X
อัคคนีเทวา เปลวเพลิงแห่งผืนป่าสยาม

อัคคนีเทวา เปลวเพลิงแห่งผืนป่าสยาม

15 พ.ค. 2568
100 views
ขนาดตัวอักษร

อัคคนีเทวา: เปลวเพลิงแห่งผืนป่าสยาม พืชถิ่นเดียวที่รอคอยการค้นพบ

ท่ามกลางความหลากหลายทางชีวภาพอันน่าทึ่งของประเทศไทย ยังคงมีเรื่องราวของสิ่งมีชีวิตที่ซ่อนเร้น รอคอยการเปิดเผย อัคคนีเทวา (Akkanee Thewa) คือหนึ่งในอัญมณีแห่งพรรณพฤกษา ที่มีความพิเศษจนได้รับการขนานนามราวเทพแห่งไฟ ด้วยสีสันอันเจิดจ้าและลักษณะอันเป็นเอกลักษณ์ ทำให้พืชชนิดนี้เป็นมากกว่าแค่ดอกไม้ แต่คือสัญลักษณ์แห่งความงดงามและความเปราะบางของธรรมชาติ

ถิ่นกำเนิดอันจำกัด: ความพิเศษที่ต้องรักษา

อัคคนีเทวาไม่ใช่พืชที่เราจะพบเห็นได้ทั่วไป การกระจายพันธุ์ของมันนั้นจำกัดอยู่เพียงบางพื้นที่ในประเทศไทยเท่านั้น ทำให้มันกลายเป็นพืชถิ่นเดียว (endemic species) ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อระบบนิเวศของชาติ การทำความเข้าใจถึงถิ่นที่อยู่ตามธรรมชาติของอัคคนีเทวา ไม่ว่าจะเป็นลักษณะทางภูมิศาสตร์ สภาพอากาศ หรือชนิดของดิน จึงเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการอนุรักษ์พืชชนิดนี้ไว้ให้คงอยู่สืบไป

ความงามที่มาพร้อมความท้าทายในการจำแนก

ลักษณะเด่นของอัคคนีเทวาอยู่ที่ดอกที่มีสีสันสดใส อาจเป็นสีแดง ส้ม หรือเหลือง คล้ายเปลวเพลิงที่กำลังลุกโชน รูปทรงของดอกก็มีความน่าสนใจ อาจมีกลีบดอกที่บิดเกลียว หรือมีโครงสร้างที่ซับซ้อน อย่างไรก็ตาม ความคล้ายคลึงกับพืชชนิดอื่นในวงศ์เดียวกัน อาจเป็นความท้าทายในการจำแนกชนิดได้อย่างแม่นยำ การศึกษาลักษณะทางสัณฐานวิทยาอย่างละเอียด รวมถึงการใช้เทคนิคทางชีวโมเลกุล อาจเป็นเครื่องมือสำคัญในการยืนยันเอกลักษณ์ของอัคคนีเทวา

นิเวศวิทยาและบทบาทในระบบนิเวศ

แม้ว่าข้อมูลทางนิเวศวิทยาของอัคคนีเทวาอาจยังไม่สมบูรณ์นัก แต่การทำความเข้าใจถึงบทบาทของมันในระบบนิเวศเป็นสิ่งจำเป็น พืชชนิดนี้อาจเป็นแหล่งอาหารของแมลงบางชนิด หรืออาจมีความสัมพันธ์แบบพึ่งพาอาศัยกับสิ่งมีชีวิตอื่น การศึกษาปฏิสัมพันธ์เหล่านี้จะช่วยให้เราเห็นภาพรวมของความสำคัญของอัคคนีเทวาต่อความสมดุลของธรรมชาติ


"อัคคนีเทวา" พืชหายากถิ่นเดียวในไทย ประดับหน้าผาเชียงดาวอย่างสง่างาม
"อัคคนีเทวา" (𝘒𝘰𝘺𝘢𝘮𝘢𝘴𝘪𝘢 𝘤𝘢𝘭𝘤𝘢𝘳𝘦𝘢) พืชหายากถิ่นเดียวของไทยที่เติบโตอย่างสวยงามบนหน้าผาหินปูนในอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่
ไม้ล้มลุกอายุหลายปีชนิดนี้โดดเด่นด้วยใบหนาที่มีขนสีน้ำตาลดำปกคลุมและขอบใบจักฟันเลื่อยชัดเจน ช่อดอกสีขาวอมม่วงที่ออกที่ปลายยอดเป็นช่อกลมเดี่ยวสร้างความงดงามให้กับระบบนิเวศหินปูนอันเปราะบาง
สกุล Koyamasia ได้รับการตั้งชื่อโดย Harold E. Robinson ในปี 1999 เพื่อเป็นเกียรติแก่ Hiroshige Koyama นักพฤกษศาสตร์ชาวญี่ปุ่นผู้อุทิศตนศึกษาพืชวงศ์ Asteraceae ของประเทศไทย
การค้นพบครั้งนี้ย้ำเตือนถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ถิ่นที่อยู่อาศัยอันเปราะบางของพืชหายากเฉพาะถิ่นซึ่งหากสูญเสียไปจะไม่สามารถพบได้ที่ไหนอีกในโลก
ที่มา : ทีมสำรวจพรรณไม้เชียงดาว
หอพรรณไม้ Forest Herbarium - BKF
Terms of Service © 2025 MCOT.net All rights reserved นโยบายข้อมูลส่วนบุคคล นโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยเว็บไซต์ นโยบายเว็บไซต์ของ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)