ใครที่ชอบ.. บิดคอ สะบัดหมุน..คอ ให้รู้สึกผ่อนคลาย หรือไปนวดคลายเส้น นวดกดจุด จับหมุนคอ.. ฟังทางนี้!! แพทย์ด้านสมองกว่า 177 คน ยกเคสผู้ป่วย..เตือน พบจำนวนไม่น้อย ไปคลายเมื่อยแบบนี้แล้ว ต้องเข้าโรงพยาบาล จากเส้นเลือด ที่เป็นเลี้ยงสมอง ตีบ..ตัน ผนังเส้นเลือดฉีกขาด ซึ่งผู้ป่วยรายหนึ่ง ที่หมุนคอเป็นประจำ บอกว่า ขณะที่กำลังรอขึ้นแท็กซี่ ได้เกิดเป็นอัมพาตครึ่งซีก ต้องไปนอน รพ.เป็นเดือน
เช้าวันนี้ (28 ต.ค. 2565) ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์บทความ หมอดื้อ ผ่านเฟซบุ๊ก ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha โดยระบุว่า บิด เอียง สะบัดหมุน ดัดคอ... แล้วก็เสี่ยงอัมพฤกษ์
หมอดื้อ บทความของคอลัมน์ จะเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ โรคภัยไข้เจ็บ นวัตกรรม การศึกษา ที่จะช่วยสร้างความรู้ความเข้าใจ โดยที่การพึ่งตัวเองนั้น เป็นดีที่สุด
สำหรับตอนนี้ จะเป็นเรื่องใกล้ตัว ที่เป็นท่าบริหารประจำ หรือ ที่ทำเวลาเมื่อย หรือ เป็นกระบวนการ ในการนวดคลายเมื่อย ดัดเส้น รวมทั้งเป็นกรรมวิธี ในการบำบัดทางกายภาพ และจัดกระดูก ซึ่งถ้าไม่ระวัง จะเพิ่มความเสี่ยงอันตราย ต่อการที่ผนังเส้นเลือด ที่ไปเลี้ยงสมอง โดยเฉพาะคู่หลัง เกิดการฉีกขาด และทำให้เกิดเนื้อสมองตาย เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาตได้
ความจริงเรื่องเกี่ยวกับ “คอ” เป็นที่สังเกต ระวังกันมานานกว่า 20 ปีแล้ว จากการสำรวจข้อมูล จากหมอทางสมองในสหรัฐฯ ว่า ในช่วงเวลา 2 ปีที่ผ่านมา เคยประสบพบคนไข้ ที่มีอาการอัมพฤกษ์ จากเส้นเลือดสมองตีบ ภายในระยะเวลา 24 ชั่วโมง หลังจากที่คนไข้ ผ่านกรรมวิธีจับ ดัด ปรับกระดูกคอหรือไม่
หมอสมอง 177 คน รายงานว่า เคยเจอผู้ป่วย 55 ราย เข้าข่ายกรณีดังกล่าว ทั้งนี้ โดยที่คนไข้ มีอายุระหว่าง 21 ถึง 60 ปี หลังจากมีการบิดดัดคอ และเป็นผลต่อเส้นเลือดสมอง โดยเฉพาะคู่หลัง เกิดตันตีบ ซึ่งตัวหมอเอง ก็มีคนไข้ ที่หมุนคอเป็นประจำ วันละ 3 เวลา ครั้งละ 30 รอบเป็นปี นัยว่า ทำให้กล้ามเนื้อคอแข็งแรง ฝึกการทรงตัว วันหนึ่งเกิดเรื่อง ขณะยืนข้างถนน หันหน้าจะไปเรียกรถแท็กซี่ ปรากฏเป็นอัมพาตซีกซ้าย อีกสักพักค่อย ๆ ดีขึ้น พอมีแรงลุกขึ้น หันหน้าไปอีกด้าน มีอ่อนแรงซีกขวา ต้องนอนอยู่โรงพยาบาลเป็นเดือน และการตรวจเส้นเลือด ด้วยการฉีดสี ยืนยัน มีผนังเส้นเลือดฉีกขาดจริง และเลือดไหลเซาะ เข้าในผนังเส้นเลือด ทำให้รูเส้นเลือดตัน อีกทั้งยังทำให้ผนังเส้นเลือดขรุขระ เกิดการเกาะของตะกอนเลือด ซึ่งหลุดลอยไปอุดเส้นเลือดได้อีกต่อ
