X
เปิดวิธีป้องกันปัญหาลูกแอบเติมเกม

เปิดวิธีป้องกันปัญหาลูกแอบเติมเกม

3 ส.ค. 2565
2350 views
ขนาดตัวอักษร

จากกรณีมีข่าวเด็กวัย 10 ปี โกหกพ่อโดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอก จนสูญเงิน 1.2 ล้านบาท ที่แท้นำเงินไปเติมเกม โดยใช้อุปกรณ์ Tablet และโทรศัพท์มือถือของพ่อที่มอบไว้ให้เรียนออนไลน์ ทาง Backbone MCOT เลยขอมาแนะนำวิธีต่างๆ ที่จะใช้ป้องกันปัญหาที่คล้ายกันนี้ ก่อนเงินจะถูกดูดไปจากบัญชี หรือเกิดปัญหาบิลช็อก


กองบังคับการกองปราบปราม ได้แนะนำวิธีป้องกันกรณีถูกบุคคลอื่น หรือลูก นำบัตรเครดิตหรือบัญชีเราไปใช้โดยไม่ใช่ความตั้งของเจ้าของบัตรหรือบัญชี


1.อย่าปล่อยให้บัตรคลาดสายตา ควรสังเกตบัตรของตนเองอยู่เสมอเวลายื่นให้บุคคลอื่นตอนจ่ายเงิน 


2. ตั้งรหัสให้เดายาก  และเราควรเปลี่ยนทุก 3 เดือนด้วย ต้องเก็บรหัสไว้ให้เป็นความลับ ไม่จดรหัสไว้หลังบัตรหรือช่องใส่บัตร รวมถึงห้ามบอกคนอื่นโดยเด็ดขาด 


3. ใช้บัตรกับร้านค้าที่น่าเชื่อถือเท่านั้น  โดยเฉพาะถ้าเป็นการซื้อของออนไลน์ยิ่งควรเลือกร้านที่น่าเชื่อถือไว้ใจได้เท่านั้น หรือเป็นร้านที่มีหน้าร้านชัดเจนก็จะปลอดภัยมากกว่า  


4. เปิดใช้งานแจ้งเตือนผ่าน SMS เพื่อให้เรารู้ถึงความเคลื่อนไหวเมื่อมีการใช้บัตร และควรจะตั้งค่าไว้ต่ำสุดเลย เพื่อจับตาดูการใช้งานที่อาจจะใช้การตัดเงินหลักสิบหลักร้อย ซึ่งจะสะท้อนจำนวนครั้งที่มากผิกปกติจากการซื้อไอเทมในเกมหรือเติมเงิน


5. ตรวจสอบยอดใช้จ่ายอยู่เสมอ ผ่าน Application ว่าตรงกับราคาสินค้าที่เราจ่ายไปจริง ๆ ไหม 


6. ปิดรหัสเลข 3 หลัก CVV ไว้  ซึ่งเป็นรหัสเพื่อการยืนยันตัวตนในการชำระเงินออนไลน์ เพราะหากบุคคลอื่นได้รหัสนี้ไป ก็มีโอกาสที่จะนำไปซื้อสินค้าได้ง่ายๆ 


7. ใช้กระเป๋าป้องกัน RFID  เพราะบัตรเดบิต-บัตรเครดิตประเภท Visa Paywave มีโอกาสที่เหล่ามิจฉาชีพจะนำเครื่องที่ชื่อว่า RFID Scanners แอบมาแตะบัตรของเราเพื่อขโมยข้อมูลไปอย่างง่ายดาย


8. หากพบมียอดใช้จ่ายที่ผิดปกติ ให้ติดต่อธนาคารทันที หากบัตรของเราสูญหาย จากนั้นควรรีบไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ 


9 . สมัคร Verified by Visa, MasterCard Secure Code หรือ JCB J/Secure เพิ่มความปลอดภัยในการชำระค่าสินค้าด้วยบัตรเครดิต โดยจะให้เราใช้งานบัตร ด้วยรหัสผ่าน (Password) และข้อความยืนยันส่วนตัว (Personal Assurance Message: PAM) เท่านั้น 


10. อย่าบอกข้อมูลบัตรกับคนอื่น  ซึ่งรวมถึงการกรอกข้อมูลต่าง ๆ บนเว็บไซต์ หากลูกต้องการทำรายการผ่านบัตรเครดิต คุณพ่อคุณแม่ควรเป็นคนที่ทำให้ เพราะหากลูกแอบบัตรเครดิตไปใช้โดนพ่อแม่ไม่รู้ตัวกรณีนี้อยู่นอกเหนือการให้ความช่วยเหลือของกระทรวงยุติธรรม เพราะคุณพ่อคุณแม่เป็นผู้อนุญาตให้เด็กใช้โทรศัพท์

 

11. วิธีป้องกันปัญหาเด็กกดซื้อ In-app purchase หรือ การผูกบัตรเครดิตหรือผูกข้อมูลการจ่ายเงินไว้กับบัญชีที่ล็อกอินไว้ในเครื่องนั้น โดยไม่ตั้งใจ


ในระบบปฏิบัติการ iOS มีฟังก์ชันจำกัดสิทธิ์การใช้งาน (Restriction) ซึ่งผู้ปกครองสามารถกำหนดได้ว่าให้ลูกสามารถเปิดใช้งานแอปพลิเคชันอะไรได้บ้าง รวมถึงตั้งรหัสผ่านสำหรับใช้ในการซื้อสินค้าจาก Store ได้ด้วย (เป็นรหัสคนละตัวกับรหัสที่ใช้ใน Apple ID) โดยวิธีการเปิดใช้งานสามารถทำได้โดยไปที่แอปพลิเคชันการตั้งค่า และทำตามวิธีที่อธิบายไว้ในเว็บไซต์ของ Apple คลิก ► https://support.apple.com/th-th/HT201304


สำหรับระบบปฏิบัติการ Android สามารถตั้งค่าที่แอป Play Store ได้ว่าต้องการให้ใส่รหัสผ่าน Google Account ทุกครั้งที่มีการสั่งซื้อสินค้าจาก Play Store หรือไม่ โดยสามารถเปิดดูวิธีการตั้งค่าได้จากเว็บไซต์ของ Google คลิก►https://support.google.com/googleplay/answer/1626831?hl=th


หากตั้งค่าให้ซื้อสินค้าผ่านบัตรเครดิต ควรตรวจสอบข้อมูลการซื้อสินค้าอย่างสม่ำเสมอ หากพบว่ามีรายการสั่งซื้อสินค้าที่ผิดปกติ ควรรีบแจ้งทางธนาคารและเจ้าของ Store ทันที หรือหากใช้บริการ Carrier Billing ก็ควรใช้บริการโทรศัพท์แบบเติมเงิน เพื่อที่จะสามารถควบคุมปริมาณเงินที่จะใช้ซื้อบริการแบบออนไลน์ได้


ที่มาข้อมูล : สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ , กองบังคับการกองปราบปราม


Terms of Service © 2025 MCOT.net All rights reserved นโยบายข้อมูลส่วนบุคคล นโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยเว็บไซต์ นโยบายเว็บไซต์ของ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)