เคยรอใครจนการพบกันอีกครั้งแทบเป็นไปไม่ได้ไหมครับ ถ้าไม่ได้พบกัน หรือจากกันไปตลอดกาลมันคงเป็นบรรยากาศที่น่าเศร้า แต่หากพบกันอีกครั้งดั่งปาฏิหาริย์ คงเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่ง ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็เช่นกัน Comrades Almost A Love Story หรือชื่อไทยคือ เถียนมีมี่ 3650 รักเธอคนเดียว ภาพยนต์จากผู้กำกับเชื้อสายไทย – ฮ่องกง อย่าง ปีเตอร์ ชาน
ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สะท้อนในยุคที่หนุ่มสาวชาวจีนออกมาเผชิญโชคในแผ่นดินฮ่องกง หลังเศรษฐกิจแผ่นดินใหญ่มีปัญหาในช่วงปลายยุค 80 ต่อยุค 90 หลี่เสี่ยวจวิน กับ หลี่เฉียว ทั้งสองเป็นคนจีนแผ่นดินใหญ่ ที่ต่างอพยพมาอาศัยอยู่ในฮ่องกง เสี่ยวจวินมาฮ่องกงเพื่อที่จะตั้งใจทำงานเก็บเงินเพื่อไปพาคนรักมาแต่งงานกับเขาที่ฮ่องกง โดยในตอนที่เขามาเขาแทบพูดภาษากวางตุ้งไม่ได้ พูดได้เพียงภาษาแมนดาริน (ภาษากวางตุ้งเป็นภาษาที่ใช้กันในฮ่องกง ในสมัยก่อนได้รับความนิยมมากกว่าภาษาจีนกลางหรือแมนดาริน) โดยตัวของเสี่ยวจวินนั้นมาอาศัยอยู่กับป้าซึ่งก็คือชาวจีนแผ่นดินใหญ่ที่อพยพมาก่อนหน้านี้นานแล้ว โดยคุณป้านั้นก็ได้เล่าถึงคนรักของเธอเชื่อว่าคือดาราดังวิลเลียม โฮลเด็น แต่คนแถวนั้นก็บอกเพียงแค่ว่าป้าของเสี่ยวจวินนั้นคิดไปเอง ส่วนหลี่เฉียว นั้นก็มาจากแผ่นดินใหญ่เช่นกัน แต่ด้วยความเก่งของเธอ จึงสามารถหาลู่ทางในการดิ้นรนต่าง ๆ ในเมืองที่เธอมาขุดทองได้
ในตอนแรกหลี่เฉียวนั้นต้องการเพียงแค่หลอกใช้เสียวจวินที่แสนซื่อเพื่อผลประโยชน์เล็ก ๆ โดยเฉพาะฉากหนึ่งที่หลี่เฉียวไปเอาเทปของเติ้งลี่จวินมาขายในงานวันตรุษจีน ซึ่งแม้จะขายไม่ได้เลย แต่สุดท้ายความเข้าใจกัน ความเหงา ของคนทั้งคู่ในวันตรุษจีนที่ทุกหนแห่งเต็มไปด้วยการเฉลิมฉลองและญาติมิตร ก็ทำให้คนทั้งคู่ถลำลึกลงในความรักของกันและกัน แม้ว่าเสียวจวินจะมีคนรักที่รอเขาอยู่แล้ว
ความรักของคนทั้งคู่ ซึ่งไม่แน่ใจว่าคือความรักหรือความหลง แม้ว่าจะถลำลึกลงไปแล้ว แต่สุดท้ายแล้วเสียวจวินก็ตั้งตัวได้ด้วยความขยันทำงาน จนสามารถนำคนรักเสียวถิงมาแต่งงานที่ฮ่องกงได้สำเร็จ ส่วนหลี่เฉียวนั้นเกิดปัญหาทางการเงินจนสุดท้ายเธอต้องไปทำงานนวดหาลำไพ่ โดยจากการทำงานนวดทำให้เธอได้เจอสามีของเธอซึ่งก็เป็นผู้มีอิทธิพลเล็ก ๆ ในฮ่องกง หลังจากการแต่งงานของเสี่ยวจวิน หลี่เฉียวก็ได้กลายมาเป็นเพื่อนที่ดีกับเสี่ยวจวินและภรรยา
แต่ด้วยความจริงที่ว่า หลี่เฉียวนั้นยังรักเสี่ยวจวินอยู่เสมอ การทำดีต่อภรรยาของเสี่ยวจวินมากแค่ไหนก็ทำใจไม่ได้ รวมทั้งตัวเองก็มีสามีแล้ว ประกอบกับธุรกิจผิดกฎหมายของสามีหลี่เฉียวกำลังมีปัญหาทั้งคู่จึงต้องหนีออกไปแสวงโชคที่ใหม่ในสหรัฐอเมริกา เช่นเดียวกับคู่ของเสี่ยวจวิน เสี่ยวจวินก็ยังรักหลี่เฉียวอยู่เสมอเสียวถิงภรรยาของเขาหลังรู้ความจริงก็ไม่ไว้ใจสามีตัวเอง สุดท้ายความรักของทั้งคู่ก็จบลง สุดท้ายเสี่ยวจวินก็ไปแสวงโชคอีกครั้งที่สหรัฐฯ
