รัตนพล วงศ์นภาจันทร์ ประธานกรรมการฝ่ายบริหาร บริษัท สยาม เอไอ คอร์เปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า ความร่วมมือกับเดลล์เป็นก้าวสำคัญในการผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในระดับโลกอย่างรอบด้าน ด้วยบริการแพลตฟอร์มคลาวด์ AI โดยเลือกใช้เครื่องเซิร์ฟเวอร์ประสิทธิภาพสูงจากเดลล์เทคโนโลยีส์ เครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ทุกธุรกิจสามารถเข้าถึงทรัพยากรในการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่และพัฒนาระบบ เอไอ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจด้วย AI ให้กับลูกค้าทุกธุรกิจ โดยไม่ต้องลงทุนสูงมาก แต่ให้ธุรกิจต่างๆ สามารถนำ AI มาประยุกต์ใช้ในการดำเนินงานได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว ส่งผลให้เกิดนวัตกรรมใหม่ด้วยแพลตฟอร์มนี้องค์กรธุรกิจสามารถวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าได้อย่างลึกซิ้ง พัฒนาระบบอัตโนมัติเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ที่ตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างแม่นยำ ช่วยให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน
“ เราอยากเป็นผู้นำทางโครงสร้างพื้นฐาน AI ความร่วมมือกับเดลล์ เพื่อทำให้เกิดการพัฒนาองค์ความรู้ สยามเอไอมีความร่วมมือกับสถาบันการศึกษา เพื่อส่งบุคลากรไปเทรน AI มาอยู่ร่วมระบบนิเวศ เริ่มจากไตรมาสแรกของปีนี้ ”
รัตนพล กล่าวอีกว่า เราต้องการสร้างศักยภาพของประเทศไทยให้ก้าวสู่หนึ่งในผู้นำระดับโลกสำหรับองค์กรธุรกิจ Al จะช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ ในการสร้างรายได้เพิ่มขึ้นมากมาย การที่เรามี Al Cloud Platform โดยเลือกใช้เทคโนโลยีของเดลล์ เพราะเรามั่นใจในเดลล์ ในระบบไอทีอินฟราสตรัคเจอร์ ที่เดลล์เน้นเทคโนโลยีที่ช่วยสนับสนุนให้การทำงานระบบ AI ทำได้รวดเร็ว มีประสิทธิผลที่ดี และทำให้ระบบมีสเถียรภาพเพื่อให้ลูกค้าของเราได้มั่นใจได้ว่า เราเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้าเราเสมอ เพราะเรายึดมั่นใน "we select the best for your business" อย่างไรก็ตาม บุคลากรเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องสร้าง เนื่องจากเป็นฟันเฟืองสำคัญในการก้าวสู่ประเทศผู้นำด้าน AI เราจึงมุ่งมั่นที่จะร่วมมือกับทางมหาวิทยาลัยที่เน้นผลิตบุคลากรด้าน AI
"ในเรื่องการสร้างบุคลากร นอกจาก สยาม เอไอ จับมือร่วมกับมหาวิทยาลัยในการ พัฒนาบุคคลากร แล้ว สยาม เอไอ จะร่วมกับพันธมิตรธุรกิจด้านเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยี องค์ความรู้ รวมถึงการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ การเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญด้าน Al ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ เป็นทางลัดในการสร้างความพร้อมให้แก่บุคลากร และเราจะสร้าง Al community Hub ที่จัดให้มีการเรียนรู้ ฝึกอบรมเวิร์คช็อป และแลกเปลี่ยนความรู้ หรือกิจกรรมรูปแบบต่างๆ ที่เกี่ยวกับ AI สำหรับ สยาม เอไอ เราเชื่อมั่นว่าประเทศไทยควรมี อธิปไตยทางปัญญาประดิษฐ์ เพราะข้อมูล คือ ทรัพยากรของประเทศ ควรถูกพัฒนาโดยคนไทยบริหารจัดการโดยคนไทย เพื่อประโยชน์ของประเทศไทย ดังนั้นการที่เรามุ่งมั่นพัฒนาบุคลากรด้านเอไอรุ่นใหม่ที่จะเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเทคโนโลยีของประเทศ การสร้างให้คนไทยรู้จักและใช้เอไอให้เกิดประโยชน์อย่างสร้างสรรมากขึ้น จึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง"
โครงการความร่วมมือกับสถาบันการศึกษา ดำเนินการพัฒนา AI ด้านการศึกษา โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่กลุ่มแรก คือ กลุ่มสถาบันการศึกษาทั่วไปที่สถาบันมีความต้องการพัฒนาหลักสูตรที่สอดคล้องกับความต้องการของอุตสาหกรรมเอไอ และมีความต้องการเข้าถึงโปรแกรมการเรียนรู้ทางด้านเอไอทั้งทางด้านทฤษฎีและปฏิบัติกลุ่มที่ 2 คือ กลุ่มที่ทางสถาบันมีการเรียนการสอนทางด้านเอไอ มีการพัฒนา Generative AI, โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLMs) และแอปพลิเคชัน Al และต้องการสนับสนุนเทคโนโลยีในการประมวลผล องค์ความรู้ รวมถึงการแลกเปลี่ยนประสบการณ์จากผู้เชี่ยวชาญ และกลุ่มสุดท้าย คือ สถาบันที่มีการมุ่งเน้นการพัฒนางานวิจัยหรือนวัตกรรมที่มีการนำเทคโนโลยีเอไอมาประยุกต์ใช้ หรือเป็นรูปแบบของพัฒนาเป็นโปรเจ็กต์หรือ Start up ที่มีความต้องการในการสนับสนุนการพัฒนาชิ้นงานให้ไปเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานได้จริง
สำหรับกลุ่มบุคคลทั่วไป มีการสร้างการรับรู้ทางด้านไอเอผ่านโซเชียลมีเดีย เพื่อให้เกิดความตื่นตัว เช่น คอนเท้นต์ข่าว สารพันความรู้ เทคโนโลยีใหม่ หลักสูตรอบรมระยะสั้นด้านเอไอ และ มีกิจกรรมพบปะที่จะมีการจัดขึ้นเป็นประจำ (AI Meet Up) เพื่อเป็นเวทีของแบ่งปันองค์ความรู้ และแลกเปลี่ยนประสบการณ์จากผู้เชี่ยวชาญทางด้านเอไอ ผู้ที่สนใจสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารจากเฟสบุ๊คแฟนเพจได้ที่ https://fo.com/siamaicloud
รัตนพล กล่าวเพิ่มเติมว่า สยาม เอไอ เชื่อมั่นว่าเทคโนโลยี AI จะมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยและภูมิภาค เราจึงมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในการพัฒนาและส่งเสริมการใช้ AI ในประเทศไทยในรอบด้าน ที่สำคัญประเทศไทยควรมี อธิปไตยทางปัญญาประดิษฐ์ เพราะข้อมูล คือ ทรัพยากรของประเทศ ควรถูกพัฒนาโดยคนไทย บริหารจัดการโดยคนไทย เพื่อประโยชน์ของประเทศไทย ดังนั้นการที่เรามุ่งมั่น พัฒนาบุคลากรด้านเอไอรุ่นใหม่ที่จะเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเทคโนโลยีของประเทศ การสร้างให้คนไทย
รู้จักเอไอมากขึ้น จึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่ายิ่ง กรณีความร่วมมือของมหาวิทยาลัย เรามองมหาวิทยาลัย เป็นเหมือน AI community Hub ที่จัดให้มีการเรียนรู้การฝึกอบรม เวิร์คช็อป เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ในวงกว้างด้วย