5 ก.ย.68 - สทน. ใช้เทคนิคทางนิวเคลียร์วิเคราะห์ละอองฝุ่น หาต้นกำเนิดPM2.5 ช่วยการวางแผนแก้ปัญหาได้ตรงจุดและมีประสิทธิภาพ
ปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 เป็นวิกฤตทั้งด้านสุขภาพ สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจที่สำคัญในประเทศไทย โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมถึงหลายจังหวัดในภาคเหนือของประเทศไทย ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง เป็นต้น ฝุ่น PM2.5 นี้เริ่มสร้างปัญหารุนแรงขึ้นมาในประเทศไทยประมาณ ปี พ.ศ.2561 แล้วเกิดขึ้นต่อเนื่องกันมาทุกปีจนถึงปัจจุบัน ประเมินว่าในปี 2562 (2019) ความเสียหายทางเศรษฐกิจจากฝุ่น PM2.5 อยู่ที่ 2.173 ล้านล้านบาท เมื่อเจาะลงไปที่ระดับจังหวัด พบว่า กรุงเทพฯ เป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักสุด สูญเสียมากกว่า 4 แสนล้านบาทต่อปี
รศ.ดร.ธวัชชัย อ่อนจันทร์ ผู้อำนวยการ สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สทน. กล่าวว่าสาเหตุหลักของการเกิดฝุ่น PM2.5 ประกอบด้วยหลายปัจจัยที่ซับซ้อน และมีความแตกต่างกันขึ้นอยู่กับพื้นที่ ต้นตอที่ทำ ให้เกิด PM2.5 ในเขตเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มาจากไอเสียจากรถยนต์ ขณะที่ต้นตอของฝุ่น PM2.5 ในชนบท ส่วนใหญ่เกิดจากการเผาเศษวัสดุทางการเกษตรทั้งในที่โล่ง การเผาอ้อยก่อนตัด การเผาตอซังในไร่ข้าวโพด และนาข้าว ในแต่ละฤดูกาลต้นตอของแหล่งกำเนิด PM2.5 จะแตกต่างกันออกไป ทำให้เป็นปัญหาต่อการแก้ปัญหาระยะสั้นและระยะยาว สทน. มีภารกิจในการนำเทคโนโลยีนิวเคลียร์มาวิจัยและพัฒนาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ ทั้งทางด้านเกษตร อุตสาหกรรม การแพทย์ และสิ่งแวดล้อม เล็งเห็นว่าเทคนิคทางนิวเคลียร์ ซึ่งเป็นเทคนิคที่เป็นที่ยอมรับกันอย่างแพร่หลายว่ามีความว่องไวและประสิทธิภาพสูงในการวิเคราะห์ธาตุองค์ประกอบในตัวอย่างสิ่งแวดล้อมชนิดต่างๆ สามารถนำมาพัฒนาวิเคราะห์หาธาตุองค์ประกอบในฝุ่น PM2.5 เพื่อใช้ร่วมกับเทคนิคมาตรฐานในการหาแหล่งกำเนิดฝุ่นได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ และรวดเร็ว ซึ่งจะทำ ให้สามารถแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 ได้ตรงจุด
ดร.ดุษฎี รัตนะพระ หัวหน้าโครงการ การประยุกต์ใช้เทคนิคทางนิวเคลียร์ เพื่อช่วยยืนยันแหล่งกำเนิดฝุ่นละออง PM2.5 สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) เปิดเผยว่า ขั้นตอนการดำเนินงานโครงการฯ จะเก็บตัวอย่างฝุ่นในสองลักษณะคือ ลักษณะแรกเป็นการเก็บตัวอย่างฝุ่นละออง PM2.5 จากสิ่งแวดล้อม โดยใช้เครื่องเก็บตัวอย่างฝุ่นละออง PM2.5 ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานตามข้อบังคับของสำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมสหรัฐอเมริกา (USEPA) เพื่อเก็บตัวอย่างฝุ่นละอองในจังหวัดปทุมธานี เพราะเป็นพื้นที่ที่มีทั้งพื้นที่เกษตรกรรมอยู่บริเวณใกล้เคียง และนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ห่างออกไปประมาณ 20 กิโลเมตร โดยตัวอย่างที่เก็บจะเป็นฝุ่นที่เกิดขึ้นในทุกวัน
จากนั้นจะนำตัวอย่างฝุ่นที่ได้มาวิเคราะห์ด้วยเทคนิคทางนิวเคลียร์เพื่อตรวจวิเคราะห์หาธาตุองค์ประกอบของฝุ่น PM2.5 เราก็จะได้ทราบองค์ประกอบในฝุ่นในแต่ละวันว่ามีธาตุอะไรบ้าง ในอีกลักษณะหนึ่ง โครงการฯ ได้เก็บตัวอย่างฝุ่นละออง PM2.5 ที่ปลดปล่อยจากแหล่งกำเนิดฝุ่นหลัก เช่น การเผาไหม้ชีวมวลชนิดต่างๆ เช่น ฟางข้าว, ชานอ้อย, ข้าวโพด, เปลือกข้าวโพด, ซังข้าวโพด, ใบมันสำปะหลัง, หญ้า, ไม้สัก, ถ่าน, กาบมะพร้าว, ใบสับปะรด และใบไผ่ ฝุ่นจากท่อไอเสียรถยนต์จากน้ำมันชนิดต่างๆ เช่น ดีเซล แก๊สโซฮอล 90 หรือว่า E20 โดยใช้เครื่องเก็บฝุ่นเช่นเดียวกับลักษณะแรก แต่หากเป็นฝุ่นทางการเกษตร เช่น เศษข้าวโพด เราก็จะนำเศษข้าวโพดมาเผา แล้วใช้เครื่องเก็บฝุ่นเก็บเหมือนกับเก็บฝุ่นรายวัน นำไปวิเคราะห์ด้วยเทคนิคทางนิวเคลียร์ เราก็จะได้ธาตุองค์ประกอบของฝุ่นแต่ละชนิดที่เป็นองค์ประกอบของฝุ่นละอองPM2.5 เมื่อเอาองค์ประกอบของฝุ่นทั้งสองลักษณะมาเปรียบเทียบกัน เราก็จะสามารถระบุได้ชัดเจนว่าฝุ่นที่เกิดขึ้นในจังหวัดปทุมธานีในแต่ละวัน มีต้นกำเนิดมาจากกิจกรรมอะไร เราสามารถบ่งชี้แหล่งกำเนิดฝุ่นได้อย่างถูกต้อง แม่นยำช่วยให้สามารถออกแบบมาตรการและแนวทางแก้ไขปัญหาทั้งในระยะสั้น (เฉพาะหน้า) ระยะยาว ได้อย่างถูกต้องแม่นยำ และมีประสิทธิภาพ