X
ศูนย์จีโนมฯ เผย..ฝีดาษลิง ระบาดทางอากาศได้ รับมือ อย่างไรดี ?!!

ศูนย์จีโนมฯ เผย..ฝีดาษลิง ระบาดทางอากาศได้ รับมือ อย่างไรดี ?!!

26 ก.ค. 2565
1150 views
ขนาดตัวอักษร

พจเฟซบุ๊ก ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ได้โพสต์ข้อมูลชวนสงสัย เกี่ยวกับไวรัสฝีดาษลิง ที่สามารถแพร่ระบาดทางอากาศได้หรือไม่ ? และจะมีวิธีการป้องกัน หรือหากต้องติดเชื้อโรคระบาดนี้ ต้องปฏิบัติตัวอย่างไร ? เรื่องนี้มีคำตอบ

หลายคนคงอยากทราบว่า ไวรัสฝีดาษลิง หรือ ฝีดาษวานร สามารถแพร่ระบาดทางอากาศ (airborne diseases) ได้หรือไม่ ?

คำตอบ คือ ขึ้นกับสายพันธุ์ย่อยของ ไวรัสฝีดาษลิง ซึ่งไวรัสที่สามารถ แพร่ระบาดทางอากาศได้  เช่น

+ โรคสุกใส (Chickenpox) อาการเฝ้าระวัง มีไข้ ตุ่มน้ำใสทั่วตัว Fever with vesicular rash (fluid-filled blister)

+ โรคหัด (Measles) อาการเฝ้าระวัง มีไข้ ไอ น้ำมูก ตาแดง มีผื่นแดงจากศีรษะไปทั่วตัว Fever with cough, coryza, conjunctivitis and maculopapular rash

+ สำหรับโรคฝีดาษลิง จากการประชุมของหน่วยงาน ในสหราชอาณาจักร ที่ดูแลเรื่อง “โรคติดเชื้อ ที่มีผลกระทบสูง” หรือ High consequence infectious diseases (HCID)  ได้สรุปตรงกันว่า



1. ไวรัสฝีดาษลิง สายพันธุ์ “B.1” ที่ระบาดในยุโรป เมื่อเดือนมิถุนายน 2022 เป็นไวรัส ที่ไม่แพร่กระจายทางอากาศ (airborne diseases)

2. ไวรัสฝีดาษลิง สายพันธุ์ที่ระบาด ในแอฟริกาตะวันตก เช่น ไนจีเรีย และแอฟริกากลาง ยังถือว่า สามารถแพร่ระบาดทางอากาศได้

จากแอปพลิเคชัน ติดตามวิวัฒนาการ ของจุลชีพก่อโรค แบบเรียลไทม์ “Nextstrain” ได้จัดจำแนก ไวรัสฝีดาษลิง ออกเป็น 3 สายพันธุ์หลัก (clade) คือ monkeypox virus (MPXV) Clade 1, 2, และ 3

MPXV clade 2 จะเป็นสายพันธุ์ ที่ส่วนใหญ่แพร่ระบาด อยู่ในแอฟริกา ระหว่างปี 2003 - 2017

MPXV clade 3  เป็นสายพันธุ์ใหม่ ที่กลายพันธุ์ไปกว่า 40 ตำแหน่ง โดยมีการกลายพันธุ์อย่างรวดเร็วถึง “1 ตำแหน่งต่อจีโนมต่อเดือน” มีการระบาดระหว่างคนสู่คนตั้งแต่ปี 2017 - 2022 ปัจจุบัน ถูกจัดแบ่งออกได้เป็น 5 สายพันธุ์ย่อย (lineage)  คือ  A, A.1, A.1.1 A.2 และ B.1

1. A lineage เริ่มการระบาด เมื่อ 5 ปีก่อน (พ.ศ. 2560 / 2017) ในไนจีเรีย รายแรกเป็นเด็กชายอายุ 11 ขวบ จนถึงปัจจุบันปี 2565 ยังคงพบผู้ป่วยโรคฝีดาษลิง เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จำนวนมากกว่า 500 ราย