สมองของเรา มีเส้นเลือดไปเลี้ยง 2 คู่ คู่หน้าสามารถคลำได้ตุบ ๆ ที่คอด้านหน้า ซึ่งไปเลี้ยงสมองหน้าผากขมับ 2 ข้าง รวมทั้งสมองส่วนลึกลงไปทางด้านใน เส้นเลือดคู่หลัง ร้อยผ่านกระดูกก้านคอ และเลื้อยผ่านเข้าไป หล่อเลี้ยงสมองท้ายทอย ซึ่งเป็นจอรับภาพ สมองน้อยด้านหลัง คุมการทรงตัว ก้านสมอง ซึ่งควบคุมประสาทสมอง รวมการเคลื่อนไหวลูกตา คุมการรับรู้สึกตัว การเคลื่อนไหวแขนขา การสะบัดคอแรง ๆ การหมุนคอบิด บริหารประจำ อาจทำให้เกิดผลร้าย
อันตรายที่เกิดขึ้น จะแปรตามความรวดเร็ว รุนแรงของการบิดสะบัด เคลื่อนไหวคอ และแม้หมุน สะบัดไม่รวดเร็ว แต่การทำซ้ำกันบ่อย ๆ เป็นระยะเวลานาน ก็เกิดเรื่องได้ ไม่เฉพาะแต่เส้นประสาทที่คอ ยังเกิดกับเส้นเลือด โดยเฉพาะผู้ที่เกิดมาขาดทุน คือ มีเส้นเลือดคู่หลังเพียงเส้นเดียว และในคนที่มีเส้นเลือดตีบอยู่แล้ว จากมีโรคประจำตัว คือ อ้วน, ความดันสูง, ไขมันเพียบ หรือมีกระดูกงอกที่คอ ที่พร้อมที่จะกดเบียดเส้นเลือดอยู่แล้ว หรือ คนที่มีโรคของ ผนังเส้นเลือดผิดปกติแต่กำเนิด (ซึ่งพบได้น้อยมาก)
ข้อควรระวัง และกลไกในการเกิดอัมพฤกษ์ จากการเคลื่อนของ “คอ” อันเป็นผลจากการจับ, ดัด, เอียง, สะบัด มีรายงานเป็นทางการจาก สมาคมโรคหัวใจ และโรคอัมพฤกษ์ จากเส้นเลือดผิดปกติของสหรัฐฯ ซึ่งรายงานข้อสรุป ได้รับการสนับสนุน และรองรับโดย สมาคมศัลยแพทย์ และคองเกรส ทางระบบประสาทของสหรัฐฯ ตีพิมพ์ในวารสาร Stroke ฉบับเดือนตุลาคม 2014 ทั้งนี้ การนวดกดจุด ก็น่าจะต้องระวังเช่นกัน เนื่องจากเส้นเลือดคู่หลัง จะวิ่งเข้าสมอง โดยผ่านรู 2 ข้าง ที่ฐานกะโหลกศีรษะ ซึ่งจากการนวด อาจจะมีวิธี “ปิด - เปิดประตู”
ทั้งนี้ การเปิด - ปิดประตู คือ การกดจุดที่รู 2 ข้าง ซึ่งจะตัดการไหลเวียน ของเลือดเข้าสมองท้ายทอย ซึ่งเป็นจอรับภาพในสมอง ทำให้ตามืดไปชั่วขณะ และเมื่อปล่อยการกดจุด เลือดจะไหลมาดังเดิม ทำให้ตาสว่าง ซึ่งในคนที่เส้นเลือดผิดปกติอยู่แล้ว ตาอาจมืดไปเลยได้ กลายเป็นบอดทั้ง 2 ข้าง
สำหรับคนเมื่อยคอ วิธีแก้เมื่อย รวมทั้งยังสามารถ ทำกายภาพบำบัดด้วยตัวเองได้ คือ คอตรง, หน้าตรง, ดันศีรษะสู้กับฝ่ามือตนเอง 4 ทิศ ซ้าย ขวา หน้า หลัง เท่ากับ 1 รอบ ดันแรง ดันนาน ๆ ทำวันละ 10 - 20 รอบ ตอนไหนก็ได้ ยังช่วยเรื่อง กระดูกกดทับเส้นประสาท, ปรับโครงสร้างกระดูก, เส้นเอ็นให้เข้าที่, ทำให้กล้ามเนื้อคอแข็งแรง ไม่ต้องไปดึงคอที่โรงพยาบาล เสียเวลารถติด ข้อสำคัญ ไม่ต้องกินยาแก้ปวด ซึ่งเป็นการแก้ปลายเหตุ กระเพาะทะลุ, ไตพัง และยาแก้ปวด ยังทำให้เส้นเลือดหัวใจตันได้
ขอบคุณ
รูปจาก วารสาร โรคหลอดเลือดสมอง ครับ
#BackboneMCOT
อ้างอิง และขอบคุณข้อมูล จาก :
เฟซบุ๊ก : ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha
https://www.facebook.com/thiravat.h
28 ต.ค. 2565
3190 views
ขนาดตัวอักษร
อ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ..คิดอย่างไรกับเรื่องนี้ เขียนเลย