ใครว่านักการเมืองจะต่อสู้เฉือนคมด้วยอารมณ์ตึงเครียดในสนามการหาเสียงเลือกตั้งเสมอไป
อย่างล่าสุดเพจพรรคเสรีรวมไทยได้โพสต์ภาพความน่ารักเป็นกันเองระหว่าง พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส
หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กับ นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.พรรคก้าวไกล
เพื่อนพรรคร่วมฝ่ายค้าน
โดยทั้งสองเจอกันระหว่าง “ป๋าเสรี”นำทีมลงพื้นที่หาเสียงในพื้นที่เขตคลองสาน ซึ่งเป็นพื้นที่ของนายเท่าภิภพ เมื่อวานนี้ (9มี.ค.66) แทนที่จะมีท่าทีไว้เชิงต่อกันกลับถ่ายรูปคู่เป็นที่ระลึกกันอย่างเฮฮา ตามประสาคนอุดมการณ์เดียวกัน โดย “ป๋าเสรี”ต้องปีนขึ้นไปยืนบนเก้าอี้ถึงจะเทียบกับความสูง 194 เซ็นติเมตร ของเท่าภิภพได้ นอกจากนี้นายเท่าพิภพ ยังได้โพสต์คอมเมนต์ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมที่ศูนย์อำนวยการเลือกตั้งของตัวเองอีกด้วย
สำหรับประวัติคร่าวๆของทั้ง
2 คนก่อนเข้ามาในเส้นทางการเมืองนั้นค่อนข้างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ชื่อเดิมคือ เสรี เตมียเวส มีชื่อเล่นว่า “ตู่” จบ โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน รุ่นที่ 24 (นรต.24) ปีจบพ.ศ.2510 สมัยรับราชการตำรวจพื้นที่อำเภอนาแก จังหวัดนครพนม ช่วง พ.ศ. 2515-2524 มีผลงานการต่อสู้ปราบปรามกลุ่มผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์อย่างกล้าหาญเด็ดเดี่ยว จนได้รับการขนานนามว่า "วีรบุรุษนาแก" นอกจากนี้ยังได้รับฉายา”มือปราบตงฉิน”จากการทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาในหลายคดีสำคัญ เช่น การจับกุมการซื้อเสียงในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ การจับกุมคดีทุจริตการจัดซื้อที่ดินทิ้งขยะเขาไม้แก้ว แต่หลายครั้งก็ถูกโยกย้ายไปในตำแหน่งที่ไม่ได้ควบคุมกำลัง ก่อนขึ้นไปดำรงตำแหน่งจเรตำรวจแห่งชาติ และ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แต่สุดท้ายก็ถูกโยกย้ายไปปฏิบัติราชการประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จากเหตุความขัดแย้งกับอดีตผู้ใต้บังคับบัญชา
ขณะที่ นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ชื่อเล่น “เฒ่า”จบการศึกษาจากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เคยเป็นมัคคุเทศก์อิสระ โดยเมื่อ ปี 2560 ได้ตกผู้ต้องหาคดีผลิตและจำหน่ายสุราโดยไม่ได้รับอนุญาต หลังเจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิตนำกำลังเข้าผู้จับกุม ด้วยเหตุการทำคราฟท์ เบียร์ โดยเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้เกิดแรงผลักดันในการทำงานการเมืองเพื่อแก้ไขกฎหมายผูกขาดธุรกิจสุราจนเป็น ร่างพ.ร.บ. ภาษีสรรพสามิต ที่เรียกกันติดปากว่า พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า แต่สุดท้ายร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว ก็ยังไม่ผ่านการพิจารณาจากสภา
ที่มา FB พรรคเสรีรวมไทย