นายคมสันต์ ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า การขยายบริการของแฟลชสู่ สปป.ลาว ในครั้งนี้ถือเป็นความภาคภูมิใจของสตาร์ทอัพไทยที่สามารถขยายธุรกิจขนส่งแบบครบวงจรก้าวสู่ตลาด CLMV โดยมีผู้ร่วมทุนเชิงกลยุทธ์ที่แข็งแกร่งอย่างAIF Group Laos จับมือกันทำบริการขนส่งครบวงจรทั้งทางบก และทางอากาศ ทั้งนี้จากการที่บริษัทฯ ได้ศึกษาภาพรวมเศรษฐกิจ และสังคมของตลาดในกลุ่มประเทศ CLMV มาพอสมควรทำให้แฟลชเล็งเห็นโอกาสในการทำบริการขนส่งแบบครบวงจรที่จะให้บริการครอบคลุมไปยังประเทศเพื่อนบ้านของไทย เพราะกลุ่มประเทศเหล่านี้มีอัตราการเติบโตในด้านเศรษฐกิจ อีกทั้งมีความพร้อมในเรื่องแรงงาน และทรัพยากร ยิ่งไปกว่านั้นภาครัฐยังได้พัฒนาโครงการเชื่อมโยงระบบคมนาคมระหว่างไทย และประเทศเพื่อนบ้านมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งน่าจะเป็นโอกาส และทิศทางที่สำหรับธุรกิจขนส่ง
“จากโมเดลธุรกิจที่สร้างความสำเร็จให้ แฟลช เอ็กซ์เพรส ในประเทศไทย ผนวกกับเทคโนโลยีที่เราได้พัฒนามาตลอด 3 ปีเราจึงพร้อมเปิดบริการ “แฟลช ลาว” ขนส่งแบบครบวงจรทั้งทางบก และทางอากาศด้วยคอนเซปต์แบบเดียวกันกับในประเทศไทย คือ การเป็นผู้ให้บริการขนส่งด่วนรายแรกและรายเดียวใน สปป.ลาว ที่ชูนโยบายเข้ารับพัสดุฟรีถึงที่ตั้งแต่ชิ้นแรก เปิดให้บริการ 365 วัน พร้อมยังส่งมอบความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้าด้วยการจองบริการผ่าน Flash Express Application ที่ทำได้ตั้งแต่การบุ๊คกิ้งเพื่อเรียกพนักงานเข้ารับพัสดุ ตลอดจนการติดตามพัสดุ และตรวจสอบราคาค่าขนส่งด้วยตนเอง
ในส่วนของความร่วมมือระหว่าง แฟลช เอ็กซ์เพรส และ AIF Group Laos จะแบ่งออกเป็น 2 เฟสใหญ่ๆ โดยในเฟสแรก“แฟลช ลาว” จะให้บริการส่งพัสดุจากประเทศไทยไปยังเมืองเวียงจันทน์ ส่วนในเฟส 2 ซึ่งนับเป็นความร่วมมือที่สำคัญ คือการขยายการให้บริการที่ครอบคลุมทั่วทั้งสปป.ลาว ไปจนถึงการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนระหว่างประเทศทั้งไทย-ลาว, ลาว-ไทย เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าในกลุ่ม B2B, B2C และ C2C โดยในเฟส 2 จะเปิดให้บริการได้ภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ นอกจากนี้เรายังเปิดรับพาร์ทเนอร์ท้องถิ่นมาร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับแฟลช ลาว ด้วยคอนเซปต์การเปิดบ้านให้เป็นจุดรับพัสดุ เพื่อเป็นการสร้างโอกาส สร้างอาชีพ ตลอดจนรายได้ที่มั่นคงให้แก่พี่น้องในสปป. ลาว อีกด้วย ” นายคมสันต์ กล่าว