตร มองเห็นเครื่องบินท่าอากาศยานเชียงใหม่ลางเลือน
สภาพตัวเมืองเชียงใหม่ ยังคงเป็นเมืองในหมอก จากควันไฟไหม้ป่า ที่เกิดขึ้นกระจายใน 17 อำเภอ ลอยเข้ามาปกคุม รวมทั้งมีหมอกควันข้ามแดน ลอยเข้ามาในพื้นที่ ทำให้ประชาชน มีอาการแสบตาและแสบจมูก
วันนี้มองเห็นม่านหมอกควันไฟ ด้วยตาเปล่าชัดเจน ดอยสุเทพ ถูกกลุ่มควันปกคุมจนมิด และอากาศก็ร้อนอบอ้าว ทำให้อยู่กลางแจ้งลำบาก หากไม่มีความจำเป็น ก็จะพักผ่อนอยู่ภายในบ้าน และเข้าห้างสรรพสินค้าหลบร้อนและควันกันมากขึ้น เทศบาลนครเชียงใหม่ ต้องเปิดน้ำพุรอบคูเมือง ช่วยดูดซับควันไฟ ส่วนท่าอากาศยานเชียงใหม่ ยืนจากบนสะพานลอย หน้าสำนักงานขนส่งเชียงใหม่ มองไปยังรันเวย์ ในระยะประมาณ 1 – 2 กิโลเมตร แทบมองไม่เห็นอาคาร และอากาศยาน ที่จอดตามหลุมจอด
วันนี้ถือว่าหนักหนาที่สุด ส่วนเครื่องบินที่บินขึ้นลง ในระยะ 1 – 2 กิโลเมตร มองเห็นลางเลือน หากระยะไกลกว่านั้น ก็จะมองไม่เห็น ตัวเครื่องที่ทะยานขึ้นบิน ส่วนตามถนนสายเชียงใหม่ - หางดง ตำบลแม่เหียะ อำเภอเมือง มองในระยะ 1 กิโลเมตร เห็นม่านหมอกควัน ลอยเต็มไปหมด ค่ามลพิษยังสูงเพิ่มขึ้น พื้นที่ตำบลช้างเผือก ค่าPM2.5 อยู่ที่ 79.2 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร พื้นที่ตำบลศรีภูมิ ค่าPM2.5 อยู่ที่ 75.8 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร พื้นที่ตำบล สุเทพ ค่า PM2.5 ค่าอยู่ที่ 75. ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร พื้นที่ตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว ค่าPM2.5 อยู่ที่ 119.8 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และพื้นที่ตำบลหางดง อำเภอฮอด ค่าPM2.5 อยู่ที่ 167.8 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร มีผลกระทบต่อสุขภาพ ส่วนเว๊ปไซด์ ไอคิวแอร์จัดอันดับให้เชียงใหม่ ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา มีคุณภาพอากาศแย่อันดับ 1 ของโลก มีผลกระทบต่อสุขภาพ