(ซินหัว)-เมื่อไม่นานนี้ ณ ศาลาหกเหลี่ยมแห่งหนึ่งของโรงละครศิลปะซินเจียง นครอุรุมชี เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน มีบรรยากาศคึกคักสนุกสนานด้วยการแสดงร่ายรำเต้นระบำเคล้าเสียงเครื่องดนตรีหลากหลายประเภท
ความมีชีวิตชีวาดังกล่าวมาจากการรวมตัวกันของเหล่านักแสดงจากคณะศิลปินมู่ข่าหมู่แห่งโรงละครศิลปะซินเจียงและคณะศิลปนาฏดุริยางค์ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ของไทย ซึ่งอยู่ระหว่างเข้าร่วมเทศกาลเต้นรำนานาชาติซินเจียงแห่งประเทศจีน ครั้งที่ 6
นักแสดงหญิงชาวไทยผู้นุ่งโจงกระเบนสีเข้มอย่าง "สุวรรณี ชูเสน" เป็นหนึ่งในผู้ร่วมร่ายรำกลางศาลาตามจังหวะจากเครื่องดนตรีไทยอย่างกลองยาว ขลุ่ยไม้ และซอด้วง ที่ผสมผสานกับเครื่องดนตรีจีนอย่างกลองโส่วกู่และเครื่องสายเร่อหว่าผู่ของกลุ่มชาติพันธุ์อุยกูร์
สุวรรณีที่มาเยือนซินเจียงครั้งแรกและร่วมทำการแสดง "โขน-รามเกียรติ์ และระบำสี่ภาค" ในเทศกาลฯ กล่าวว่าตอนแรกที่ได้ยินเสียงของเครื่องสายเร่อหว่าผู่ก็รู้สึกว่าค่อนข้างมีเอกลักษณ์ และพอเล่นคู่กับซอด้วงก็ประสานกันอย่างลงตัวสมบูรณ์แบบมาก
ด้าน "เอกลักษณ์ หนูเงิน" นักแสดงชายชาวไทยอีกคนร่วมร่ายรำด้วยท่วงท่าอ่อนช้อยงดงาม ซึ่งกลายเป็นแรงดึงดูด"เร่อจือย่า หยาเซิง" (Razya Yasen) นักเต้นของคณะศิลปินมู่ข่าหมู่ในชุดสีแดง ก้าวเข้าร่วมเต้นรำม่ายซีหลายฝู่ของซินเจียง ก่อนจะฝึกร่ายรำตามนักแสดงชาวไทย
เร่อจือย่ากล่าวว่าการร้องรำทำเพลงนั้นไร้พรมแดนและกำแพงภาษา แม้ไม่ได้ซักซ้อมแต่ก็เข้าใจกันได้โดยปริยายโดยรำไทยดูนุ่มนวลอ่อนช้อยกว่าเต้นรำม่ายซีหลายฝู่ แต่ท่วงท่า การบิดตัว และการกลับตัวดูคล้ายกันมาก รวมถึงสร้างความสุขสนุกสนานเหมือนกัน
อนึ่ง การรวมตัวนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการแลกเปลี่ยนและเรียนรู้พหุวัฒนธรรมระหว่างเทศกาลฯ ซึ่งจัดขึ้นวันที่ 20 ก.ค.-5 ส.ค. ที่มีบรรดาศิลปินหลายพันคนจากเอเชีย ยุโรป และแอฟริกา เดินทางมาศิลปะการแสดงแขนงต่างๆ เช่นบัลเลต์ ละครรำพื้นบ้าน ละครเพลงและระบำ และอื่นๆ
คณะศิลปนาฏดุริยางค์ของสถาบันฯ ได้ทำการแสดง "โขน-รามเกียรติ์ และระบำสี่ภาค" รวมถึงนาฏศิลป์ไทยอื่นๆอาทิ การฟ้อนรำล้านนา การรำเถิดเทิงหรือรำกลองยาว และการรำมโนราห์ เมื่อวันจันทร์ (24 ก.ค.) ซึ่งได้รับเสียงปรบมือจากผู้ชมชาวจีน
จินตนา สายทองคำ คณบดีคณะศิลปนาฏดุริยางค์ของสถาบันฯ กล่าวว่าเทศกาลฯ ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนศิลปะแขนงต่างๆ และช่วยให้ผู้คนเข้าใจประเทศไทยอย่างลึกซึ้ง จึงหวังว่าการแลกเปลี่ยนทางศิลปะจะเกื้อหนุนมิตรภาพระหว่างสองประเทศยืนยาวยิ่งขึ้น