นอกจากพิธีกรรมห้ามฝนตามแบบโบราณแล้ว ยังมีวิธีการห้ามด้วยการเชิญพระพุทธรูปมาอธิษฐานตั้งห้ามฝน ถามว่าจะได้ผลจริงไหม ถ้าคุณนับถือพระพุทธศาสนาจะรู้ดีว่าไม่มีสิ่งใดจะมีอานุภาพมากไปกว่า พระพุทธคุณ พระพุทธรูปเป็นวัตถุอันเป็นมงคลสร้างด้วยพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์แล้วจึง ประสิทธิ์ประสาทด้วยพระพุทธมนต์ ย่อมจะมีพุทธานุภาพ หยุดฝน ได้ ขนาดพระปางขอในยังมี ดังนั้นห้ามฝนน่าจะทำให้เกิดผลได้ แต่ต้องทำให้ถูกต้อง
ขั้นตอนที่ถูกต้องเท่าที่เคยฟังผู้ใหญ่เล่าคือ 1. พระพุทธรูปที่นำมาต้อง ถูกปาง พระพุทธรูปปางที่ใช้กับการห้ามฝน ต้องเป็นพระปางประทานอภัย พระปางนี้เป็นพระยืน หรือนั่งก็ได้ แต่.. พระปางนี้มี 3 แบบไม่เหมือนกัน พระปางประทานอภัย จะแสดงปางด้วยพระหัตถ์ข้างใดข้างหนึ่งยกขึ้น หันฝ่าพระหัตถ์ออก ปลายนิ้วพระหัตถ์ตั้งขึ้น มีการแสดงปางประทานอภัยม3 แบบ แบบแรกแสดงด้วยพระหัตถ์ขวา หมายถึง ห้ามญาติ เป็นตอนที่พระพุทธองค์ทรงห้ามพระประยูรญาติวิวาทเรื่องการแย่งน้ำแบบที่สองแสดงด้วยพระหัตถ์ซ้าย หมายถึง ห้ามพระแก่นจันทน์ ในพุทธประวัติตอนเสด็จโปรดพระพุทธมารดาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ได้มีการสร้างพระพุทธรูปด้วยไม้แก่นจันทน์แทนพระพุทธองค์ และเมื่อพระพุทธองค์เสด็จกลับลงมาแล้ว พระแก่นจันทน์ลุกหนีจากบัลลังก์ พระพุทธเจ้าจึงทรงยกพระหัตถ์ห้ามไว้
และแบบที่สามแสดงด้วยทั้ง 2 พระหัตถ์ หมายถึง ห้ามสมุทร ในพุทธประวัติตอนทรงแสดง ปาฏิหาริย์ปราบเหล่าชฎิล โดยทรงห้ามน้ำฝน ที่ตกหนักบริเวณนั้น มิให้ท่วมปริมณฑลที่พระพุทธองค์ประทับอยู่ ปางนี้แหละที่ใช้ห้ามฝน
ถูกต้องที่สองคือ นำพระมาแล้วให้ตั้งหันไปทางฝนกำลังจะมาแล้วอธิษฐาน ถูกต้องที่สามคือ คนที่ทำพิธีควรเป็นคนที่มีศีลมีธรรม ไม่ใช่ทุกคนจะทำได้ ถ้ามีทุนดีคือเป็นคนที่ทำบุญเยอะการอธิษฐานจะเกิดผลได้ดีขึ้น ถูกต้องสุดท้าย อันนี้ก็สำคัญ คือพิธีกรรมควรทำก่อนฝนตก เพราะพระพุทธรูปเป็นผู้แสดงปาง ห้าม(ฝน) ไม่ใช่ไล่ฝน การขอไม่ให้เกิดเหตุจะมีประสิทธิผลดีกว่าไปห้ามสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว แต่ถามว่าถ้าฝนตกต่อเนื่องขอได้ไหม ขอได้เหมือนกันด้วยเหตุคือขอให้หยุดความเสียหายที่จะเกิดขึ้น เรื่องนี้อ่านแล้วถ้าจะลองห้าม จะทำต้องทำให้ถูก ทั้งนี้ทั้งนั้นเป็นเรื่องความเชื่อ พิจารณาด้วยวิจารณญาณของท่านเถิด