2. A.1 lineage พบการติดเชื้อ ฝีดาษลิงในยุโรป, สหราชอาณาจักร และอิสราเอล จากผู้ที่เดินทางมาจาก ไนจีเรีย (ในปี 2561 / 2018)

3. A.1.1 lineage พบการติดเชื้อ ในสหรัฐอเมริกา (ในปี 2564 / 2021)

4. A.2 lineage พบการติดเชื้อ ในสหรัฐอเมริกา (ในปี 2564 / 2021)

5. B.1 lineage คือ ไวรัสฝีดาษลิง สายพันธุ์ย่อย ซึ่งพบการระบาดในขณะนี้ ที่สหรัฐอเมริกา, ยุโรป  และ ออสเตรเลีย (ในปี 2565 / 2022)




สายพันธุ์ย่อย B.1 พบการระบาดที่ยุโรป สหรัฐอเมริกา และ ออสเตรเลีย ในปี 2565 / 2022 พบการกลายพันธุ์ต่างไป จากไวรัสฝีดาษลิงดั้งเดิม มากกว่า 40 ตำแหน่ง โดยมีการกลายพันธุ์ ในรูปแบบจำเพาะ คือ TT เปลี่ยนเป็น TA หรือ GA เปลี่ยนเป็น AA อันเกิดจากเอนไซม์มนุษย์ ที่สร้างจากยีน “APOBEC3” ซึ่งมีหน้าที่ป้องกันไวรัส เข้ามารุกรานเซลล์ โดยเอนไซม์ดังกล่าว จะกระตุ้นให้จีโนมไวรัส มีการกลายพันธุ์ในลักษณะจำเพาะ (TT เปลี่ยนเป็น TA หรือ GA เปลี่ยนเป็น AA) จนทำให้จีโนมเสียหาย ไม่อาจเพิ่มจำนวนไวรัสได้ ส่วนที่เหลือรอด ก็จะปรากฏเสมือนแผลเป็น (TT เปลี่ยนเป็น TA หรือ GA เปลี่ยนเป็น AA) บนสายจีโนม


 
โดยทางศูนย์จีโนมทางการแพทย์ รพ. รามาธิบดี ได้พัฒนาการตรวจสายพันธุ์ ของไวรัสฝีดาษลิง อย่างรวดเร็วภายใน 24 - 48 ชั่วโมง โดยอาศัยเทคโนโลยี MassArray Genotyping และการตรวจหาสายพันธุ์ ความละเอียดสูง ด้วยเทคโนโลยีการถอดรหัส พันธุกรรมทั้งจีโนม (whole-monkeypox genome sequencing) ซึ่งจะสามารถแยก ไวรัสฝีดาษลิง A.1, A.1.1, A.2, และ B.1 ออกจากกันได้ รวมทั้งแยกจากไวรัสฝีดาษคน ไวรัสเริม และไวรัสสุกใสได้ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก https://www.facebook.com/CMGrama/posts/5075527972554942



ข้อมูลอ้างอิง
High consequence infectious diseases (HCID) - GOV.UK (www.gov.uk)
https://www.gov.uk/guidance/high-consequence-infectious-diseases-hcid

สำหรับคำแนะนำ การป้องกันโรคฝีดาษลิง หรือ ฝีดาษวานร ในกรณีผู้เดินทางไปต่างประเทศ Backbone MCOT มีข้อมูลจาก สำนักสื่อสารความเสี่ยง และพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ ที่ได้เผยแพร่ภาพประกอบ พร้อมคำแนะนำ ผ่านเว็บไซต์ กรมควบคุมโรค และเปิดให้ดาวน์โหลดเอกสารดังกล่าวได้ ซึ่งได้ลงไว้ เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2565 มีข้อมูลเบื้องต้นดังนี้



1. ล้างมือบ่อย ๆ
2. สวมหน้ากากอนามัย
3. ติดตามข่าวสาร
4. หากอาการสงสัย พบแพทย์ทันที
5. หลีกเลี่ยงการสัมผัสผู้ป่วย หรือผู้ที่เสี่ยงในการติดโรค
6. หลีกเลี่ยงการสัมผัสสัตว์ ที่อาจเป็นพาหะนำโรค
7.ไม่ใช้ของใช้ส่วนตัว ร่วมกับผู้อื่น
8. ไม่รับประทานอาหาร จากเนื้อสัตว์ปรุงไม่สุก


