20 ก.ย.66 - มหาดไทย ชวนมาช็อป เตรียมจัดงาน OTOP Midyear 2023 "ที่สุดแห่งภูมิปัญญา รังสรรค์จากการพัฒนา เพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจไทย" ส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก ยกระดับผลิตภัณฑ์ชุมชนสู่สากล เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน
นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดงาน OTOP Midyear 2023 "ที่สุดแห่งภูมิปัญญา รังสรรค์จากการพัฒนา เพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจไทย" ณ ศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์ โดยมีนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ร่วมในงาน
นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายในการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมโดยการส่งเสริมให้ประชาชนมีอาชีพ มีงานทำ และสร้างรายได้ โดยการสนับสนุนโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ สนับสนุนให้ชุมชนได้มีโอกาสเข้าถึงองค์ความรู้สมัยใหม่ แหล่งเงินทุน รวมทั้งพัฒนาขีดความสามารถในการบริหารจัดการและการตลาดเพื่อเชื่อมโยงสินค้าจากชุมชนสู่ตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยมุ่งหวังให้ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการจำหน่ายสินค้า ประกอบกับกระทรวงมหาดไทยมีนโยบายในการส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก การผลิต การตลาด และการจำหน่าย "มุ่งเน้นการลดรายจ่าย สร้างรายได้ ลดความเหลื่อมล้ำ" เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับประชาชน ทั้งในระดับครัวเรือนและชุมชน
ประเทศไทยเรามีของดีมีคุณภาพอยู่แล้ว แต่เราจะผลักดันผลิตภัณฑ์ชุมชนไปสู่สากล กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก และเป็นกำลังใจให้กับพี่น้องประชาชนที่ผ่านช่วงเวลาแห่งความยากลำบากหลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งการจัดงาน OTOP Midyear 2023 นี้ จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งให้พี่น้องประชาชนคนไทยและชาวต่างชาติได้รู้จักสินค้าชุมชน และยังเป็นการประกาศให้คนทั้งโลกได้รับรู้ถึงคุณค่าของงานหัตถกรรมที่เป็นภูมิปัญญาของประเทศไทย ในการยกระดับผลิตภัณฑ์ให้มีความทันสมัยสู่สากลมากยิ่งขึ้น คนทุกเพศ ทุกวัยสามารถสวมใส่ได้ นับเป็นพระกรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ที่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทำให้ประชาชนคนไทยทุกคนได้รับโอกาสที่ดีของชีวิตในการที่จะต่อยอดผลิตภัณฑ์ของชุมชน รวมถึงการพัฒนากลวิธีในการขาย ทั้งออนไซด์ (On-site) และออนไลน์ (Online)
ถ้าเราทุกคนมีความมุ่งมั่นตั้งใจในการยกระดับผลิตภัณฑ์ ก็จะสร้างคุณค่าและเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าสามารถแข่งขันในต่างประเทศได้ นำไปสู่ตลาดสากล ซึ่งเม็ดเงินทั้งหมดจากการซื้อขายผลิตภัณฑ์ชุมชนจะหมุนกลับไปสู่พี่น้องประชาชนคนไทยในชุมชน เป็นการสร้างโอกาสให้กับคนต่างจังหวัด เพื่อการมีคุณภาพชีวิตที่ดี จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนคนไทยทุกท่าน และภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ไปช่วยกันอุดหนุนสินค้าไทย ที่เราภาคภูมิใจ มีความชื่นชมซึ่งนอกจากจะได้เลือกซื้อสินค้าแล้ว ยังเป็นการทำบุญเป็นการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนคนไทยด้วยกัน ส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก นำไปสู่ประเทศไทยที่ยั่งยืน"
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า เราทุกคนได้เห็นผลิตภัณฑ์สินค้า OTOP มีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการจัดงาน OTOP Midyear 2023 นี้ ยังเป็นโอกาสอันดีของพี่น้องประชาชนทั่วประเทศที่ได้รับพระกรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ที่พระองค์ท่านทรงทุ่มเทพระวรกายลงพื้นที่ไปโค้ชชิ่งกลุ่มทอผ้าในภูมิภาคต่าง ๆ รวมถึงการพระราชทานพระดำริให้คณะทำงาน "ผ้าไทยใส่ให้สนุก" ไปพัฒนาผลิตภัณฑ์ของพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ ทำให้ผลิตภัณฑ์ชุมชน งานหัตถกรรมที่เป็นภูมิปัญญาไทย ได้มีรูปแบบที่ทันสมัยสวยงาม มีความเป็นเอกลักษณ์ความเป็นไทยที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องมาจนถึงทุกวันนี้
