7 โรคที่มากับเจ้าพาหะ นกพิราบ
1. โรคคริปโตคอกโคสิส เกิดจากเชื้อรา Cryptococcus Neoformans ในมูลของนกพิราบ ส่งผลกระทบต่อปอด แพร่กระจายผ่านกระแสเลือด ไปยังอวัยวะอื่นๆ ผู้ป่วยมักจะมีอาการ ปวดศีรษะแบบเป็นๆ หายๆ มองเห็นไม่ค่อยชัด เป็นไข้ ไอเป็นเลือด เลือดกำเดาไหลออกจมูก ในกรณีที่สมองติดเชื้อผู้ป่วยจะมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป
2.โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ เกิดจากการสัมผัสมูลของนกพิราบ สามารถติดเชื้อผ่านระบบทางเดินอาหารได้ ผู้ป่วยมักจะมีอาการ เช่น มีไข้ ปวดศีรษะ ตาแพ้แสง หากติดจากเชื้อไวรัส อาการจะไม่รุนแรง หากติดจากเชื้อแบคทีเรีย อาการจะรุนแรง เช่น ชัก หมดสติ เป็นอัมพาต สมองพิการ สามารถเสียชีวิตได้
3. ไข้หวัดนกเป็นการติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอในสัตว์ปีก ปกติแล้วจะติดต่อกันระหว่างสัตว์เท่านั้น แต่บางสายพันธุ์สามารถแพร่เชื้อมาสู่คนได้
4. โรคซิตตาโคซิส (Psittacosis) หรือโรคไข้นกแก้วโรคที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย Chlamydia Psittaci ผู้ป่วยมักจะมีอาการไม่รุนแรงมาก เช่น เป็นไข้ ปวดศีรษะ ไอแห้ง ปวดกล้ามเนื้อ อีกทั้งโรคไข้นกแก้วนี้ ยังเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคปอดบวม
5. ปอดอักเสบโรคปอดอักเสบชนิดนี้เกิดจากการสูดดมเอาละอองสปอร์ เชื้อรา Cryptococcus Neoformans ส่งผลให้เกิดอาการติดเชื้อที่ปอด ลุกลามไปยังส่วนต่างๆ จนปอดเกิดการอักเสบในที่สุดปอดอักเสบจากการติดเชื้อราประเภทนี้อันตรายมาก หากมีการติดเชื้อในกระแสเลือด ผู้ป่วยอาจเสียชีวิตได้
6. โรคซาลโมเนลโลสิส (Salmonellosis)
เกิดจากการรับประทานอาหาร หรือดื่มน้ำดื่ม ที่มีสารปนเปื้อนของเชื้อจากแบคทีเรียซาลโมเนลลา (Salmonella) โดยมีนกพิราบเป็นพาหะของโรค
7. โรคฮิสโตพลาสโมซิส (Histoplasmosis)เกิดจากการติดเชื้อรา Histoplasma ซึ่งจะอยู่ในดินที่นกพิราบได้ถ่ายมูลทิ้งไว้ ผู้ป่วยที่ร่างกายปกติแข็งแรงมักจะไม่แสดงอาการแต่ผู้ติดเชื้อที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ส่งผลให้การติดเชื้อทวีความรุนแรงมากขึ้น
ป้องกันเชื้อโรคที่เกิดจากนกพิราบ
1. หลีกเลี่ยงการสัมผัสนกพิราบ หรือเข้าไปอยู่ในฝูงนกพิราบเยอะๆ รวมทั้งสัมผัสนกพิราบที่ตายแล้ว
2. มีความจำเป็นที่ต้องอยู่ในแวดล้อมของนกพิราบ หรือมูลของนกพิราบ ควรสวมหน้ากากอนามัย และล้างมือให้สะอาด
3. ไม่ให้อาหารแก่นกพิราบ
4. ไล่นกพิราบออกจากที่อยู่อาศัย
5. ทำลายรังนกพิราบ พร้อมทั้งทำความสะอาด
ผู้ที่มีความเสี่ยงที่จะได้รับอันตรายจากนกพิราบ ควรสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรงมากขึ้น ด้วยการออกกำลังกาย และหลีกเลี่ยงการสัมผัสนกพิราบ มูลนกพิการ และซากนกพิราบที่ตายแล้วให้มากที่สุด