“สมศักดิ์” ทุบโต๊ะ
ขันน็อตกรมราชทัณฑ์ อุดช่องโหว่ หลัง”ประสิทธิ์” หลบหนี
จี้ อธิบดี ต้องรู้หน้าที่ตัวเอง สั่ง ประชุมทุกสัปดาห์ ตอบโต้ประเด็นให้เร็ว เผย
ตั้งกรรมการสอบ 30 วัน รอราชทัณฑ์สอบ 4 เดือนไม่ได้ ขณะที่ ปลัดยุติธรรม
กำชับหลังเกิดเหตุรายงานทันที อย่าปล่อยให้รู้ผ่านสื่อ อึ้ง
หนังสือรายงานเพิ่งถึงโต๊ะเมื่อเช้านี้
วันที่ 5 มกราคม 2566 เมื่อเวลา 10.00 น. นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานการมอบนโยบายผู้บริหารกรมราชทัณฑ์ และผู้บริหารงานราชทัณฑ์ทั่วประเทศ โดยมี นางพงษ์สวาท กายอรุณสุทธิ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ผู้บัญชาการเรือนจำ และเจ้าหน้าที่ทั่วประเทศ เข้าร่วม ที่กรมราชทัณฑ์
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า การเดินทางมาวันนี้ เพราะสังคมเกิดคำถามจำนวนมาก เกี่ยวกับการทำหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์ โดยเฉพาะกรณีนายประสิทธิ์ เจียวก๊ก พยายามหลบหนีการดูแลของเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ ขณะอยู่ในศาล ซึ่งทำให้สังคมตั้งข้อสังเกตถึงมาตรการที่หละหลวมจนนายประสิทธิ์ วางแผนหลบหนีได้ โดยเรื่องนี้ เป็นหน้าที่กรมราชทัณฑ์ ที่ต้องดูแลอย่างเข้มงวด และต้องให้ความสนใจในงานของตัวเอง ทั้งเจ้าหน้าที่ ผู้บัญชาการเรือนจำ หรืออธิบดีกรมราชทัณฑ์ ที่ต้องสนใจในหน้าที่ของตัวเองเจ้าหน้าที่ ต้องมีการตรวจเส้นทางการนำผู้ต้องขังออกไปยังศาลอย่างเสมอ เพื่อตรวจสอบดูว่า มีอะไรที่หละหลวมหรือไม่ เพื่อหาแนวทางการป้องกัน ซึ่งไม่ใช่ไม่มีการเดินตรวจเส้นทางเลย จะทำให้เกิดช่องว่าง และมีปัญหาตามมา โดยสิ่งที่ผู้ต้องขังหลบหนี ถือเป็นเรื่องใหญ่ ถึงแม้จะมีการนำตัวกลับมาได้ แต่สังคมก็จะเกิดคำถามทันทีถึงมาตรการดูแล ซึ่งกรมราชทัณฑ์ ต้องรีบขันน็อตทุกตำแหน่ง ในเรือนจำทั่วประเทศ 143 แห่ง
ขณะที่ นางพงษ์สวาท กล่าวว่า
การชี้แจงประเด็นสังคม ต้องเป็นลักษณะอธิบาย ไม่ใช่เหมือนการแก้ตัว
และต้องมีความรวดเร็ว อย่างการตรวจสอบที่ต้องใช้เวลาถึง 120 วัน ตนก็มองว่า
ช้าไปมาก ดังนั้น ต้องรีบลดขั้นตอนการตรวจสอบ เพื่อให้ทันกับความต้องการของสังคม
รวมถึงเมื่อเกิดเหตุ ก็ต้องรีบรายงานผู้บังคับบัญชา เพราะตั้งแต่เกิดเหตุ 22
ธ.ค.65 แต่ตนได้รับรายงานเป็นหนังสือถึงที่โต๊ะทำงานเมื่อเช้านี้ ลงวันที่ 3
ม.ค.66 ซึ่งถือว่า ช้ามาก เพราะเมื่อเกิดเหตุ ต้องรีบรายงานผู้บังคับบัญชา
โดยไม่น่าปล่อยให้เกิดกรณีปลัดกระทรวง ต้องทราบจากสื่อมวลชน ดังนั้น ต่อไปนี้
ไม่ว่าเกิดเหตุอะไร ต้องมีการรายงานเหตุการณ์อย่างเร่งด่วน
เพื่อช่วยกันแก้ปัญหาได้ครอบคลุม