สิงห์ดำรวมใจจัดกิจกรรม “สิงห์ดำ จิตอาสา พาบริจาคโลหิต” ร่วมบริจาคโลหิตกว่า 40,900 ซีซี ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในวันนวมินทรมหาราช 13 ตุลาคม 2566
วันนี้ (12 ต.ค. 66) ที่ห้อง 107 อาคารสำราญราษฎร์บริรักษ์ (ตึก 1) คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ นายกสมาคมนิสิตเก่ารัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นประธานเปิดโครงการ “สิงห์ดำ จิตอาสาพาบริจาคโลหิต” จัดโดยสมาคมนิสิตเก่ารัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสภากาชาดไทย เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในวันนวมินทรมหาราช 13 ตุลาคม 2566 โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.ปกรณ์ศิริประกอบ นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อุปนายกสมาคมฯ นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม เหรัญญิก นายสมคิด จันทมฤก นายทะเบียน ร้อยตำรวจโท ภพชนก ชลานุเคราะห์ นายทะเบียน พร้อมด้วยสมาชิกสมาคม นิสิตเก่า คณาจารย์ นิสิต และภาคีเครือข่ายของสมาคมฯ ร่วมกิจกรรม
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ นายกสมาคมนิสิตเก่ารัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า เนื่องในวันที่ 13 ตุลาคม2566 ซึ่งเป็นคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรเป็นปีที่ 7 รัฐบาลได้นำความกราบบังคมทูลพระมหากรุณาและทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อวันที่ระลึกว่า“วันนวมินทรมหาราช” อันมีความหมายว่า พระมหาราชรัชกาลที่ 9 ผู้ยิ่งใหญ่ ซึ่งสมาคมนิสิตเก่ารัฐศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อมด้วยนิสิตเก่า นิสิตปัจจุบัน ต่างน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงตรากตรำพระวรกายปฏิบัติบำเพ็ญพระราชกุศลมาเป็นระยะเวลา 70 ปี “พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ผู้เป็นที่รักเทิดทูน” และเป็นศูนย์รวมใจของคนไทยทั้งชาติ ทรงมีคุณูปการอย่างใหญ่หลวงต่อวงการแพทย์ โดยทรงสนับสนุนส่งเสริมงานด้านบริการโลหิตมาอย่างต่อเนื่องทรงยึดถือมั่นในทศพิธราชธรรม ยังความผาสุกร่มเย็นและคุณประโยชน์มหาศาลแก่ปวงชนชาวไทย
โอกาสนี้ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ นายกสมาคมนิสิตเก่ารัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้อัญเชิญพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่นิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปีการศึกษา 2492 เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2493 มาเตือนใจและขอบคุณผู้ที่ไปร่วมบริจาคโลหิต ถวายเป็นพระราชกุศล อันเป็นการสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านที่มีต่อพสกนิกรชาวไทยและนิสิตเก่า นิสิตปัจจุบันของรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ใจความสำคัญตอนหนึ่งว่า “…แต่ขอให้นึกอยู่เสมอว่า เมื่อท่านสำเร็จการศึกษาออกไปแล้ว ยังมีคนจำนวนมากที่เอาใจใส่ เฝ้าดูการกระทำของท่านอยู่ต่อไป ใครทำดีก็ได้รับคำชมเชยและสรรเสริญ ใครทำไม่ดี เขาก็จะพากันติและพลอยติชมถึงสถานศึกษาของท่านด้วย ชื่อมหาวิทยาลัยของท่านคือ “จุฬาลงกรณ์” จะติดตัวท่านไปด้วยเสมอไม่ว่าจะประพฤติดีหรือประพฤติชั่ว ฉะนั้นทุกๆครั้งที่ท่านจะกระทำการสิ่งใดลงไปจงคิดแล้วคิดอีก ทบทวนดูทั้งทางได้ทางเสียให้แน่ชัดเสียก่อน “จุฬาลงกรณ์” หาได้เป็นแต่เพียงชื่อของมหาวิทยาลัยนี้เท่านั้นไม่ ยังเป็นนามของผู้พระราชทานกำเนิดของสถานที่แห่งนี้ด้วย ฉะนั้นจึงเป็นการจำเป็นอย่างยิ่งที่ท่านต้องปฏิบัติตนให้เหมาะสมกับเป็นผู้ที่ได้รับการอบรมสั่งสอนไปจากจุฬาลงกรณ์ …”
