16 ธ.ค.65 - ช่วยกันคนละไม้ละมือ เอกชนหนุน สส. ลดโลกร้อน มอบเครื่องกำจัดขยะเศษอาหารทำปุ๋ยได้ภายใน 24 ชม.
กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม รับมอบเครื่องกำจัดขยะเศษอาหารจากบริษัท โอ๊คลิน มุ่งร่วมแก้ไขปัญหาโลกร้อนจากขยะอาหารที่มีมากกว่า 1,300 ล้านตันต่อปี ชูจุดเด่น กำจัดไว เปลี่ยนเศษอาหารเป็นปุ๋ยบำรุงพืชภายใน 24 ชม.
นางภาวินี ณ สายบุรี รองอธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เป็นประธานในพิธีรับมอบเครื่องกำจัดขยะเศษอาหาร จำนวน 1 เครื่อง จากบริษัท โอ๊คลิน (ประเทศไทย) จำกัดตัวแทนจำหน่ายเครื่องกำจัดขยะเศษอาหาร แบรนด์ OKLIN ณ ห้องประชุม 402 ชั้น 4 อาคารกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม
นางภาวินี ณ สายบุรี รองอธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ขยะอาหาร หรือ Food Waste เป็นหนึ่งปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมแต่ละปีมีอาหารกว่า 1,300 ล้านตัน หรือ 1 ใน 3 ของอาหารที่ผลิตได้ทั่วโลก ต้องกลายเป็นขยะอาหารที่ถูกทิ้งไปอย่างสูญเปล่า และที่สำคัญยังสร้างก๊าซเรือนกระจกถึง 8%
“เครื่องกำจัดขยะเศษอาหารให้กลายเป็นปุ๋ยภายใน 24 ชม. ที่ได้รับมอบจากบริษัท โอ๊คลิน (ประเทศไทย) จำกัด ในวันนี้ จะสามารถช่วยสื่อสาร ประชาสัมพันธ์ให้คนในหน่วยงานได้รู้แนวทาง และวิธีการในการจัดการกับขยะอาหาร
ที่เหมาะสมเพิ่มขึ้นอีก 1 วิธี รวมถึงเทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ ๆ เกี่ยวกับการจัดการ ป้องกัน แก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม
ด้าน นางสาวณัฐกานต์ คลอวุฒิอนันต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โอ๊คลิน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ทางบริษัทได้ให้ความสำคัญกับการจัดการดูแลสิ่งแวดล้อม เพื่อช่วยลดปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งเป็นปัญหาระดับโลก จึงมุ่งให้การสนับสนุนและร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการลดโลกร้อน ด้วยการทำงานร่วมกับกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม
โดยมอบเครื่องกำจัดขยะเศษอาหาร รุ่น GG – 02s สามารถเปลี่ยนเศษอาหารเป็นปุ๋ยได้ภายใน 24 ชม. สามารถรองรับเศษขยะได้สูงสุดถึง 5 กก. ต่อวัน จำนวน 1 เครื่อง เพื่อเป็นประโยชน์ที่สอดคล้องกับนโยบายต่างๆ ของกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมต่อไป “บริษัทพร้อมให้คำปรึกษา และให้คำแนะนำเกี่ยวกับการคัดแยกขยะทุกประเภท เพื่อให้เกิดการรีไซเคิล
ได้ง่ายและถูกต้อง สามารถจัดการปุ๋ยที่ได้ให้เหมาะสมในการใช้งาน โดยการทำแปลงเพาะปลูกตามความเหมาะสมของแต่ละองค์กร เกิดผลิตผลที่สามารถนำมาบริโภคได้อย่างยั่งยืน นำไปสู่การเพิ่มและการดูแลพื้นที่สีเขียวโดยรอบเป็นการลดการปล่อยคาร์บอนฟุตพริ้นท์และก๊าซเรือนกระจกชนิดอื่นๆ ซึ่งทำให้ได้ประโยชน์ทั้งชุมชน และองค์กรอย่างยั่งยืน