2 เม.ย.65 - ยินดีกับ 4 นักเรียนทุน ได้ไป NASA ของจริง กับโครงการทุนการศึกษาค้นพบนักบินอวกาศไทย: ภารกิจ7 ประการ จัดเต็มเดินทางไปเยือนชุมชนอุตสาหกรรม STEAM-อวกาศ ของสหรัฐ ฯ ถึงสถานที่จริง
สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) (GISTDA), ศูนย์อวกาศและจรวดแห่งชาติสหรัฐ ฯ และ บริษัท ซิกเนเจอร์ มาร์เก็ตติ้ง แอนด์ เทคโนโลยี จำกัด ร่วมกันจัดงานแถลงข่าวที่ห้องแถลงข่าวของกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และ นวัตกรรม ถึงเป้าหมาย 7 ประการของคณะทำงานในโครงการทุนการศึกษาค้นพบนักบินอวกาศไทย รุ่นที่ 3 ในการเดินทางไปเยือน ศูนย์อวกาศและจรวดแห่งชาติสหรัฐ ฯ และศูนย์ข้อมูลข่าวสารนาซา, มหาวิทยาลัยแอละแบมาแห่งเมืองฮันส์วิลล์, NASA ศูนย์การบินอวกาศนายพล Marshall, และศูนย์ประสานงานวิทยาศาสตร์ในความร่วมมือระหว่าง NASA และ สำนักงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศสหรัฐ(USAID) โครงการ SERVIR ในระหว่างวันที่ 21 เมษายน ถึง 1 พฤษภาคม 2565
คณะทำงานของโครงการทุนการศึกษาค้นพบนักบินอวกาศไทย รุ่นที่ 3 ที่จะเดินทางไปยังเมืองฮันส์วิลล์ ของรัฐแอละแบมา ซึ่งเป็นเมืองต้นกำเนิดองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ หรือ NASA และ เป็นเมืองที่อุตสาหกรรมหลักคือ การผลิตจรวดทุกประเภท นำโดย นายกฤษณ์ คุนผลิน ผู้แทนศูนย์อวกาศและจรวดแห่งชาติสหรัฐ ฯ, ผศ. ดร. เสริมศักดิ์ อยู่เย็น คณบดีวิทยาลัย อุตสาหกรรม การบินนานาชาติ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
นักเรียนทุนการศึกษาค้นพบนักบินอวกาศไทย 4 คน ได้แก่
- นักเรียนนายเรืออากาศ จิรภัทร คำนิล
- นางสาวชนิศาพร้อมพัฒนภักดี
- นายถิรวัฒน์ บุญสร้าง
- นายกันตพิสิฐ ลิ้มศุภพุฒิกุล
อาจารย์สอนด้านฟิสิกส์ จากสถาบันออนดีมานด์ เอ็ดดูเคชั่น 2 ท่าน ได้แก่
- อาจารย์ ภัทรพล ไพศาลภาณุมาศ
- อาจารย์สรณภพ เทวปฏิคม
พร้อมด้วย ด.ญ. พรปวีณ์ ม้วนหรีด ตัวแทนเยาวชน Artemis Generation (ประเทศไทย); ศิลปิน BNK48 ที่มีพื้นฐานและสนใจด้านวิทยาศาสตร์ 2 คน ได้แก่ นางสาวเฌอปราง อารีย์กุล และ นางสาวกวิสรา สิงห์ปลอด
ศาสตราจารย์ ดร. นายแพทย์ สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม กล่าวว่า บทบาทของอวกาศในศตวรรษที่ 21 แตกต่างจากศตวรรษที่ผ่านมาอย่างสิ้นเชิง ในศตวรรษนี้ ทั้งภาครัฐ และเอกชนทั่วโลกได้สนใจการใช้ประโยชน์คุณค่าจากอวกาศ ขยายเขตแดนธุรกิจอวกาศมากยิ่งขึ้น ความเคลื่อนไหวของทุกภาคส่วน ล้วนเป็นประจักษ์หลักฐานที่ปฏิเสธไม่ได้ว่า เขตแดนอวกาศเป็นโอกาสของมวลมนุษยชาติ ที่กำลังขยายและเติบโตอย่างรวดเร็ว อวกาศไม่ใช่แค่การประยุกต์ใช้งานเพียงการนำทางด้วยดาวเทียมนำทางหรือ GNSS การพยากรณ์อากาศ การติดตาม PM2.5 หรือการทำ smart agriculture แต่รวมไปถึง การสร้าง ออกแบบ ผลิตดาวเทียมผลักดัน พรบ.กิจการอวกาศ การสำรวจ วิจัยทดลองในอวกาศ การสร้างอุปกรณ์ที่เกี่ยวเนื่องกับดาวเทียม หรือกิจกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งต้องการกำลังคนแรงงานที่มีความสามารถ เพื่อจะเข้าสู่ธุรกิจอวกาศและจะนำไปสู่ตลาดอาชีพใหม่
•
โครงการนี้เป็นโครงการสำคัญอีกโครงการหนึ่งที่มีเป้าหมายสำหรับเตรียมความพร้อมให้คนไทยสามารถสร้างอาชีพใหม่ในอนาคตด้านอวกาศ ตลอดจนนำไปสู่การใช้ประโยชน์วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีอวกาศ เพื่อการพัฒนาเข้าสู่อุตสาหกรรม นวัตกรรมและเทคโนโลยีอวกาศแบบก้าวกระโดดและจะส่งผลให้อวกาศไม่ได้ไกลอย่างที่คิด แต่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ตลอดจนการกระตุ้น สร้างแรงบันดาลใจสานต่อความฝันให้คนรุ่นใหม่ขยายวงกว้างเข้ามาโลดแล่นในวงการอุตสาหกรรมอวกาศมากยิ่งขึ้น
