X
1 ธ.ค. วันเอดส์โลก สธ. ร่วม UNAIDS รณรงค์ทำให้เท่าเทียม

1 ธ.ค. วันเอดส์โลก สธ. ร่วม UNAIDS รณรงค์ทำให้เท่าเทียม

1 ธ.ค. 2565
550 views
ขนาดตัวอักษร

ถึงเวลาที่น่าห่วง หรือ น่ากังวลมาก !! เมื่อข้อมูลปี 2564 เผย ผู้เสียชีวิตจากเอดส์ ตายมากกว่าโควิดฯแล้ว เฉลี่ยสูงถึง 26 รายต่อวัน และเพียงปีเดียว (2564) มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ เฉลี่ยวันละ 18 คน ซึ่งร้อยละ 97 มาจากมีเพศสัมพันธ์ ที่ไม่ป้องกัน และในวันที่ 1 ธันวาคม ของทุกปี องค์การอนามัยโลก กำหนดเป็น “วันเอดส์โลก” (World AIDS Day) สธ. โดย กรมควบคุมโรค พร้อมขับเคลื่อนสังคมไทย ภายใต้แนวคิด “Equalize : ทำให้เท่าเทียม” เพื่อให้ทุกคน มีสิทธิ์เข้ารับบริการที่เท่าเทียม นำไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดี



เมื่อวานนี้ (30 พ.ย. 2565) นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในวันที่ 1 ธันวาคม ของทุกปี องค์การอนามัยโลก กำหนดเป็น “วันเอดส์โลก” (World AIDS Day) เพื่อสร้างความตระหนัก ถึงความสำคัญของ การป้องกันโรคเอดส์ การยอมรับ และเข้าใจผู้ติดเชื้อเอชไอวีทั่วโลก โดยใช้โบว์แดง เป็นสัญลักษณ์สากล ที่แสดงถึงการตระหนักรู้ การสนับสนุน และความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับ ผู้ติดเชื้อเอชไอวี อีกทั้งยังเป็นการย้ำเตือนว่า เอชไอวี/เอดส์ ยังคงอยู่ และปี 2565 นี้ UNAIDS ชูประเด็นรณรงค์ คือ “Equalize: ทำให้เท่าเทียม”

ประเทศไทย ได้ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์แห่งชาติ ว่าด้วยการยุติปัญหาเอดส์ ปี พ.ศ. 2560 - 2573 มีเป้าหมายหลัก 3 ประการ คือ ไม่ติด ไม่ตาย ไม่ตีตรา โดยมีเป้าหมายลดจำนวน ผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ ไม่ให้เกิน 1,000 คนต่อปี ลดการเสียชีวิตจากเอดส์ ไม่เกิน 4,000 รายต่อปี และลดการตีตรา และการเลือกปฏิบัติ อันเกี่ยวเนื่องจากเอชไอวี และเพศภาวะลง เหลือไม่เกินร้อยละ 10



จากการคาดประมาณ สถานการณ์ เอชไอวี/เอดส์ ประเทศไทยในปี 2564 คาดว่า จะมีผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ ประมาณ 6,500 คน/ปี (เฉลี่ย 18 คน/วัน) ผู้เสียชีวิตเนื่องจากเอดส์ 9,300 ราย/ปี (เฉลี่ย 26 ราย/วัน) และมีผู้ติดเชื้อเอชไอวี ที่ยังมีชีวิตอยู่ ประมาณ 520,000 คน โดยผู้ติดเชื้อรายใหม่ ร้อยละ 97 เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ ที่ไม่ป้องกัน

นอกจากนี้ จากการสำรวจสถานการณ์ เด็ก และสตรี ในประเทศไทย (Multiple Indicator Cluster Survey: MICS) ในปี 2562 พบว่า คนไทยมีทัศนคติ การเลือกปฏิบัติต่อ ผู้ติดเชื้อเอชไอวี ร้อยละ 26.7 ซึ่งยังสูงกว่าเป้าหมาย ยุทธศาสตร์แห่งชาติ ว่าด้วยการยุติปัญหาเอดส์ ปี พ.ศ.2573 ถือเป็นประเด็นสำคัญ ที่ส่งผลต่อการเข้าสู่ ระบบบริการสุขภาพ ทั้งด้านการป้องกัน และการดูแลรักษา