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงไปให้กำลังใจกลุ่มทอผ้าและได้พระราชทานพระดำริในการผ่าทางตันของวงการแฟชั่นผ้าไทย ด้วยการกระตุ้นภาคการผลิต โดยทำให้ผลิตภัณฑ์ หัตถศิลป์ หัตถกรรม ได้รับการพัฒนายกระดับสู่สากล ไปทำให้เกิดความต้องการของผู้บริโภค ในการเลือกซื้อเลือกหาผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มมากยิ่งขึ้น และขณะเดียวกัน พระองค์ยังทรงเน้นย้ำเรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมควบคู่กับการพัฒนาแฟชั่น โดยพระราชทานพระดำริ "แฟชั่นยั่งยืน : Sustainable Fashion" ด้วยการผลักดันให้กลุ่มทอผ้าย้อมผ้าด้วยสีธรรมชาติ ซึ่งสอดคล้องกับหลักการ Zero Waste ที่ไม่ทำให้เกิดของเสียหลงเหลือ"
สำหรับการจัดงาน OTOP Midyear 2023 ครั้งนี้ จะเป็นโอกาสที่สำคัญของคนไทยและประเทศชาติ 3 ประการด้วยกันคือ
1) ผลความสำเร็จของพี่น้องประชาชนที่ได้รับพระกรุณาโค้ชชิ่งจากสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ที่ริเริ่มตั้งแต่บ้านดอยกอย ที่สามารถยกระดับรายได้ของพี่น้องประชาชนชาวนา จนมีรายได้เพิ่มขึ้นจาก700 บาทเป็น 20,000 บาทต่อเดือน ในปัจจุบัน อีกทั้งยังส่งเสริมให้มีการรวมกลุ่มกัน ใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ การปลูกหม่อนเลี้ยงไหม มุ่งเน้นการพึ่งพาตนเองตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงซึ่งเป็นแนวทางนำไปสู่ความยั่งยืน
2) งานนี้จะเป็นการแสดงสินค้าที่ผ่านความมุ่งมั่นตั้งใจของพี่น้องประชาชนกลุ่มทอผ้าที่มีใจมุ่งมั่นในการผ่าทางตันยอมปรับเปลี่ยนการออกแบบตัดเย็บ ทำให้ผ้าไทยมีความทันสมัย มีความสวยงาม เหมาะสมกับทุกเพศ ทุกวัย
3) งานนี้จะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าตลอดเวลาตั้งแต่การเกิดโรคระบาดโควิด-19 ถึงปัจจุบัน พี่น้องประชาชนมีคุณภาพที่ดีขึ้น มีงาน มีอาชีพ มีรายได้ ซึ่งการที่คนหลากหลายมาร่วมในงานนั้น นอกจากจะได้มารับชม มาเลือกซื้อสินค้าชุมชนงานหัตถกรรมไทยแล้ว ยังจะได้มาเยี่ยมชมให้กำลังใจ กลุ่มฝึกฝนวิชาชีพที่มาจากพื้นที่ห่างไกล ซึ่งแต่ละกลุ่มนั้นมีพัฒนาการที่แตกต่างกัน จึงจะเป็นโอกาสที่ดีในการศึกษาเรียนรู้ ถ่ายทอดซึ่งกันและกัน จึงเป็นประโยชน์ในการรวมกลุ่ม ตลอดจนถึงการแสดงสินค้าและบริการจากภูมิปัญญาไทย เพื่อการดึงดูดคู่ค้าจากต่างประเทศ ในการนำผลิตภัณฑ์ไทยไปขายยังต่างประเทศในอนาคต ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อภาคเศรษฐกิจของไทย โดยเฉพาะเศรษฐกิจฐานราก ที่จะเป็นคุณประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนและประเทศชาติโดยรวม
นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า การจัดงาน "OTOP Midyear 2023" ในครั้งนี้ จัดขึ้นเป็นปีที่ 17 แล้ว ภายใต้ธีมงาน "ที่สุดแห่งภูมิปัญญา รังสรรค์จากการพัฒนา เพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจไทย" เป็นจุดเริ่มต้นของนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ที่มีความล้ำค่าจากฝีมือคนไทยที่สะท้อนภูมิปัญญาและความสามารถของคนไทยอย่างชัดเจน โดยภายในงานมีกิจกรรมที่มีความหลากหลาย ประกอบด้วย
1) โซนนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
2) โซน OTOP Trader จังหวัดและประเทศไทย จัดสรรพื้นที่ในรูปแบบ Open Area เพื่อจัดแสดงผลงานและจัดหาช่องทางทางการตลาดให้แก่สินค้า OTOP ทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ
3) โซนแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP 3 - 5 ดาว ที่ผ่านการคัดสรรรสุดยอดหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ไทยประจำปี พ.ศ. 2565 กว่า 1,200 บูธ
4) โซนโอทอปชวนซิม มากกว่า 160 ร้านค้าทั่วประเทศ
ไฮไลต์สำคัญของงานนี้ ยังมีโซนศิลปิน OTOP จัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากศิลปิน OTOP กว่า 40 ราย ที่อนุรักษ์และสืบทอดภูมิปัญญาจากรุ่นสู่รุ่น โซนชุมซนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี โซนผ้าไทยใส่ให้สนุกและ First Lady โซนพิเศษภายในงานอีกมากมาย อาทิ โซน Health & SPA ที่ได้สร้างสรรค์พื้นที่ภายในงานให้ทุกท่าน ได้พักผ่อนหย่อนใจไปกับบรรยากาศที่ผ่อนคลายสไตล์สปาไทย พร้อมกับการจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรคุณภาพดีให้ทุกท่านได้เลือกช้อป
นอกจากนี้ ยังมีมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินนักร้องชื่อดังมาร่วมสร้างความบันเทิงอย่างคับคั่ง โดยงานจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23 กันยายน - 1 ตุลาคม 2566 ณ ชาเลนเจอร์ฮอลล์ 2 - 3 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานีจังหวัดนนทบุรี ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยสนับสนุนในการสร้างโอกาส สร้างอาชีพ และสร้างรายได้ ให้พี่น้องผู้ผลิตผู้ประกอบการ