ดร. ปกรณ์ อาภาพันธุ์ ผู้อำนวยการ GISTDA กล่าวว่า “อวกาศเป็นเรื่องที่ไม่ไกลตัวอีกต่อไป” กิจการอวกาศมีเรื่องที่น่าสนใจมากมาย ที่ผ่านมา อัตราการเติบโตของธุรกิจและอุตสาหกรรมอวกาศในระดับโลกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นับเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างห่วงโซ่อุปทานใหม่ของกิจการอวกาศเพื่อรองรับภาคธุรกิจภายในประเทศที่มีการขยายตัวและเกิดธุรกิจภาคเอกชนรวมถึงความร่วมมือกับนานาชาติในวงกว้าง เพื่อตอบโจทย์ความท้าทายของอุตสาหกรรมอวกาศในประเทศ ทั้งเรื่องการสนับสนุน Supply Chain ของอุตสาหกรรมอวกาศ การสร้างความได้เปรียบและการพัฒนากำลังคนบุคลากรด้านอวกาศ
•
GISTDA มีฐานะเป็นองค์กรด้านกิจการอวกาศของประเทศเป็นหน่วยงานหลักที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและส่งเสริมให้เกิดอุตสาหกรรมอวกาศ หรือ Space Industry โดย GISTDA มีความพร้อมทุกมิติแบบครบวงจร ด้านนวัตกรรมและโครงสร้างพื้นฐานกิจการอวกาศของประเทศ อาทิเช่น Lab ด้านการออกแบบผลิตและทดสอบวัสดุด้านการบินและอวกาศ ที่ได้รับรองตามมาตรฐานสากล สถานที่ใช้ประกอบและทดสอบดาวเทียมเล็กของประเทศซึ่งสามารถรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมด้านอวกาศในอนาคตได้ ตลอดจนโครงการ THOES-2 ที่จะหลอมรวมเป็นเครื่องมือสร้างและยกระดับเพิ่มขีดสามารถการพัฒนากำลังคนทุกช่วงวัยให้มุ่งสู่ความสำเร็จเพื่อสร้างอาชีพต่อไป
•
ด้าน รศ. เกษมศานต์ โชติชาครพันธุ์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า อสมท มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนทุนการศึกษาแก่เยาวชนไทยในครั้งนี้ สอดคล้องกับวิสัยทัศน์และพันธกิจของ อสมท ในการส่งเสริมสังคมฐานความรู้ ซึ่งเป็นรากฐานในการพัฒนาศักยภาพของคน และสังคมอย่างยั่งยืนการศึกษาและค้นคว้าเกี่ยวกับเรื่องอวกาศ ไม่ใช่เรื่องไกลตัว ไม่ว่าจะเป็นปรากฏการณ์สุริยุปราคา, สภาวะโลกร้อน, ระบบส่งสัญญาณคลื่นความถี่ และการใช้ดาวเทียมสื่อสารในการตรวจสภาพภูมิอากาศ ล้วนมาจากการค้นพบในอวกาศทั้งสิ้น อสมท จึงมีความยินดีอย่างยิ่งในการร่วมสนับสนุนให้เยาวชนไทยมีทักษะด้านวิทยาศาสตร์ ถือเป็นการเปิดประสบการณ์ ให้ได้เรียนรู้กระบวนการทำงานจริงของนักบินอวกาศและพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ของโลกในอนาคต
•
ด้าน ดร. พีรนันท์ โตวชิรภรณ์ ผู้อำนวยการ NASA SERVIR-Mekong ประจำประเทศไทย กล่าวว่า โครงการนี้เป็นโครงการที่ให้โอกาสเยาวชนไทยได้เข้าถึงและเรียนรู้กับนาซา ทาง Asian Disaster Preparedness Center (ADPC) และ SERVIR-Mekong จะยังทำงานกับรัฐบาลสหรัฐอเมริกาและนาซาต่อไป และจะขอเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่เยาวชนและนักวิทยาศาสตร์ไทยจะได้ใช้ข้อมูลจากนาซาหรือกระทั่งร่วมงานกับนาซาในอนาคต
สำหรับเป้าหมายหลัก 7 ประการในการเดินทางไปครั้งนี้ คือ การแสวงหาความร่วมมือเพิ่มเติมจาก NASA, U.S. Space & Rocket Center, University of Alabama in Huntsville และ องค์กรหรือบริษัทด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชั้นสูงของสหรัฐอเมริกาในการศึกษาด้าน
- STEAM-Space
- การแลกเปลี่ยนบุคลากรชั้นนำ โดยเฉพาะด้าน deep tech
- การร่วมจัดนิทรรศการ ด้านวิทยาการและธุรกิจอวกาศ
- การสำรวจอวกาศร่วมกัน
- การวิจัยและพัฒนา STEAM-Space
- ธุรกิจการค้าในสินค้าเทคโนโลยีชั้นสูง
- โครงการสีเขียวผ่านนโยบายจากอวกาศสู่ชาวบ้าน หรือ From Space To Villagers
ทั้งนี้เพื่อเตรียมความพร้อมของคนในประเทศร่วมกับมิตรประเทศ ให้คนไทยพร้อมต่อยุคเศรษฐกิจอวกาศใหม่ที่ไม่มีประเทศไหนในโลกที่จะสามารถหนีพ้นไปได้