“พล.อ.ประวิตร” ช่วยเกษตรกรชาวสวนปาล์ม ชู 8
ผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่าปาล์มน้ำมัน ยัน B5 แค่ชั่วคราว
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ
หรือ กนป. ครั้งที่ 1/2565 โดยที่ประชุมได้รับทราบสถานการณ์ปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มในประเทศและตลาดโลก
ที่ได้รับผลกระทบจากแนวโน้มราคาน้ำมันเชื้อเพลิง และไบโอดีเซล (B100)
ที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นโดยกระทรวงพลังงานได้รายงานผลการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน
หรือ กบง. เมื่อวันที่ 31 ม.ค. 65 เห็นชอบให้ปรับลดสูตรผสมน้ำมันไบโอดีเซล (B100)
จากปัจจุบันมี B7
เกรดเดียว ให้เป็น B5 โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ. - 31 มี.ค. 65
โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบมาตรการต่างๆ
รองรับฤดูกาลปาล์มที่่จะออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ ดังนี้
1.
โครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ปี 2564 – 2565
โดยกำหนดราคาเป้าหมายผลปาล์มทะลาย (อัตราน้ำมัน 18%) ณ หน้าโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม
กิโลกรัมละ 4.00 บาท ใช้ผลผลิตเฉลี่ยไร่ละ 2,774 กิโลกรัม วงเงิน 7,660.00 ล้านบาท
2.
โครงการผลักดันการส่งออกน้ำมันปาล์มเพื่อลดผลผลิตส่วนเกิน ปี 2565
โดยจะสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการสำหรับการส่งออกเฉพาะน้ำมันปาล์มดิบ (Crude Palm Oil : CPO) ในอัตรา
ไม่เกิน 2.00 บาทต่อกิโลกรัม เมื่อระดับสต็อกน้ำมันปาล์มดิบในประเทศสูงกว่า
300,000 ตัน และราคาน้ำมันปาล์มดิบในประเทศสูงกว่าราคาตลาดโลก
3.
มาตรการและแนวทางขับเคลื่อนการเพิ่มมูลค่าปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม
กำหนดผลิตภัณฑ์เป้าหมายทั้งหมด 8 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ 1) ผลิตภัณฑ์สารหล่อลื่นพื้นฐาน
(Base oil) 2)
น้ำมันหม้อแปลงไฟฟ้าชีวภาพ (Bio-Transformer
oil) 3) สารซักล้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
(สารตั้งต้น MES : Methyl
Ester Sulfonate) 4) น้ำมันหล่อลื่น และจาระบีชีวภาพ (Bio Lubricant and Greases) 5)
พาราฟิน (Paraffin) 6)
สารกำจัดศัตรูพืช/แมลง (Pesticides/Insecticides)
7) น้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพ กรีนดีเซล (Bio Hydrogenated Diesel: BHD) และ
8) น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานชีวภาพ ไบโอเจ็ต (Biojet fuels)
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า กนป.
ยังคงดำเนินนโยบายและมาตรการเดิมทุกประการที่ขับเคลื่อนมาตั้งแต่ปี 62
ถือว่าประสบความสำเร็จทำให้ปาล์มน้ำมันเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญของไทย
ดันราคาปาล์มทะลายเฉลี่ยทั้งปีจาก กก.ละ 3.05 บาทในปี 62 เพิ่มเป็น 4.78 บาทในปี
63 และสูงถึง 6.66 บาทในปี 64 สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้ชาวสวนปาล์มเพิ่มขึ้นจาก 5
หมื่นล้านบาท จนทะลุแสนล้านบาทเมื่อปีที่ผ่านมา ตามโครงสร้างราคาจึงทำให้ราคาน้ำมันปาล์มดิบและแบบบรรจุขวด
รวมทั้งไบโอดีเซลมีราคาสูงขึ้นตามไปด้วย
จึงจำเป็นต้องออกมาตรการบรรเทาความเดือดร้อนของผู้บริโภค
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในห้วงฤดูปาล์มที่ออกสู่ตลาดน้อยระยะสั้นๆ คาดว่าในปีนี้
ราคาปาล์มทะลายจะยังอยู่ในเกณฑ์ดีสูงกว่า กก.ละ 5 บาทโดยเฉลี่ย ทั้งนี้
จากรายงานของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.)
ระบุว่า ปี 2564 ไทยมีผลผลิตปาล์มน้ำมัน 16.79 ล้านตัน คิดเป็นผลผลิตในรูปน้ำมันปาล์มดิบ ประมาณ 3.17
ล้านตัน ในขณะที่มีความต้องการใช้ 3.00 ล้านตัน (การใช้ในประเทศ 2.38 ล้านตัน
และการส่งออก 0.62 ล้านตัน) ทำให้ ณ สิ้นปี 2564 มีสต็อกน้ำมันปาล์มดิบ 0.17
ล้านตัน ส่งผลทำให้ราคาปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มปรับตัวเพิ่มขึ้น
พล.ต.อ.ดร.ธรรมศักดิ์ วิชชารยะ
รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ณ ม.ค.65 ราคาปาล์มทะลายเฉลี่ย กก. 10.49 บาท
ราคาน้ำมันปาล์มดิบเฉลี่ย กก.ละ 54.27 บาท ส่วนราคาตลาดมาเลเซีย ตันละ 5,628
ริงกิต หรือ คิดเป็น กก. ละ 45.31 บาท โดยมีสต๊อก ณ สิ้นเดือน ม.ค. นี้ อยู่ที่
1.31 แสนตัน หากปี 65 ผลผลิตสูงขึ้นตามคาดการณ์ของ สศก. ขณะเดียวกันความต้องการใช้ภายในประเทศมีแนวโน้มลดลงจากสัดส่วนของไบโอดีเซล
จำเป็นต้องอาศัยการส่งออกให้ได้ 5 แสนตัน
เพื่อดูดซับสต๊อกส่วนเกินที่จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงไตรมาศ 2
ซึ่งแสดงให้เห็นว่า มาตรการต่างๆ ที่ กนป. เห็นชอบในครั้งนี้
ยังคงเป็นกลไกสำคัญที่ต้องดำเนินการไปพร้อมๆ กันอย่างต่อเนื่อง
โดยเฉพาะมาตรการเพิ่มมูลค่า 8 ผลิตภัณฑ์เป้าหมาย
ซึ่งจะเป็นทางออกที่ยั่งยืนในอนาคต คาดว่านโยบายและมาตรการของ พล.อ.ประวิตร ประธาน
กนป. รวมทั้ง การบริหารจัดการเชิงบูรณาการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย
โดยเฉพาะกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม
และกระทรวงพลังงาน จะส่งผลให้ราคาปาล์มทะลายโดยเฉลี่ยทั้งปี 65 อยู่ที่ กก.ละ 6 -
8 บาท สูงกว่าต้นทุนที่แท้จริง (กก.ละ 3.50 - 4.0 บาท) ของเกษตรกรชาวสวนปาล์ม
รวมทั้ง ผลิตภัณฑ์ปาล์มน้ำมันทุกชนิด น้ำมันปาล์มดิบ น้ำมันปาล์มบริสุทธิ์บรรจุขวด
ไบโอดีเซล (บี 100) อยู่ในระดับราคาที่เหมาะสมและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
สำหรับผู้บริโภค พลังงานทดแทน และส่งออก
เพื่อผลักดันให้ปาล์มน้ำมันคงความเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีอนาคตของไทยอย่างมีเสถียรภาพและยั่งยืน
ตามนโยบายของรัฐบาลต่อไป