X
BDMS ลงทุนใน CARIVA พัฒนา AI วิเคราะห์โรคเฉพาะบุคคล

BDMS ลงทุนใน CARIVA พัฒนา AI วิเคราะห์โรคเฉพาะบุคคล

29 มี.ค. 2567
2140 views
ขนาดตัวอักษร

บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS ร่วมลงทุนใน CARIVA (แคริว่า) บริษัท สตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีทางการแพทย์ชั้นนำของไทย ผู้พัฒนาปัญญาประดิษฐ์ทางการแพทย์ Medical Large Language Models (Medical LLMs) เป็นรายแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยกระดับการแพทย์ไทยด้วยการนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) มา พัฒนาต่อยอดกับกระบวนการตรวจสุขภาพ (Lab Interpretation Solution) เพื่อแปลผลวิเคราะห์ และให้ข้อมูลการตรวจแล็บที่อาจ เกี่ยวข้อง ทำหน้าที่ผู้ช่วยแพทย์ในการวิเคราะห์รายละเอียดของผู้ป่วย และเพิ่มประสิทธิภาพการดูแล ซึ่งเป็นหนึ่งใน


โครงการ Sandbox ของ BDMS มุ่งยกระดับมาตรฐานการบริการทางการแพทย์ด้วยการพัฒนานวัตกรรม 5 ด้าน ได้แก่ ปัญญาประดิษฐ์เพื่อช่วยการคัดกรองและวินิจฉัยโรค การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อยกระดับมาตรฐานการบริการ เทคโนโลยีเพื่อลด ขั้นตอนการปฏิบัติงานอย่างมีคุณภาพ เทคโนโลยีเพื่อการติดตามผลสุขภาพอย่างทันท่วงที และเทคโนโลยีเพื่อการบริการทาง การแพทย์อย่างยั่งยืน


การลงทุนเพื่อความร่วมมือในการพัฒนานวัตกรรมทางการแพทย์ในครั้งนี้ ถือเป็นการยกระดับมาตรฐานการบริการดูแล สุขภาพเชิงป้องกัน (Preventive Care) และการแพทย์เฉพาะบุคคล (Personalized Medicine) ตรวจคัดกรองความผิดปกติเบื้องต้น วิเคราะห์ข้อมูลจากผลตรวจของแต่ละบุคคล เพื่อการรักษาอย่างมีประสิทธิภาพและทันท่วงที โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดูแลสุขภาพ ป้องกันโรคเรื้อรังในอนาคต ซึ่งสามารถตรวจพบและป้องกันได้ก่อนเกิดโรค โดย BDMS มุ่งหวังเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒน สุขภาพ ให้สามารถเข้าถึงข้อมูลสุขภาพได้อย่างสะดวกรวดเร็ว อันส่งผลต่อการยกระดับคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน ผ่านการดูแล สุขภาพอย่างครอบคลุม และเสมอภาค


ในระยะ 3 ปีที่ผ่านมา BDMS ได้ให้ทุนสนับสนุนบริษัทสตาร์ทอัพไปแล้วถึง 4 แห่ง และร่วมพัฒนานวัตกรรมร่วมกับสตาร์ท อัพในประเทศไทย ปัจจุบันได้นำนวัตกรรมที่พัฒนาขึ้นใหม่เหล่านี้ไปใช้งานได้จริงแล้วถึง 7 โครงการ โดยมีเป้าหมายสำคัญเพื่อ พัฒนามาตรฐานบริการทางการแพทย์ และการบริการด้านสุขภาพ ด้วยการคิดค้นนวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ขึ้นมาใช้งานร่วมกับ บุคลากรทางการแพทย์


ดร. พัชรินทร์ บุญยะรังสรรค์ ผู้ช่วยประธานฝ่ายนวัตกรรมองค์กรยั่งยืน บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปีที่ผ่านมา BDMS ได้ดำเนินงานตามแผนการลงทุนในนวัตกรรมใหม่กว่า 1,500 ล้านบาท ในรูปแบบการสนับสนุนเงิน ลงทุนระดับ Serie A เพื่อพัฒนานวัตกรรมร่วมกับสตาร์ทอัพไทย โดยมีนวัตกรรมที่สามารถนำไปใช้งานจริงแล้ว ได้แก่ โครงการ Perceptra ที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI อ่านผลเอกซเรย์สำหรับนักรังสีการแพทย์ โครงการ Mineed หรือ เข็มละลายได้ (Microneedle) ที่ช่วยในการรักษา และไม่เป็นพิษกับร่างกาย รวมไปถึงแอปพลิเคชัน “ลูก้า” (OOCA) ที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อใช้งานใน การปรึกษาจิตแพทย์และนักจิตวิทยาแบบออนไลน์ นอกจากนี้ ยังมีแอปพลิเคชัน “บีดี” (BeDee) การบริการพบแพทย์และเภสัชกร แบบทางโกล หรือ Telehealth และ Tele-pharmacy รวมถึงการสั่งยา (Tele Medicine) ซื้อหาสินค้าเวชภัณฑ์ (Health Mall) และ ศูนย์ข้อมูลความรู้ด้านสุขภาพ (Health Content) ซึ่งจะช่วยให้บุคคลทั่วไปสามารถเข้าถึงบริการด้านการแพทย์ได้สะดวกสบายยิ่งขึ้น