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ นายกสมาคมนิสิตเก่ารัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวต่ออีกว่า ““โครงการสิงห์ดำจิตอาสา พาบริจาคโลหิต” เป็นโครงการที่แสดงถึงการร่วมแรงร่วมใจและเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของสมาคมนิสิตเก่ารัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อทำความดีถวายเป็นพระราชกุศลและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงมีต่อปวงชนชาวไทยเป็นล้นพ้นอย่างหาที่สุดมิได้ ที่พระองค์ทรงเป็นแบบอย่างของ “ผู้เสียสละ” ประโยชน์สุขส่วนพระองค์ ด้วยการมุมานะเสด็จพระราชดำเนินไปปฏิบัติพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่ในทั่วทุกหัวระแหง ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ผู้ปิดทองหลังพระ จนก่อเกิดความรุ่งเรืองและเป็นปึกแผ่นของชาติไทย เกิดการบำบัดทุกข์ บำรุงสุขทุกพื้นที่ของประเทศไทย เป็นที่ประจักษ์แจ้งแก่ปวงชนชาวไทยและพลเมืองของนานาอารยประเทศตราบจนถึงปัจจุบัน
“การจัดกิจกรรมตาม “โครงการสิงห์ดำ จิตอาสา พาบริจาคโลหิต” ในครั้งนี้ นิสิตปัจจุบัน นิสิตเก่า และผู้บริจาคโลหิตในครั้งนี้ ผู้มีส่วนร่วมต่างได้ร่วมกันทำความดีด้วยการสละโลหิตในร่างกายเพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์อันเป็นการปฏิบัติบูชาเพื่อน้อมถวายเป็นพระราชกุศล ถือเป็นการเสียสละเพื่อส่วนรวมอย่างไม่หวังผลตอบแทนอย่างแท้จริง และเป็นการเสียสละที่ยิ่งใหญ่เพื่อต่อชีวิตให้กับผู้อื่น ประดุจ “สีดำ” สีแห่งความรัก ความเสียสละต่อเพื่อนมนุษย์ อันเป็นสีประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยการบริจาคโลหิตในครั้งนี้ มีผู้ลงทะเบียนบริจาคโลหิต 135 คนโดยมีผู้ที่ร่างกายมีความแข็งแรงผ่านการคัดกรองของบุคลากรทางการแพทย์ว่าสามารถบริจาคโลหิตได้ 92 คนทำให้มีจำนวนโลหิตสำรองประมาณ 40,900 ซีซี ส่งมอบให้กับสภากาชาดไทย เพื่อใช้ช่วยต่อชีวิตให้กับผู้ป่วยที่มีความจำเป็นต้องใช้โลหิตได้ถึงประมาณ 420 คน โดยสภากาชาดไทยจะได้นำโลหิตที่ได้รับบริจาคครั้งนี้ไปใช้หมุนเวียนในคลังโลหิตช่วยต่อชีวิตเพื่อนมนุษย์ในสถานการณ์ต่าง ๆ ต่อไป” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวเพิ่มเติม
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ นายกสมาคมนิสิตเก่ารัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวในช่วงท้ายว่า นอกจากนี้กิจกรรมในวันนี้ ทำให้พี่น้องชาวสิงห์ดำยังได้ร่วมกันทำความดีด้วยการปฏิบัติบูชาอีกประการหนึ่ง ด้วยการปลูกต้นไม้มหามงคล คือ “ต้นราชพฤกษ์” ซึ่งเป็นพันธุ์ไม้เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และเป็นต้นไม้ประจำชาติไทย ที่มีลักษณะเป็นพันธุ์ไม้มงคลที่มีอายุยืน ทนทานปลูกขึ้นได้ดีทั่วทุกภาคของประเทศ และเมื่อถึงฤดูร้อนต้นราชพฤกษ์จะออกดอกสีเหลืองซึ่งเป็นสีประจำวันพระบรมราชสมภพบานสะพรั่งเต็มต้น ช่อดอกเป็นพวงระย้าสีเหลือสวยงามมาก และได้ร่วมกันปลูก “ต้นรวงผึ้ง” พันธุ์ไม้มงคลที่เป็นต้นไม้พระจำพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีดอกสีเหลืองซึ่งเป็นสีประจำวันพระบรมราชสมภพ และผลิดอกช่วงช่วงวันพระบรมราชสมภพ ทั้งนี้ เมื่อพระองค์เสด็จพระราชดำเนินปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ณ สถานที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ก็จะทรงปลูกต้นรวงผึ้งพระราชทานไว้เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ประชาชนและจังหวัดนั้น ๆ นำมาซึ่งความปลื้มปีติยินดีและความร่วมแรงร่วมใจของประชาชนในการดูแลรักษาให้เป็นต้นไม้มหามงคลของคนไทยตลอดไป ซึ่งการปลูกต้นราชพฤกษ์และต้นรวงผึ้งในครั้งนี้ จะได้แตกขยายเป็นร่มเงาที่จะให้ความร่มเย็นแก่ประชาคมนิสิตเก่าและนิสิตปัจจุบันของคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อเป็นต้นไม้แห่งการน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและมุ่งมั่นตั้งใจที่จะได้บำเพ็ญตนให้เป็นคนดีของสังคมไทยเฉกเช่นที่พระองค์ท่านได้ทรงปฏิบัติบำเพ็ญเป็นแบบอย่างให้กับพวกเราทุกคนตลอดไป