18 ส.ค.65 - บริษัทวิจัยการเงินดิจิทัลสิงคโปร์ เผยกำลังซื้อชานมไช่มุกในอาเซียน โดยอันดับ 1 เป็นของอินโดนีเซียตลาดใหญ่ที่สุดมีมูลค่าซื้อขายกว่า 1.6 พันล้านดอลลาร์ต่อปี ส่วนไทยตามมาเป็นอันดับ 2 ซื้อชานมไข่มุก 749 ล้านดอลลาร์ต่อปี หรือกว่า 2.6 หมื่นล้านบาทต่อปี
ชานมไข่มุก เครื่องดื่มยอดฮิตของยุคปัจจุบัน ที่ไม่ว่ารุ่นไหน วัยไหน ต้องเคยลิ้มลองชานมไข่มุกกันมาบ้างไม่มากก็น้อย ซึ่งบางคนก็ชื่นชอบมากขนาดที่ใน 1 วันต้องมีเมนูชานมไข่มุกอยู่ในมื้ออาหาร หรือมื้อว่างระหว่างวัน รวมไปถึงยังเป็นเมนูเครื่องดื่มที่เสิร์ฟรับรองได้บ่อยครั้งอีกด้วย
•
ยิ่งในปัจจุบันตลาดเครื่องดื่มชานมไข่มุก เพิ่มจำนวนแบรนด์มากขึ้น ตั้งแต่ราคาแก้วละหลัก 10บาท ไปจนถึงราคาหลักร้อยบาท ที่ทำให้ชานมไข่มุก เข้าถึงผู้บริโภคทุกกลุ่มได้เป็นอย่างดี ซึ่งไม่เพียงแต่ในไทยเท่านั้น แต่มนกลุ่มอาเซียนเองชานมไข่มุก ก็ได้รับความนิยมเช่นกัน
•
โดยบริษัท Momentum works ร่วมกับบริษัท qlub เทคโนโลยีโซลูชันชำระเงินดิจิทัลของสิงคโปร์ ล่าสุดได้เปิดเผยผลการศึกษา “เรื่องกำลังซื้อชานมไข่มุกใน 6 ประเทศสมาชิกเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” หรืออาเซียน ในปี 2564 ซึ่งพบว่า ตลาดชานมไข่มุกใหญ่ที่สุดได้แก่
- อินโดนีเซีย มีมูลค่าการซื้อขาย ประมาณ 1.6 พันล้านดอลลาร์ต่อปี หรือ 5.6 หมื่นล้านบาท
- ประเทศไทย 749 ล้านดอลลาร์ต่อปี หรือ 2.6 หมื่นล้านบาทด้วย โดยมีร้านชานมไข่มุกกว่า 31,000 แห่งทั่วประเทศ
- เวียดนาม 362 ล้านดอลลาร์ต่อปี
- สิงคโปร์ 342 ล้านดอลลาร์ต่อปี
- มาเลเซีย 330 ล้านดอลลาร์ต่อปี
- ฟิลิปปินส์ 280 ล้านดอลลาร์ต่อปี
รวมมูลค่าการซื้อขายชานมไข่มุกทั้ง 6 ตลาดอาเซียน อยู่ที่ปีละ 3.66 พันล้านดอลลาร์ หรือ กว่า 1.3 แสนล้านบาท
โดยผลวิจัย ยังระบุว่า อุตสาหกรรมชานมไข่มุกนั้นสามารถทำกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 60-70% แต่มีนักลงทุนไม่กี่รายสามารถทำกำไรได้อย่างต่อเนื่อง และขยายสาขาได้โดยไม่เกิดปัญหา
•
อย่างไรก็ตามความเติบโต และมูลค่าที่สูงของตลาดชานมไข่มุก ทำให้ผลิตภัณฑ์นี้ยังคงสร้างเงินให้กับเจ้าของธุรกิจอีกทั้งยังคงมีผู้ค้าหน้าใหม่ลงมาหาส่วนแบ่งของตลาดนี้ ส่งผลโดยตรงในผลิตภัณฑ์ชานมไข่มุกยังมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ทั้งรสชาติ คุณภาพ และราคา ที่หวังครองใจผู้บริโภคมากขึ้น