คำแนะนำ ป้องกันโรคฝีดาษวานร ผู้เดินทางไปต่างประเทศ คลิก > (ดาวน์โหลดเอกสาร)


นอกจากนี้ เว็บไซต์ RAMA CHANNEL คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ได้เผยแพร่ภาพ พร้อมข้อมูลให้คำแนะนำเกี่ยวกับ โรคฝีดาษวานร ป้องกันอย่างไร และรักษาหายไหม ? เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2565 โดยให้มีข้อมูลดังนี้

คนไข้ฝีดาษวานร ส่วนใหญ่ มักมีอาการน้อย และหายได้เอง บางรายที่มีอาการมากขึ้น หรือมีโรคประจำตัว อาจต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล จนกว่าอาการจะดีขึ้น ซึ่งหากมีการดูแลรักษาได้ดี จะมีอัตราการเสียชีวิตที่ต่ำมาก ในแอฟริกามีการเสียชีวิต ร้อยละ 6 -11 แต่ในช่วงที่มีการระบาดในสหรัฐอเมริกา ไม่พบผู้เสียชีวิต ขึ้นอยู่กับประชากร ระบบสาธารณสุข และสายพันธุ์ด้วยว่า มีความรุนแรงมากน้อยเพียงใด



แนะนำวิธีการป้องกัน ดังนี้

1. วัคซีน (ก่อนหรือหลังสัมผัส) ข้อมูลชี้ว่า หากเคยปลูกฝีไข้ทรพิษ จะสามารถป้องกันไม่ให้ติด หากได้รับเชื้อ อาการจะไม่รุนแรง และการได้รับวัคซีนหลังจากสัมผัสเชื้อแล้ว บางรายสามารถช่วยลดได้ การเสียชีวิตต่ำ และความรุนแรงต่ำ

2. ป้องกันตนเอง ด้านการสัมผัส ละอองผ่านการหายใจ สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อย ๆ

3. ทำความสะอาดเสื้อผ้า และที่นอนบ่อย ๆ หากใช้ร่วมกันกับผู้อื่น

4. ไม่สัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ป่วย รวมถึงการมีเพศสัมพันธ์ ที่ไม่มีการป้องกัน

5. งดสัมผัสสัตว์ป่วย


สำหรับช่วงการแพร่เชื้อ ในช่วงสัปดาห์แรก ตอนที่มีผื่น ควรแยกตัวเอง จนกว่าแผลจะแห้ง ตกสะเก็ด และการตรวจ PCR เป็นลบ คนที่สัมผัสใกล้ชิด กับผู้ติดเชื้อ หรือสัตว์ที่ติดเชื้อ ควรแยกตัวสังเกตอาการ 21 วัน

การรักษาด้วย ยาต้านไวรัส มียาหลายชนิด ที่ใช้รักษาไข้ทรพิษ (Smallpox) และคาดว่า จะสามารถรักษาฝีดาษวานรได้ เช่น

+ ยาเทโควิริแมต (tecovirimat)
+ ยาบรินซิโดโฟเวียร์ (brincidofovir)
+ ยาซิโดโฟเวียร์ (cidofovir)




#BackboneMCOT
อ้างอิง และขอบคุณข้อมูล จาก :

เฟซบุ๊ก : Center for Medical Genomics
(ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล)

https://www.facebook.com/CMGrama

เว็บไซต์ : กรมควบคุมโรค
https://ddc.moph.go.th

เว็บไซต์ : RAMA CHANNEL คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี
https://www.rama.mahidol.ac.th



อ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ..คิดอย่างไรกับเรื่องนี้ เขียนเลย
Terms of Service © 2025 MCOT.net All rights reserved นโยบายข้อมูลส่วนบุคคล นโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยเว็บไซต์ นโยบายเว็บไซต์ของ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)