“โครงการที่ BDMS เข้าไปสนับสนุนเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Sandbox ที่ BDMS ร่วมมือกับบริษัทสตาร์ทอัพที่มี ความเชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมทางการแพทย์ ให้เข้ามาช่วยพัฒนาและสร้างการเปลี่ยนแปลงต่อระบบการให้บริการทางการแพทย์ ตามเจตนารมย์ของ BDMS ที่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาอุตสาหกรรม Healthcare ให้เกิดความยั่งยืน การนำนวัตกรรม AI เข้ามาใช้งานจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานให้กับแพทย์ได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ การพัฒนานวัตกรรม A1 นั้น ไม่ สามารถทำสำเร็จได้ด้วยการทำงานเพียงลำพัง และ BDMS ก็เช่นกัน เราได้รับความร่วมมือ ทั้งจากภาครัฐ มหาวิทยาลัยการแพทย์ และบริษัทสตาร์ทอัพ ในการยกระดับบริการทางการแพทย์ ทั้งการดูแลสุขภาพกายและสุขภาพจิต ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญในการ พัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน เรามุ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็นหนึ่งในฟันเฟืองที่ช่วยยกระดับมาตรฐานสาธารณสุขไทย เพื่อเพิ่ม ความสามารถในการแข่งขันของประเทศต่อไป” ดร. พัชรินทร์ กล่าวทิ้งท้าย




นายศิวดล มาตยากูร ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท แคริว่า (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า สำหรับ Medical LLMs ภายใต้ CARIVA ในชื่อ PreceptorAl เป็นแชทบอทด้านการแพทย์ผ่านแอปพลิเคชันไลน์ ซึ่งเปิดใช้ บริการตั้งแต่เดือนเมษายน 2556 ทำหน้าที่เปรียบเสมือนที่ปรึกษาและผู้ช่วยตัดสินใจของบุคลากรทางการแพทย์

จากจุดเริ่มต้นดังกล่าว CARIVA ได้ต่อ ยอดนวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ทางการแพทย์อย่างต่อเนื่องให้มีรูปแบบเสมือนผู้ช่วยบุคลากรทางการแพทย์ เช่น Lab Interpretation Solution, ASR (Automatic Speech Recognition) การบันทึกและตรวจความถูกต้องข้อมูลคำสั่งทางการแพทย์ แบบ real-time โดยใช้เทคโนโลยีรู้จำเสียงอัตโนมัติ ซึ่งจะช่วยในการบันทึกข้อมูลทางการแพทย์ถูกต้องและรวดเร็วยิ่งขึ้น พร้อมลด ภาระงานด้านเอกสารในกระบวนการทำงานอีกด้วย Symptom Checkers เอไอในรูปแบบแชทบอท เพื่อประเมินอาการ และ วิเคราะห์ความเป็นไปได้ของโรค โดยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ของ CARIVA ประกอบกับความเชี่ยวชาญของบุคลากรทาง การแพทย์ จะเข้ามาช่วยส่งเสริมการบริการที่เป็นเลิศทางการแพทย์ของ BDMS พร้อมขยายสู่โรงพยาบาลชั้นนำในต่างประเทศ ต่อไป


นอกจากนี้ นายณรงค์ชัย ลิมป์ปิยาภิรมย์ ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท แคริว่า (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมว่า โครงการ Lab Interpretation ภายใต้ Sandbox ได้มีการทดลองใช้ ณ Health Design Center ในพื้นที่โรงพยาบาลกรุงเทพ สำนักงานใหญ่ เพื่อ ช่วยแปลผลข้อมูลสุขภาพร่วมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพิ่มประสิทธิภาพการบริการดูแลคนไข้ พร้อมเชื่อมต่อข้อมูลสุขภาพ เพื่อ แสดงผลในรูปแบบดิจิตอลผ่าน BeDee Health Ecosystem Platform ให้คนใช้เข้าถึงข้อมูลได้ทุกที่ ทุกเวลา รวมถึงสามารถเข้ารับ บริการทางด้านสุขภาพ ได้แก่ การปรึกษาทางการแพทย์ ผ่าน Teleconsultation การบริการส่งยา และเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ที่จําเป็น ผ่าน Tele-pharmacy และ Health Mall รวมถึงรับข้อมูลสุขภาพ เพื่อการดูแลสุขภาพแบบครบวงจร ผ่าน Health Content ซึ่งการบริการทั้งมวลดำเนินการโดยบุคลากรทางการแพทย์ผู้ชำนาญการในเครือ BDMS


ตร. สริดา บุณย์ศุภา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เฮลท์ พลาซ่า จำกัด ในเครือ BDMS ผู้พัฒนาแอปพลิเคชัน BeDee กล่าว ว่า นอกจากประโยชน์ที่ AI จะเข้ามาช่วยแพทย์ในการอ่านผลตรวจสุขภาพเพื่อความแม่นยำในการวิเคราะห์ข้อมูลมากขึ้นแล้วผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน BeDee ก็สามารถอ่านผลตรวจสุขภาพเองได้ทันที ในรูปแบบที่ล้ำสมัย สวยงาม และเข้าใจง่าย หากพบว่า ผลตรวจสุขภาพของมีจุดผิดปกติ เช่น มีความเสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน หรือโรคอื่น ๆ ผู้ป่วยก็สามารถวางแผนการ รักษาต่อด้วยการปรึกษาคุณหมอเฉพาะทาง หรือปรึกษาเภสัชกรเรื่องยาแบบไม่มีค่าใช้จ่าย ผ่านแอปพลิเคชัน BeDee เพียงแอป เดียว

Terms of Service © 2018 MCOT.net All rights reserved นโยบายข้อมูลส่วนบุคคล