ด้าน นายแพทย์ปรีชา เปรมปรี รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวเพิ่มเติมว่า การขับเคลื่อนสังคมไทย ภายใต้แนวคิด “Equalize : ทำให้เท่าเทียม” ได้มุ่งเน้นการจัดบริการ เพื่อให้ทุกคนมีสิทธิ์ ในการเข้าถึงบริการป้องกัน การตรวจหาการติดเชื้อเอชไอวี และบริการรักษาด้วย ยาต้านไวรัส จนสามารถกดไวรัสได้สำเร็จ โดยการสร้างความตระหนัก และความเข้าใจอย่างถูกต้องว่า “เอดส์เป็นเรื่องปกติ” ดังนั้น ทุกบริการที่เกี่ยวเนื่องกับ เอชไอวี/เอดส์ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าถึง และการใช้ถุงยางอนามัย ในการป้องกัน การกล้าที่จะตรวจหา การติดเชื้อเอชไอวี รวมไปถึงการเข้ารับบริการดูแลรักษา เป็นสิ่งที่ทุกคน สามารถเข้าถึงได้ง่าย อย่างเท่าเทียม นำไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดี และสามารถอยู่ร่วมกันในสังคม และดำเนินชีวิตได้ตามปกติ



ทั้งนี้ การทำให้เกิดความเท่าเทียม ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ เอชไอวี/เอดส์ นั้น ต้องอาศัยความร่วมมือ จากหลายภาคส่วน ทั้งผู้รับบริการ ผู้จัดบริการ ภาคีเครือข่ายภาครัฐ เอกชน และภาคประชาสังคม รวมไปถึงความร่วมมือ จากองค์กรทุกระดับ ชุมชน สังคม และนโยบายระดับประเทศ อันจะส่งผลให้ผู้ติดเชื้อเอชไอวี สามารถเข้าถึงบริการด้านสุขภาพ และได้รับบริการที่ทั่วถึง เท่าเทียม ครอบคลุม และเหมาะสม นำไปสู่ความเท่าเทียม เพื่อมุ่งสู่การยุติปัญหาเอดส์ ของประเทศไทย ภายในปี 2573 ต่อไป สำหรับประชาชน ที่สนใจข้อมูลเพิ่มเติม สามารถดาวน์โหลดข้อมูล และสื่อต้นแบบได้ที่ เว็บไซต์กรมควบคุมโรค https://ddc.moph.go.th/das และขอเชิญร่วมกิจกรรมวันเอดส์โลก ได้ทาง Facebook : Safe SEX Story เล่าเรื่องเอดส์ และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์, กองโรคเอดส์ และ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ พร้อมบริการปรึกษาปัญหาได้ที่ สายด่วน กรมควบคุมโรค 1422



นอกจากนี้ Backbone MCOT มีข้อมูลที่ขอร่วม ย้ำ !! ซึ่ง กรมควบคุมโรค เผยว่า ใช้ถุงยางอนามัยเป็นเรื่องปกติ พร้อมส่งเสริมการใช้ถุงยางอนามัย **ทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์** กับทุกคน ทุกช่องทาง ให้การพก หรือการใช้ถุงยางอนามัย เป็นเรื่องปกติ

และ ถุงยางอนามัย เป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน ในการป้องกัน ทุกคนควรได้รับอย่างเท่าเทียม โดยประชาชน สามารถรับถุงยางอนามัย ได้ที่ สถานพยาบาลของรัฐ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย 5 จุด รับถุงยางอนามัย.. ฟรี

1. หน่วยบริการสาธารณสุข
2. โรงพยาบาลของรัฐทั่วประเทศ
3. โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.)
4. โรงเรียน (บางแห่ง)

5. องค์กรภาคประชาสังคม เช่น ฟ้าสีรุ่ง, Swing, Pink Monkey เป็นต้น

อ่านข้อมูลเพิ่มเติม คลิกที่นี่ > (“Equalize: ทำให้เท่าเทียม” มุ่งสู่การยุติเอดส์)


#BackboneMCOT
อ้างอิง และขอบคุณข้อมูล จาก :

เว็บไซต์ : สำนักสารนิเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
https://pr.moph.go.th

เว็บไซต์ : กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
https://ddc.moph.go.th

เฟซบุ๊ก : กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
https://www.facebook.com/100068069971811

เว็บไซต์ : UNAIDS (โครงการโรคเอดส์แห่งสหประชาชาติ)
https://www.unaids.org/en



อ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ..คิดอย่างไรกับเรื่องนี้ เขียนเลย
Terms of Service © 2025 MCOT.net All rights reserved นโยบายข้อมูลส่วนบุคคล นโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยเว็บไซต์ นโยบายเว็บไซต์ของ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)