จากกรณีข่าวนักท่องเที่ยวสาวชาวจีนได้ลงทำ Viral
คลิบ การทดลองใช้บริการรถนำขบวนของตำรวจไทย ระหว่างเดินทางไปท่องเที่ยวย่านหาดพัทยา
จังหวัดชลบุรี จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมจนสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ตรวจสอบพบว่ามีตำรวจในราชการ
3 นาย นำรถยนต์ส่วนตัวติดไฟไซเรนและตราสัญลักษณ์ไปให้บริการนักท่องเที่ยวนอกเวลาราชการจริง
จึงถูกต้นสังกัดสั่งโยกย้ายและตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัย
จากการตรวจสอบขั้นตอนการขอใช้และบุคคลที่มีสิทธิใช้รถนำขบวนพบว่า เมื่อวันที่
25 กันยายน 2544 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ได้มีมติเห็นชอบหลักเกณฑ์การใช้รถนำขบวนของตำรวจบุคคลสำคัญหรือนักการเมือง
หรือการใช้รถนำขบวนรับรองแขกต่างประเทศในการเยือนประเทศไทย ตามหนังสือสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีที่มีเนื้อหา
ระบุ ตำแหน่งบุคคลสำคัญที่มีสิทธิใช้รถนำขบวนของตำรวจ เพื่อความปลอดภัยและอำนวยสะดวก
ดังนี้
บุคคลที่มีสิทธิใช้รถนำขบวนเป็นประจำในพื้นที่เขตกรุงเทพมหานครและนอกพื้นที่กรุงเทพมหานคร
1. ประธานองคมนตรี รัฐบุรุษ
2. นายกรัฐมนตรี ประธานรัฐสภา (ประธานสภาผู้แทนราษฎร) รองประธานรัฐสภา
(ประธานวุฒิสภา) ประธานศาลฎีกา ประธานศาลรัฐธรรมนูญ
และประธานศาลปกครองสูสุด
3. สมเด็จพระสังฆราช
5. รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ผู้นำฝ้ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
และประธานกรรมการที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีซึ่งได้รับแต่งตั้งตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบ บริหารราชการแผ่นดินและมีอำนาจหน้าที่ติดตามการปฏิบัติราชการในเขตพื้นที่ต่าง
ๆ
6 ผู้เคยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
นอกจากนี้ยังให้ดุลยพินิจผู้บังคับการตำรวจจราจร หรือ ผู้ได้รับมอบหมาย
และ ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง มีอำนาจพิจารณาอนุญาตให้ใช้รถตำรวจนำขบวนในพื้นที่กรุงเทพมหานครและนอกพื้นที่กรุงเทพมหานครเป็นครั้งไปตามความจำเป็นสำหรับบุคคลสำคัญ
ดังนี้
1.ผู้แทนพระองค์ พระราชอาคันตุกะ
ประมุขของรัฐต่างประเทศ ผู้นำรัฐบาลต่างประเทศ เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ
2.องคมนตรี
3.ผู้นำทางศาสนาอื่น สมเด็จพระราชาคณะ
ส่วนกรณีอื่นๆจะมีสิทธิขอให้มีการนำขบวนได้นั้น
ในเขต กทม. ให้ ผู้บังคับการตำรวจจราจร เป็นผู้มีอำนาจพิจารณาอนุญาต นอกเขต กทม.
ให้ ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง เป็นผู้มีอำนาจพิจารณาอนุญาต
โดยต้องพิจารณาถึงความจำเป็นที่ต้องใช้รถตำรวจนำขบวน เพื่อความปลอดภัยของขบวน
หรือความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนนตามความจำเป็นแก่กรณี เช่น รถนักเรียน
ขบวนรถซึ่งเดินทางไปประกอบศาสนกิจหรือพิธีการต่างๆ
หรือเป็นกรณีมีความจำเป็นเร่งด่วนของบุคคลผู้มีตำแหน่งหน้าที่ต่างๆ ในทางราชการ
เพื่อเดินทางไปปฏิบัติภารกิจสำคัญของทางราชการ เท่านั้น
สำหรับการใช้รถนำขบวนรับรองแขกต่างประเทศนั้นบุคคลที่เป็นแขกต่างประเทศต้องมีตำแหน่งเทียบเท่ากับตำแหน่งของผู้มีสิทธิใช้รถนำขบวน
ทั้งกรณีเป็นการเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการและไม่เป็นทางการ