เอ็นทีที เดต้า (ประเทศไทย) ภายใต้เครือบริษัท เอ็นทีที เดต้า คอร์ปอเรชัน จำกัด ผู้นำด้านธุรกิจดิจิทัลและบริการไอทีชั้นนำระดับโลก ชี้ระบบสินเชื่อมีโอกาสเติบโตสูง โดยเฉพาะสินเชื่อดิจิทัล (Digital Loan) ที่นับเป็นดาวรุ่งแห่งธุรกิจ ช่วยปลดล็อคภาคครัวเรือนไทยเข้าถึงสินเชื่อในระบบได้ง่ายขึ้น หลังหนี้ครัวเรือนในประเทศพุ่งภายหลังวิกฤตโควิด แนะผู้ประกอบการแก้โจทย์ใหญ่ 5 ด้าน ชิงส่วนแบ่งตลาดสินเชื่อเพิ่มอำนาจการแข่งขัน พร้อมชูบริการ Lending Platform ปรับปรุงกระบวนการทำงานในการให้บริการสินเชื่อทั้งระบบนิเวศอย่างครบวงจร ผสานการทำงานร่วมกับแพลตฟอร์มอื่นแบบไร้รอยต่อ ช่วยลดความซับซ้อน และเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารหนี้
นายปรภต นันทวิทยา รองประธานกรรมการบริหาร และผู้อำนวยการฝ่ายขายผลิตภัณฑ์และบริการกลุ่มการเงินและธนาคารบริษัท เอ็นทีที เดต้า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันความต้องการเข้าถึงสินเชื่อในประเทศไทยมีโอกาสเติบโตอย่างมาก แต่เนื่องจากอุปสรรคสำคัญคือ ข้อจำกัดของการเข้าถึงสินเชื่อของภาคครัวเรือน อ้างอิงจากข้อมูลผลสำรวจการบริการทางการเงินภาคครัวเรือนของธนาคารแห่งประเทศไทยตั้งแต่ปี 2563 พบว่าครัวเรือนไทยเข้าถึงบริการสินเชื่อของสถาบันการเงินในระบบแค่ 30.5% หรือ 6.7 ล้านครัวเรือน และล่าสุดศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้เปิดเผยคาดการณ์หนี้ครัวเรือนไทย ว่ายังมีกว่า84% ของ GDP สะท้อนให้เห็นว่าภาคครัวเรือนในประเทศขาดสภาพคล่องทางการเงิน และมีความต้องการเข้าถึงสินเชื่อในระบบ เพื่อฟื้นฟูสภาพคล่องทางการเงินอีกมาก สอดคล้องกับข้อมูลสำรวจความต้องการสินเชื่อผู้บริโภค (Consumer Loan) ของธนาคารแห่งประเทศไทยเมื่อไตรมาสแรก ของปีพ.ศ. 2565 พบว่าความต้องการสินเชื่อบัตรเครดิตเพิ่มขึ้นจากครัวเรือนที่มีเงินออมไม่เพียงพอต่อการอุปโภคบริโภคและการบริหารสภาพคล่อง และความต้องการสินเชื่อของผู้บริโภคยังคงขยายตัวต่อเนื่องทุกหมวดในไตรมาสที่ 2 ของปีเดียวกัน
สินเชื่อดิจิทัล (Digital Loan) จึงกลายเป็นหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้ผู้ประกอบการสินเชื่อมีโอกาสเข้าถึงภาคครัวเรือนไทยได้มากขึ้น แต่ก็มีโจทย์สำคัญที่ผู้ประกอบการให้บริการสินเชื่อจะต้องให้ความสำคัญ 5 ด้าน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและช่วงชิงส่วนแบ่งทางการตลาดได้แก่ 1) พัฒนาทั้ง Ecosystem ให้มีความพร้อมเพื่อให้ได้ข้อมูลลูกค้าที่สมบูรณ์มากที่สุด สามารถนำไปประเมินความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงจูงใจให้ชำระหนี้ 2) การทำความเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้าไปพร้อมกับการเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจสอบคุณสมบัติผู้กู้ และวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อตรวจสอบตัวตน 3) การติดตามหนี้ (Debt Collection) ที่มีประสิทธิภาพบนต้นทุนที่สมเหตุสมผล 4) เตรียมพร้อมการรับมือที่เข้มข้นในตลาด และ 5) ความปลอดภัยและโปร่งใสบนกฎระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้องเช่น พ.ร.บข้อมูลส่วนบุคคล