หลังมาถึงสหรัฐฯ ได้ไม่นานสามีของหลี่เฉียวก็ถูกยิงตาย ทำให้หลีเฉียวต้องดิ้นรนกับการทำงานต่าง ๆ อีกครั้งเหมือนสมัยไปแสวงโชคที่ฮ่องกง เช่นเดียวกับเสี่ยวจวินที่มาทำงานร้านอาหารในอเมริกา และสุดท้ายแม้แผ่นดินสหรัฐฯ จะยิ่งใหญ่แค่ไหน ทั้งสองคนก็พบกันอีกครั้งด้วยความบังเอิญ พร้อมกับเพลงของเติ้งลี่จวิน ในข่าวการเสียชีวิตของเติ้งลี่จวินเป็นเวลากว่า 3650 วันที่ผ่านไป ก่อนที่ภาพยนตร์จะฉายไปถึงวันแรกที่ทั้งสองควรจะได้พบกันคือวันที่ทั้งสองมาถึงฮ่องกงในรถไฟคันเดียวกันนั่งอยู่หลังติดกัน
ในภาพยนตร์เรื่องนี้ปีเตอร์ ชาน ใช้เพลงของเติ้งลี่จวินในหลายฉากที่สื่ออารมณ์ เช่นเพลงเถียนมีมี่ หรือหวานปานน้ำผึ้งเพลงดังที่สุดของเธอ ในฉากจบของเรื่องที่ทั้งสองได้พบกันอีกครั้ง โดยอาจกล่าวได้ว่าเติ้งลี่จวินนับเป็นตัวแทนของชาวแผ่นดินใหญ่ เพราะคนแผ่นดินใหญ่หลงรักเพลงของเติ้งลี่จวิน มีคำกล่าวว่า “ตอนเช้าฟังเติ้งใหญ่ ตอนเย็นฟังเติ้งน้อง” เติ้งใหญ่คือเติ้งเสี่ยวผิงผู้นำของจีนยุคนั้น เติ้งน้อยคือเติ้งลี่จวินนักร้องชาวไต้หวันที่โด่งดังไปถึงแผ่นดินใหญ่ โยเฉพาะมีคำกล่าวอีกเช่นกันว่า เสียงเพลงของเติ้งลี่จวินดังที่ไหน ที่นั่นต้องมีคนจีน การที่ปีเตอร์ ชาน ใช้เสียงเพลงของเติ้งลี่จวินจึงสื่อถึงคนจีนได้อย่างเต็มที่ และยังใช้การเสียชีวิตของเติ้งลี่จวินทำให้คนที่พลัดพรากทั้งสองได้เจอกัน
นอกจากนั้นในหนังยังฉายภาพของการแสดงโชคหลังยุคเศรษฐกิจจีนมีปัญหาในยุค 80 หลังการเปิดประเทศของจีน ที่เศรษฐกิจจีนโตไม่ทัน จนชาวจีนหลายคนต้องออกไปเผชิญโชค จนถึงภาพการส่งคืนฮ่องกงจากอังกฤษให้กับจีน ภาพของหนุ่มสาวที่เผชิญโชค ที่มักต้องมีบาดแผลทางเศรษฐกิจนอกจากภาพของความรักที่แสนเหงา เศร้า ไม่สมหวัง การรอคอย และการพบเจอกัน แน่นอนมันขมแต่มันก็หวานมีความสุข
ยิ่งด้วยแสดงของ หลี่หมิง (Leon Lai) หนึ่งในสี่จตุรเทพนักแสดงของยุคนั้น และ จางม่านอวี้ (Maggie Cheung) โดยตัวของหลี่หมิงเองก็เป็นจีนแผ่นดินใหญ่อพยพเช่นเดียวกัน สำหรับจางม่านอี้ จริง ๆ แล้วไม่ใช่ตัวเลือกแรกของปีเตอร์ ชาน ในบทนี้ เนื่องจากอดีตมิสฮ่องกงนั้นเป็นชาวฮ่องกงโดยกำเนิด แต่ตัวเลือกแรกของปีเตอร์ ชาน คือนักร้องสาวชื่อดังของฮ่องกงอย่าง เฟย์ หว่อง ปฎิเสธบทนี้ ทำให้บทนี้ตกไปอยู่กับจางม่านอี้ในทันที และเธอก็แสดงออกมาได้อย่างไร้ที่ติ โดยเฉพาะแววตาของเธอชวนน่าหลงใหลจริง ๆ
ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นหนึ่งในภาพยนตร์รักอมตะของฮ่องกง ที่เชื่อได้ว่าใครได้ดูมีเสียน้ำตากันบ้างในบางฉาก และทำให้คุณหลงรักไปกับตัวละครอย่างแน่นอน ยิ่งในวันวาเลนไทน์แบบนี้ การหาภาพยนตร์ดี ๆ ซักเรื่องนับว่าน่าสนใจ และเรื่องนี้ เถียนมีมี่ 365 รักเธอคนเดียว ก็เป็นเรื่องที่น่าเอามาดูอีกครั้ง แม้ว่าจะห่างจากออกฉายครั้งแรกกว่า 28 ปี แต่ก็ไม่เคยตกยุคเลยสำหรับหนังรักขึ้นหิ้งเรื่องนี้
“ในฝันในฝันที่ได้พบเธอ หวานปานน้ำผึ้ง ยิ้มที่หวานมากปานน้ำผึ้ง
คือเธอ คือเธอ ในฝันที่ได้พบคือเธอ”
จากการแปลท่อนหนึ่งของบทเพลง เถียนมีมี่ หรือ หวานปานน้ำผึ้ง