25 เม.ย.66 - หมอเดว ผู้เชี่ยวชาญเด็กและวัยรุ่น เห็นแย้งหนังสื่อเรียน ป.5 อาจทำเด็กเข้าใจผิด จับประเด็นที่สื่อสารคลาดเคลื่อน ควรทำเนื้อเรื่องการกินที่ครบหมู่ แต่แบ่งปันกันมีความสุขจะดีกว่า
ศ.นพ.สุริยเดว ทรีปาตี ผอ.ศูนย์คุณธรรม กุมารแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเด็กและวัยรุ่น โพสต์ถึงกระแสดรามาแบบเรียนภาษาไทย ชั้น ป.5 ที่เป็นมี่ถกเถียงในสังคมช่วงนี้ ว่ามีความเหมาะสม และสอนเด็กระดับชั้น ป.5 หรือไม่ ผ่านเพจเฟซบุ๊ก “บันทึกหมอเดว” ระบุว่า
กรณีดราม่าไขต้ม ตำราในชั้น ป.5 สื่อขอถามความเห็นหมอเดว มีประเด็นสำคัญ ๆ อยู่ 3เรื่อง ไม่ใช่แค่โภชนาการเท่านั้น แต่มีประเด็นอ่อนไหวทางจิตใจ และประเด็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน
•
กรณีความเหลื่อมล้ำ ที่มีครอบครัวร่ำรวย สอนลูกไม่เป็น ไม่ซื้อโทรศัพท์ รุ่นใหม่ให้ลูก (ในตำรา) จนเด็กสะท้อน บ่นอยากตาย
•ตอบประเด็นนี้ สำหรับตำราเรียนในวัยเรียน ความจริงถ้าหากแก้ไขได้ อยากให้ตัดประเด็นบ่นอยากตายออกไป !!! แม้อาจจะบอกว่าชีวิตจริงก็อาจจะมีให้พบเห็นได้ แต่นี่คือตำราเรียนมาตรฐาน ชั้น ป.5 ที่กระทรวงฯ รับรองเพื่อใช้ทั่วไป (ความพยายามอยากตาย Suicidal idea จากภาวะซึมเศร้าจะพบในเด็กวัยรุ่น ส่วนใหญ่ ระดับมัธยม) แต่ในวัยเรียนมักเกิดจากภาวะน้อยใจ พูดประชด เลียนแบบ เด็กบางคนเลียนแบบไปทำจริง
•
ฉะนั้น การที่ตำราสะท้อนคำนี้ออกมาในช่วงวัยแบบนี้ ที่ยังไม่เข้าใจเรื่อง death perception ที่ดีพอ อาจเกิดความเข้าใจผิดต่อเด็กกันเองได้ ยังไม่นับกรณีที่ หากช่วยให้เด็กเข้าใจ sense of property ผ่านตำราบทนี้จะดีมาก กล่าวคือ โทรศัพท์ที่พ่อแม่ซื้อมาให้ลูกนั้น เป็นของพ่อแม่ ไม่ใช่ของลูก !!!!! เพียงแต่ พ่อแม่ให้ยืมใช้
แต่ทุกวันนี้ผู้ใหญ่ยังเข้าใจคลาดเคลื่อน เหมือนซื้อยกให้ลูกเลย จึงทำให้เด็กเกิดวัตถุนิยมเกิดขึ้นเต็มไปหมด
•
กรณีไข่ต้มกับภาวะโภชนาการ ที่อาจทำให้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่เข้าใจผิด เรื่องสภาวะโภชนาการ
หากจะยกตัวอย่างบ้านกำพร้า ส่วนตัว ความเห็นว่าอย่าสร้างประเด็นซ้อนประเด็น ให้เป็นโภชนาการที่ครบหมู่ สไตล์บ้าน ๆ ที่สะท้อนเรียบง่ายแต่มีความสุข แบ่งปันกันก็พอแล้ว ไม่ควรสร้างประเด็นซ้อนเพิ่มให้สับสนว่า กินแบบนี้ก็ได้ในตำรากินแค่ไข่ต้มน้ำปลา น้ำผัก แล้วก็มีความสุข (โปรดเข้าใจด้วยว่า หากแม้ในสังคมผู้ใหญ่ยังสามารถตีความได้สับสน จะนับประสาอะไรกับเด็กที่เรียนตำรา) สู้ทำ story กินครบหมู่ แต่แบ่งปันกันมีความสุข จะดีกว่า
กรณีความเข้าใจผิด กับการดำเนินชีวิตอย่างพอเพียง ในฐานะที่ทำงานศูนย์คุณธรรม อยากทำความเข้าใจ “ปรัชญาพอเพียง” นะครับ ว่า “พอเพียง มิใช่หมายถึง การสะท้อนให้เห็นความยากจนทนกัดก้อนกินเกลืออย่างมีความสุข หรือหมายถึงการมีน้อย ๆ ใช้น้อย ๆ” “หากแต่ปรัชญาพอเพียงนั้น สะท้อนให้ทุกคนทุกชีวิต ต่อให้ร่ำรวยยากจน จะเป็นเด็กหรือ ผู้ใหญ่ในเมือง ชนบทล้วน ต้องมีความพอประมาณ มีเหตุผล มีภูมิคุ้มกัน บนเงื่อนไขความดี และใช้ปัญญา”
•
ฉะนั้น การดราม่าโชว์ การกินไข่ต้ม สะท้อนตนเองว่า กำลังใช้ชีวิตอย่างพอเพียงนั้น จึงเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน “ฝากถึงกระทรวงศึกษาธิการ หากตำราลักษณะนี้ออกมา ท่านต้องเตรียมความพร้อมครูให้เล่นบทกระบวรการเพื่อเปิดโอกาสให้เด็กผู้เรียน สะท้อนความรู้สึก สะท้อนความคิดเห็น สะท้อนการแก้ปัญหา เวลาเด็กเผชิญเหตุ” หากให้อ่านและเข้าใจเอาเอง ไม่แบ่งกลุ่มเล็ก บนสามคำถามที่หมอตั้งข้อสังเกตุ (รู้สึกอย่างไร คิดเห็นอย่างไร แก้ปัญหาอย่างไร) เท่ากับว่าท่านกำลังสอนและให้เด็กเข้าใจคลาดเคลื่อน ปฏิบัติคลาดเคลื่อน ยิ่งมีคำว่า บ่นอยากตายอาจก่อให้เกิดการเลียนแบบขึ้นมา จึงขอฝาก สพฐ. !!!!!! เตรียมกระบวนการเรียนการสอนให้มีคุณภาพคู่ขนานกันไปด้วย