ฝุ่นซีเซียมที่พบในโรงหลอม หากมีโมเลกุลน้อย อนุภาคไม่แรงเทียบเท่าเชอร์โนบิล แต่ต้องเฝ้าระวังต่อไป ตามข้อมูลจากสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ส่วนหากสงสัยป่วยมีประวัติสัมผัสหรือเข้าไปพื้นที่เสี่ยงควรพบแพทย์
ซีเซียม-137 อันตราย เสี่ยงถึงมะเร็ง?
ความรุนแรงของอาการ ขึ้นอยู่กับระยะเวลา วิธีที่สัมผัส และปริมาณสารที่ได้รับ
- หากสัมผัสโดยตรง
ทำให้เกิดแผลไหม้ มีตุ่มน้ำพอง เป็นแผล หรือเนื้อตาย มักมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ
- ผลกระทบระยะกลาง-ระยะยาว
ส่งผลต่อเซลล์ในร่างกาย เซลล์เม็ดเลือดขาว เส้นผม ระบบเลือด กดไขกระดูก ส่งผลต่อระบบประสาท และก่อให้เกิด “โรคมะเร็ง” หากสะสมในปริมาณมากจะทำให้เสียชีวิตได้
ทำอย่างไร หากสัมผัสการรั่วไหลของกัมมันตรังสี?
ลดการปนเปื้อน
- เปลี่ยนเสื้อผ้าทันทีที่สามารถทำได้
- ล้างตาด้วยน้ำสะอาดให้น้ำไหลจากหัวตาไปหางตา
- ล้างมือ อาบน้ำ สระผม
- เก็บเสื้อผ้าที่ปนเปื้อนใส่ถุงปิดปากให้สนิท
การป้องกันตัวเองจากเจ้าซีเซียม-137
- เลี่ยงการสัมผัสกัมมันตรังสีหรือกล่องเหล็กต้องสงสัย
- หากอยู่ในที่เกิดเหตุให้ลงทะเบียนผู้สัมผัสสารกับหน่วยงานที่กำหนด
- รวบรวมสิ่งของ/เสื้อผ้า ที่อาจปนเปื้อนให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบก่อนนำกลับไปใช้
- ล้างมือทุกครั้งก่อนรับประทานอาหารและเครื่องดื่ม
- ติดตามสถาการณ์ และปฏิบัติตามประกาศอย่างเคร่งครัด
เกร็ดความรู้
ซีเซียม-137 เป็นกัมมันตรังสี เป็นโลหะอ่อนมากสีทองเงิน เมื่ออยู่ที่อุณหภูมิห้องจะเป็นของเหลว หากจับตัวกับคลอไรด์จะกลายเป็นผงผลึก ฟุ้งกระจายได้เมื่อแตกออกจากที่ห่อหุ้มไว้ ปล่อยรังสีเบตาและแกมมา
“นิยมนำมาใช้ประโยชน์ในโรงงาน และเป็นเครื่องมือทางการแพทย์ในการรักษามะเร็ง”
สนับสนุนโดย : กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข