โอกาสดีหนึ่งปีมีครั้งเดียวคือการสรงน้ำ เทวดานพเคราะห์ ทั้ง 9 องค์ ที่กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม อัญเชิญมาให้สักการะและสรงน้ำ ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
ปีนี้เป็นพิเศษด้วยการอัญเชิญพระธาตุในพระกรัณฑ์ออกมาให้สรงน้ำด้วย สำหรับพระธาตุในพระกรัณฑ์ เดิมประดิษฐานอยู่ในก้านพระรัศมีของพระพุทธสิหิงค์ พระพุทธรูปสำคัญที่ ประดิษฐาน ณ พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ พระราชวังบวรสถานมงคล
การสรงน้ำเทวดานพเคราะห์นั้น เป็นการบูชาสักการะเนื่องในโอกาสสำคัญขึ้นปีใหม่มหาสงกรานต์ มาจากคติของพระพุทธศาสนาและศาสนาฮินดู ที่พระอิศวร ทรงสร้าง เทวดานพเคราะห์
พระอาทิตย์ ทรงราชสีห์ เป็นเทพนพเคราะห์ที่มีอำนาจเหนือกว่าเทพนพเคราะห์ทั้งปวง
พระจันทร์ ทรงม้า
พระอังคาร ทรงมหิงสา
พระพุธ ทรงคชสาร
พระพฤหัสบดี ทรงกวาง
พระศุกร์ ทรงโค
พระเสาร์ ทรงพยัคฆ์
พระราหู ทรงพญาครุฑ
พระเกตุ ทรงนาค
รูปแบบของเทวรูปเทวดานพเคราะห์ สันนิษฐานว่าเป็นรูปแบบของเจ้าฟ้าอิศราพงศ์ และคล้ายคลึงกับภาพจิตรกรรมเทพบนบานประตูหน้าต่างด้านในของพระอุโบสถวัดบวรสถานสุทธาวาส (วัดพระแก้ววังหน้า) ที่เจ้าฟ้าอิศราพงศ์ทรงร่วมในการควบคุมการก่อสร้างถ่ายทอดรูปแบบของเทพนพเคราะห์ เทวรูปสร้างด้วยประติมากรรมแบบลอยตัว แสดงท่าทาง และลักษณะของเทพนพเคราะห์ได้อย่างสมจริงและมีชีวิตชีวา รักษาเอกลักษณ์ และลักษณะของเทพแต่ละองค์ไว้ได้อย่างสมบูรณ์สันนิษฐานว่าหล่อขึ้นในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อพเปรียบเทียบลักษณะประติมานวิทยากับภาพในสมุดไทย และรูปสัตว์ที่มีความเหมือนจริงเนื่องจากได้รับอิทธิพลจากตะวันตก
เทวดานพเคราะห์ คือ เทวดาทั้ง 9 องค์ ที่มีความเชื่อว่า เป็นเทวดาผู้ครองเรือนชะตาของมนุษย์ มีต้นกำเนิดมาจากโหราศาสตร์ฮินดูที่ นับถือพระอาทิตย์ ซึ่งมีบริวารอีก 8 องค์ ที่ให้โทษหรือสร้างอุปสรรคให้กับมนุษย์มากกว่าจะให้คุณ เพื่อความบริบูรณ์ ควรบูชา "พระคเณศ" เทพผู้เป็นใหญ่เหนืออุปสรรคืและทรงประทานความสำเร็จ
เชิญสักการะและสรงน้ำขอพรกันได้ ณ ศาลาสำราญมุขมาตย์ ระหว่างวันที่ 12-14 เมษายน 2565