18 พ.ค.66 - เครือข่ายงดเหล้า ชมสปิริต “ณธีภัสร์” ส.ส.ก้าวไกล เมาแล้วขับ ยอมรับผิด ลากออกสร้างบรรทัดฐานการเมือง พร้อมชง “ก้าวไกล” แก้ปัญหาเมาแล้วขับ ย้ำไม่เห็นด้วยนโยบายขายเหล้า 24 ชม.
•
หลังเกิดกรณี น.ส.ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกลจำเลย ได้แถลงขอโทษประชาชนแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกจาก จากตำแหน่ง ส.ส.พรรคก้าวไกล เนื่องจากเมาแล้วขับ วัดปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายได้ 66 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด และยินดีเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมายทุกอย่าง โดยได้รับโทษจำคุก 2 เดือนและปรับ 4,000 บาท ซึ่งโทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี และให้คุมประพฤติและไปรายงานตัวทุก 4 เดือน ภายในเวลา 1 ปี กับให้ทำกิจกรรมบริการสังคมหรือสาธารณะประโยชน์ ตามที่พนักงานคุมประพฤติและจำเลยเห็นสมควร เป็นเวลา 12 ชั่วโมงด้วยรวมทั้งให้พักใช้ใบอนุญาตขับขี่รถเป็นเวลา 6 เดือน
นายชูวิทย์ จันทรส ผู้ประสานงานเครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์ (ครปอ.) กล่าวว่าในเรื่องนี้ต้องขอชื่นชมสปิริตของ น.ส.ณธีร์ภัส อดีต ส.ส. พรรคก้าวไกล ถือเป็นการสร้างบรรทัดฐานที่ถูกต้องในทางการเมืองและเป็นแบบอย่างที่ดีที่ไม่พยายามใช้ตำแหน่งเพื่อวิ่งเต้นให้พ้นผิด ต่างจากนักการเมืองหรือข้าราชการประจำที่มีตำแหน่งสูงที่มักใช้เส้นสายในการเป่าคดีตามที่ปรากฏเป็นข่าวอยู่บ่อย ๆ แต่ไม่ค่อยได้เห็นนักการเมืองหรือข้าราชการไทยก้มหัวขอโทษประชาชน และลาออกแสดงความรับผิดชอบเช่นนี้
•
ทั้งนี้จากการกระทำผิดดังกล่าวทำให้ น.ส.ณธีร์ภัสได้รับโทษตามกฎหมายเสมอเหมือนกับบุคคลทั่วไปทุกประการอย่างไรก็ตามการประกาศลาออกถือเป็นการสร้างบรรทัดฐานที่สูง และจะเป็นบทเรียนให้นักการเมืองทุกพรรคการเมืองต้องเข้มงวดตัวเอง ไม่กระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย การเป็นบุคคลสาธารณะต้องเป็นแบบอย่างและพึงระวังให้มาก
ด้าน นายธีระ วัชรปราณี ผู้จัดการเครือข่ายองค์กรงดเหล้า กล่าวว่า จากข้อมูลปัจจุบันคนไทยเสียชีวิตบนถนนปีละกว่า17,000 คน คิดเป็น 25.9 ต่อแสนประชากร สูงกว่าอัตราเฉลี่ยของโลกที่กำหนดที่ 16.7 ต่อแสนประชากร และส่วนมากมีสาเหตุจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้วขับรถ ทั้งนี้ผลสำรวจปี 2564 ในกลุ่มผู้ดื่มแอลกอฮอล์ และเป็นผู้ขับขี่รถยนต์ พบว่า มีพฤติกรรมดื่มแล้วขับเป็นประจำ 6.5 % ทำเป็นบางครั้ง 43.3 % และ จากรายงานการตรวจวัดแอลกอฮอล์ในกลุ่มผู้ขับขี่ ในการตั้งด่านปี 2561 – 2564 พบว่า 59 % พบปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกินที่กฎหมายกำหนด
•
“ปัญหาความไม่ปลอดภัยบนถนน มีปัจจัยหลักมาจากขาดความมุ่งมั่นทางการเมืองที่จะแก้ปัญหานี้ เพราะงานจราจรกลายเป็นงานรอง ไม่ใช่งานหลักของตำรวจ ไม่มีการสนับสนุนอุปกรณ์ที่เพียงพอ ระบบการเชื่อมต่อข้อมูลระหว่างหน่วยงานไม่เชื่อมทำให้ไม่สามารถตรวจพบความผิดซ้ำซาก ไม่นำเทคโนโลยีมาแก้ปัญหา ซึ่งจากการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ไม่มีพรรคการเมืองไหนที่จะกำหนดนโยบายในการแก้ปัญหาอุบัติเหตุทางถนนเลย”
•
ทั้งนี้ เครือข่ายมีข้อเสนอไปยังพรรคการเมือง โดยเฉพาะพรรคก้าวไกล ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากเหตุการณ์ดังกล่าว ขณะเดียวกันก็มีนโยบายสุราก้าวหน้า จึงจำเป็นต้องมีแผนการลดผลกระทบหากมีการเปิดให้ผลิตกันเสรี ดังนี้
1.เร่งปฏิรูปตำรวจ ลดช่องทางในการรับส่วย เป่าคดี และทำให้ตำรวจจราจรทำงานได้อย่างเต็มที่ด้วยการสนับสนุนเครื่องตรวจปริมาณแอลกอฮอล์อย่างเพียงพอ และกำหนดเป้าหมายในการทำงาน ตั้งด่านตรวจเข้มงวด จริงจังโดยเฉพาะใกล้สถานบันเทิง และบริเวณกิจกรรมทางการตลาดของธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อตรวจจับคนดื่มแล้วขับ และผลสำเร็จในการลดอุบัติเหตุ
2.ดำเนินคดีตามขั้นตอน โดยสามารถบังคับตรวจ รวบรวมพยานหลักฐานนำส่งศาลอย่างตรงไปตรงมา ไม่ถูกแทรกแซง ใช้เงินเพื่อให้มีการลดโทษ และขอให้ศาลกำหนดโทษขั้นต่ำโดยไม่มีการรอลงอาญา
3.ผลักดันให้มีศาลจราจร
4.แก้กฎหมายภาษีสรรพสามิต แยกใบอนุญาตจำหน่ายเป็นร้านขายส่ง ขายปลีก และร้านนั่งดื่ม โดยผู้ประกอบการต้องมีใบอนุญาต ต้องไม่ขายแอลกอฮอล์ให้ลูกค้าที่เมาครองสติไม่ได้ และมีส่วนร่วมรับผิดกรณีที่เกิดอุบัติเหตุบนถนนส่งผลกระทบต่อคนอื่น และให้ผู้ประกอบธุรกิจผลิต จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกภาคส่วนร่วมกันจัดตั้งกองทุนช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบที่ธุรกิจแอลกอฮอล์
5.ทบทวน ยุตินโยบายให้ขายสุราได้ 24 ชั่วโมงเพราะจะยิ่งสร้างปัญหา