ในวาระที่กรุงเทพมหานคร จะคืนพื้นที่ศาลาว่าการ กรุงเทพมหานครให้กระทรวงมหาดไทย เพื่อเตรียมพัฒนาเป็นพิพิธภัณฑ์เมืองในอนาคต มารำลึกถึง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ลานคนเมือง และเสาชิงช้า ว่าในอดีตเคยมีอะไรเกิดขึ้นที่นี่
เมื่อร้อยกว่าปีที่ผ่านมา ย่านเสาชิงช้า คือแหล่งรวมวัยรุ่นสมัยรัชกาลที่ห้า อาจจะเรียกว่าเหมือนสยามสแควร์อะไรประมาณนั้นที่เสาชิงช้าเป็นแหล่งรวมวัยรุ่นก็เพราะ เสาชิงช้าเป็นย่านการค้า ที่มีงานรื่นเริง และมีในสิ่งที่ไม่คิดว่าจะมี ก็คือ มีโรงแก๊สผลิตไฟฟ้า มีตลาด มีแม้กระทั่งบ่อจระเข้ !! อยู่ตรงนั้น
ทำไมถึงมีจระเข้กับโรงผลิตไฟฟ้า ? เรื่องที่ผลิตไฟฟ้าไม่แปลกเพราะอยู่ใกล้พระบรมมหาราชวัง ที่แรกๆของสยามที่มีไฟฟ้าใช้โรงผลิตไฟฟ้าจะไปอยู่ในวังก็ใช่ที่เกิดอะไรขึ้นมาอันตราย ก็ต้องอยู่นอกวังและใกล้พอที่จะไม่ต้องเดินสายส่งไกลมาก สมัยก่อนเขาจะผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยแก๊ส โรงแก๊สเดิมอยู่ในวังแล้วเกิดเพลิงไหม้ เพื่อความปลอดภัย จึงย้ายโรงแก๊สมาไว้ตรงนี้ตามบันทึกบอกว่า ที่โรงแก๊สมีการสร้างบ่อเลี้ยงจระเข้ด้วย โรงไฟฟ้านี้จะผลิตกระแสไฟฟ้าส่งไปสถานที่สำคัญในเวลานั้น ต่อมาบริษัทผลิตไฟฟ้าย้ายออกไปจึงรื้อโรงแก๊สสร้างเป็นตลาด ในสมัยรัชกาลที่ 5 สร้างเป็นเรือนแถว ผมว่าเมื่อเลิกโรงผลิตไฟฟ้าเปลี่ยนเป็นตลาดแล้วคงมีการย้ายจระเข้ไปด้วยตอนนั้น
มาที่จุดที่เป็นลานคนเมืองในวันนี้ ย้อนไปสมัยรัชกาลที่ 4 ตรงนี้เป็น ตลาด ชื่อตลาดเสาชิงช้ามีมาก่อนรัชกาลที่ 5 เป็น เริ่มจากเป็นร้านโรงเรือนทำด้วยไม้ธรรมดาแล้วมา สร้างใหม่เป็นเรือนแถวตอนรัชกาลที่ 5 นอกจากเป็นตลาดที่บริเวณนี้ยังมีตอนนั้นตรงตลาดเสาชิงช้าหรือเสาชิงช้าทุกวันนี้คงมีคนมาเที่ยวเยอะแยะตามบันทึกอย่างยังบอกไว้ว่าในสมัยรัชกาลที่ 5 ย่านเสาชิงช้า ย่านโบสถ์พราหมณ์ เป็นย่านการค้าที่มีทั้งคนไทย คนจีน คนแขกก็มาค้าขายกันคึกคัก
ตลาดเสาชิงช้านั้นคึกคักจริงนอกจากจะมีของขายแล้วยังมีการติดโคมไฟให้แสงสว่างทั้งภายในภายนอกตลาด แค่นั้นยังครึกครื้นไม่พอเพราะตรงข้างโบสถ์พราหมณ์สมัยก่อนมีโรงบ่อนเบี้ย หลังโบสถ์พราหมณ์เคยขึ้นชื่อเรื่องร้านอาหารอร่อยสินค้ามีชื่อที่ตลาดเสาชิงช้า คือ ทองรูปพรรณ สายสร้อย กำไล แหวน ตุ้มหูและเครื่องประดับทำด้วยทองเหลือง จนเคยมีคำสำนวนเลื่องลือถึง ทองเสาชิงช้า ทุกวันนี้ถนนข้างวัดสุทัศน์ฯยังชื่อถนนตีทอง ตลาดเสาชิงช้า อยู่มาจนถึงพ.ศ. 2497 -2498 เทศบาลรื้อตลาดสินค้าออกทั้งหมดแล้วก็ทำเป็นลานกว้างใหญ่สำหรับเล่นกีฬา
นั่นคืออดีตที่น่าตื่นเต้นมีสีสัน วันนี้ ลานคนเมืองเป็นลานกว้างใช้ทำกิจกรรมต่างๆของกทม. ด้านล่างต่ำจากผิวถนนเป็นที่จอดรถ อนาคตถ้าศาลาว่าการกรุงเทพมหานครเป็นพิพิธภัณฑ์เมือง สีสันลานคนเมืองอาจจะกลับมา หรืออาจจะเปลี่ยนไปที่แน่ๆจระเข้ ไม่มีแล้ว เหลือเพียงความทรงจำให้คนแปลกใจ