สุดยอดนักวิจัยประมงไทย! ฉีดฮอร์โมนกระตุ้นการวางไข่ "ปลาทู" สำเร็จครั้งแรกของโลก
กรมประมงร่วมกับสถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเดินหน้าโครงการปลาทูคู่ไทย โชว์ก้าวสำคัญรวบรวมพ่อแม่พันธุ์มาเพาะเลี้ยงในระบบปิด สร้างระบบน้ำหมุนเวียน ปรับสภาพการเลี้ยงให้เหมาะสมกับระบบนิเวศในทะเล พร้อมฉีดฮอร์โมนพ่อแม่พันธุ์ปลาทูกระตุ้นการวางไข่สำเร็จครั้งแรกของโลก เผยการฉีดฮอร์โมนสามารถคุมรอบการตกไข่ของปลาทูได้มากขึ้น พบสัญญาณดีปลาทูวางไข่มากถึง 3 หมื่นฟอง หวังช่วยทดแทนปริมาณการจับปลาทูในธรรมชาติให้ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ปลาทูคืนสู่ท้องทะเลไทย
นายเฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า กรมประมงได้ศึกษาวิจัยเพาะขยายพันธุ์ปลาทูเพื่อลดการใช้ทรัพยากรจากแหล่งธรรมชาติจนประสบความสำเร็จสามารถเพาะพันธุ์ได้สำเร็จเมื่อปี 2554 แต่เนื่องจากปลาทูเป็นปลาที่มีความอ่อนแอ บอบบาง จึงเป็นเรื่องยากที่จะนำขึ้นจากทะเลมาเพาะเลี้ยงโดยไม่ให้บอบช้ำหรือตายไปเสียก่อน
ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กรมประมงได้รวบรวมข้อมูลทางด้านชีววิทยา ฤดูกาลวางไข่ ลักษณะของนิเวศที่อยู่อาศัยฯลฯ มาศึกษาวิจัยเพื่อใช้ประโยชน์ด้านงานวิชาการและประยุกต์ใช้ในการผลิตปลาทูทั้งด้านการเพาะเลี้ยงเพื่อการอนุรักษ์และเชิงพาณิชย์ อาทิ การพัฒนาเทคนิคการเพาะเลี้ยงพ่อแม่พันธุ์ด้วยการให้อาหารที่มีคุณภาพและการใช้ระบบน้ำหมุนเวียน เทคนิคการลำเลียงพ่อแม่พันธุ์จากธรรมชาติ การอนุบาลลูกพันธุ์เพื่อเพิ่มอัตราการรอด ฯลฯ
ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งเพชรบุรี ได้รวบรวมพ่อแม่พันธุ์จากธรรมชาติมาขุนเลี้ยงและทดลองฉีดฮอร์โมนตามรอบที่กำหนดไว้ ซึ่งมีโอกาสได้ลูกปลาทูมากกว่าวิธีตามธรรมชาติที่ปลาทูจะมีฤดูวางไข่ปีละ 1 ครั้งเท่านั้น โดยความท้าทายอยู่ที่การปรับสภาพการเลี้ยงให้คล้ายคลึงกับระบบนิเวศในทะเลและต้องปรับพฤติกรรมปลาให้คุ้นเคยกับทีมนักวิจัย เนื่องจากปลาทูเป็นปลาที่ตื่นตกใจง่ายดังนั้นการจับปลาทูขึ้นมาฉีดฮอร์โมนจึงเป็นเรื่องที่ยากมาก
อธิบดีกรมประมง กล่าวในตอนท้ายว่า ความสำเร็จด้านการทดลองฉีดฮอร์โมนกระตุ้นการวางไข่ของปลาทูนี้ นับเป็นครั้งแรกของโลก จากอดีตที่ปล่อยให้พ่อแม่พันธุ์ปลาทูผสมกันเองตามธรรมชาติ ซึ่งเป็นความหวังในการเพาะพันธุ์ปลาทูเพื่อปล่อยสู่ทะเลในเชิงอนุรักษ์ หรือการส่งเสริมการเพาะเลี้ยงปลาทูเชิงพาณิชย์ต่อไป
นอกจากมาตรการที่ช่วยกัน “ดูแล” ทรัพยากรปลาทู จากการทำการประมงแล้ว นายเฉลิมชัยระบุว่า “เราทุกคนก็สามารถมีส่วนร่วมได้ในการอนุรักษ์ทรัพยากรปลาทูได้อย่างง่ายๆ คือ ไม่บริโภคปลาที่มีไข่ หรือ ปลาตัวเล็กๆ ปล่อยให้ปลาเหล่านี้ได้เติบโตมาเป็นอาหารในช่วงเวลาที่เหมาะสมและมีมูลค่าที่เศรษฐกิจดีกว่า หากเราทุกคนช่วยกัน กรมประมงเชื่อมั่นว่าท้องทะเล ทรัพยากรประมง จะกลับคืนความอุดมสมบูรณ์ได้อีกครั้งอย่างแน่นอน”
ทั้งนี้ “ปลาทู” ถือเป็นสัตว์น้ำที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจและเป็นที่นิยมในการบริโภคของคนไทยมาเป็นเวลานานปัจจุบันทรัพยากรผลผลิตปลาทูในธรรมชาติลดจำนวนน้อยลง ซึ่งปัจจัยหลักเกิดจากจากการพัฒนาเทคโนโลยีของภาคอุตสาหกรรม และการพัฒนาเครื่องมือการทำประมงให้มีประสิทธิภาพในการจับที่สูงขึ้น