อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส (Amazon Web Services: AWS) ผู้นำด้านบริการคลาวด์ระดับโลก ได้จัดงานแถลงข่าวกลุ่มย่อยเกี่ยวกับ AWS Partner Network (APN) โดยมีผู้บริหารจาก AWS และพันธมิตรชั้นนำในประเทศไทยร่วมให้ข้อมูล ได้แก่ เคอร์สเตน กิลเบิร์ตสัน Head for Partner Management, ASEAN ของ AWS, คุณวีรพันธุ์ ดุรงค์แสง President of Digital Solutions Group บริษัท Metro Systems และ ดร.ชัยยุทธ ชุณหะชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ G-Able
APN คือเครือข่ายพาร์ทเนอร์ทั่วโลกของ AWS ที่ใช้เทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญของ AWS เพื่อสร้างโซลูชันให้กับลูกค้า ปัจจุบันมีพาร์ทเนอร์กว่า 130,000 รายจาก 200 ประเทศ โดย 70% มีสำนักงานใหญ่นอกสหรัฐอเมริกา เครือข่ายนี้ประกอบด้วยหลายประเภทของพาร์ทเนอร์ เช่น ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์แบบอิสระ (ISV), ผู้ให้บริการระบบแบบครบวงจร (SI), ผู้จัดจำหน่ายด้วยการเพิ่มมูลค่า(VAR) และผู้ให้บริการด้านการจัดการ (MSP)
เคอร์สเตน กิลเบิร์ตสัน Head for Partner Management, ASEAN ของ AWS ได้กล่าวถึงโปรแกรมสนับสนุนพาร์ทเนอร์ต่าง ๆ ของ AWS ที่ช่วยให้พาร์ทเนอร์เข้าถึงลูกค้าใหม่และขยายธุรกิจ เช่น AWS ISV Accelerate ที่ช่วยเร่งยอดขายให้แก่พาร์ทเนอร์ด้วยการเชื่อมโยง ISV กับองค์กรฝ่ายขายของ AWS, AWS Global Startup ที่ให้การสนับสนุนสตาร์ทอัพที่มีการเติบโตแล้วระดับหนึ่งและพร้อมจะขยายธุรกิจให้เติบโตมากขึ้น และ AWS Competency ที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถทำการตลาดและนำเสนอความเชี่ยวชาญของตนต่อลูกค้าของ AWS นอกจากนี้ เคอร์สเตนยังเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของ AWS ในการลงทุนในภูมิภาคนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการประกาศลงทุน 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานดาต้าเซ็นเตอร์ (AWS Thailand Region) ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับธุรกิจในประเทศไทย และเปิดโอกาสใหม่ ๆ สำหรับพาร์ทเนอร์ในการพัฒนาโซลูชันที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในไทยได้ดียิ่งขึ้น
ดร.ชัยยุทธ ชุณหะชา CEO ของ G-Able ได้ยกตัวอย่างการทำงานร่วมกับ AWS ในโครงการสำคัญ เช่น การพัฒนาระบบลงทะเบียนนักศึกษาของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ที่รองรับผู้ใช้ 50,000 คนพร้อมกัน และการพัฒนาระบบดิจิทัลให้กับ SILKSPAN เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
ในด้าน Generative AI ดร.ชัยยุทธมองว่าเป็นเทคโนโลยีแห่งอนาคตที่องค์กรต้องปรับตัว โดยเฉพาะด้านการจัดการข้อมูล เขากล่าวว่า “96% ขององค์กรทั่วโลกยังไม่มีความพร้อมในเรื่อง raw data สำหรับ AI ซึ่งแปลว่ามีโอกาสมากมายมหาศาลสำหรับทั้ง AWS, Metro Systems และ G-Able เองในการเข้าไปช่วยเตรียมความพร้อมให้กับลูกค้าในด้านนี้ได้” นอกจากนี้ เขายังเน้นย้ำว่าการมี AWS Thailand Region ในไทยจะเปิดโอกาสใหม่ ๆ ให้กับธุรกิจในการพัฒนาและใช้งาน AI
ด้านคุณวีรพันธุ์ ดุรงค์แสง จาก Metro Systems กล่าวว่า “Generative AI จะต้องมีบทบาทสำคัญในการทำธุรกิจในประเทศไทย ไม่ว่าจะช่วยเรื่องการวิเคราะห์ การลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพในการขาย หรือการตัดสินใจในเชิงธุรกิจต่างๆ” เขายังเน้นว่าลูกค้าของ Metro Systems มีความต้องการด้าน Generative AI ที่แตกต่างกันไปในแต่ละอุตสาหกรรม
การร่วมมือระหว่าง AWS กับพาร์ทเนอร์ในไทยแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการพัฒนานวัตกรรมคลาวด์และ AI เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจไทยสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ AWS Thailand Region เปิดให้บริการ ซึ่งจะช่วยให้องค์กรต่าง ๆ สามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีคลาวด์และ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น