29 มี.ค.66 - กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง นำเทคโนโลยีสุดล้ำ มาช่วยยกระดับการปฏิบัติภารกิจด้านสำรวจติดตาม เฝ้าระวัง “เพื่ออนุรักษ์ ฟื้นฟู เพิ่มจำนวนทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง”
กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) โดยสถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รับมอบเทคโนโลยีสำรวจติดตามและประเมินจำนวนสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนม กลุ่มประชากรไกลฝั่ง เพื่อนำมายกระดับการปฏิบัติภารกิจในด้านการคุ้มครอง อนุรักษ์ สำรวจ ประเมินและฟื้นฟู ปะการัง หญ้าทะเล สัตว์ทะเลหายากให้เกิดความสมบูรณ์ของระบบนิเวศและทรัพยากรทางทะเล เพื่อให้สามารถดำรงศักยภาพเป็นแหล่งอาศัยและเพาะพันธุ์สัตว์น้ำวัยอ่อน ซึ่งช่วยเกื้อหนุนต่อการประมง และการท่องเที่ยว ตลอดจนรักษา คุ้มครองระบบนิเวศทรัพยากรทางทะเล รวมทั้งพืชและสัตว์ทะเลหายากที่ใกล้สูญพันธุ์
โดยสถานการณ์ปัจจุบันส่งผลกระทบต่อทรัพยากรทางทะเลอันเกิดจากการกระทำความผิดต่อทรัพยากรทางทะเล และสถานการณ์สัตว์ทะเลหายากเกยตื้น ส่งผลให้พืชและสัตว์ทะเลหายากมีปริมาณที่ลดน้อยลงและพบได้ยากขึ้น ถ้าหากไม่ได้รับการติดตามเฝ้าระวัง คุ้มครองและฟื้นฟูอย่างใกล้ชิดก็อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของพืชและสัตว์ทะเลหายากที่นับว่าเป็นทรัพยากรทางทะเลที่สำคัญ ส่งผลให้เกิดความเสียหายกระทบต่อระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อม ด้านเศรษฐกิจ สังคม และการท่องเที่ยวของประเทศอย่างต่อเนื่อง
นายอภิชัย เอกวนากุล รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (รรท.อทช.) กล่าวว่า ทช. เห็นความสำคัญของการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาใช้สำรวจ ติดตามและประเมินจำนวนสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนมกลุ่มประชากรไกลฝั่งเพื่อใช้ติดตามสถานภาพ และเฝ้าระวังการสูญเสียทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รวมไปถึงการศึกษาพฤติกรรมและถิ่นอาศัยของสัตว์ทะเลหายากกลุ่มที่มีการอพยพย้ายถิ่นระหว่างทางไกลเป็นประจำทุกปี เพื่อการอนุรักษ์ ฟื้นฟู ให้เกิดการเพิ่มจำนวนของสัตว์ทะเลต่าง ๆ รวมทั้งกลุ่มที่ได้รับการประกาศเป็นสัตว์ป่าสงวนและสัตว์คุ้มครองและหายากในน่านน้ำประเทศไทย อาทิ โลมาอิรวดี โลมาปากขวด โลมาหลังโหนก วาฬบรูด้า และพะยูน เป็นต้น
ดังนั้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานและประสิทธิผลของฐานข้อมูลสำคัญ ทช. จึงเห็นประโยชน์ในการนำเทคโนโลยีอากาศยานไร้คนขับรวมทั้งเทคโนโลยีของระบบฐานข้อมูลที่ทันสมัยเข้ามาเป็นเครื่องมือการทำงานด้านการอนุรักษ์ การบริหารจัดการสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนม การเฝ้าระวัง รวมถึงการอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเล ป่าชายเลน และการป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง การรับมอบเทคโนโลยีฯ ในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับการสำรวจทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เพื่อให้มีประสิทธิภาพและรวดเร็ว ตามนโยบายของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม “ทส. ยกกำลัง เอ็กซ์” ที่ให้พร้อมปรับตัวภายใต้วิถียุคใหม่ New Normal เพื่อก้าวสู่ระบบดิจิทัลที่ทันสมัยนำเทคโนโลยีมาใช้ในการทำงานรูปแบบใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดความเสี่ยงในการเกิดอันตราย
นางสุมนา ขจรวัฒนากุล ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า ทช. รับมอบเทคโนโลยีสำรวจติดตามและประเมินจำนวนสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนม จำนวน 10 รายการ เพื่อนำมาพัฒนาการปฏิบัติภารกิจด้านการสำรวจ และติดตาม เพื่อการอนุรักษ์ ฟื้นฟู ให้เกิดการเพิ่มจำนวนของทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งมากยิ่งขึ้น อาทิ
•อากาศยานไร้คนขับเป็นแบบปีกตรึง ขึ้นลงทางดิ่ง (VTOL:Vertical Takeoff and Landing) ที่สามารถปฏิบัติงานการบิน ความเร็วได้ไม่น้อยกว่า 60 กิโลเมตร/ชั่วโมง และสามารถปฏิบัติการบินภารกิจได้อย่างต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 120 นาทีต่อเที่ยวบิน
•กล้องถ่ายภาพความละเอียดสูงที่ติดตั้งมาพร้อมกับอากาศยานไร้คนขับ และมีประสิทธิภาพรองรับการขึ้นบิน จากระดับความสูงพื้นดินได้สูงสุด 4,500 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง
•สามารถกำหนดเส้นทางบินโดยอัตโนมัติ แบบกำหนดแนวบินด้วยรูปแบบพื้นที่รูปปิด และแนวเส้นการบิน ได้เป็นอย่างน้อย
พร้อมทั้งสามารถนำข้อมูลภาพถ่ายทางอากาศที่ได้ไปประมวลผลต่อเพื่อให้ออกมาเป็นภาพถ่าย Orthophoto (2 มิติ)
ซึ่งครั้งนี้กรมฯ ส่งมอบให้หน่วยงานในสังกัด ได้แก่ ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยฝั่งตะวันออกศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทางทะเลอันดามันตอนบน และศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทางทะเลอันดามันตอนล่าง นำไปปฏิบัติภารกิจต่อไป