ศาลเจ้าโจวซือกง หรือที่คนในพื้นที่นิยมเรียกว่า "ศาลเจ้าโจวซือกง ตลาดน้อย" เป็นหนึ่งในศาลเจ้าจีนที่เก่าแก่และสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร ตั้งอยู่บริเวณซอยเจริญกรุง 22 ย่านตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ ศาลเจ้าแห่งนี้ไม่เพียงเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวจีนและไทยเชื้อสายจีนในพื้นที่เท่านั้น แต่ยังเป็นเสมือนประตูย้อนอดีตที่บอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม และวิถีชีวิตของผู้คนในย่านนี้มาอย่างยาวนาน
ประวัติความเป็นมาอันยาวนาน
ศาลเจ้าโจวซือกงสร้างขึ้นเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2341 (ค.ศ. 1798) ในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (รัชกาลที่ 1) โดยชาวจีนฮกเกี้ยนที่อพยพเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารในประเทศไทย ชื่อ "โจวซือกง" หรือ "พระหมอ" เป็นเทพเจ้าที่ชาวจีนให้ความเคารพนับถือในด้านการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ เชื่อกันว่าเป็นพระภิกษุผู้มีวิชาอาคมและเมตตาธรรมสูงส่ง มีคุณูปการมากมายต่อมวลมนุษย์ ศาลเจ้าแห่งนี้จึงเป็นที่พึ่งทางใจของผู้คนมาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่เจ็บป่วยหรือต้องการขอพรเรื่องสุขภาพ
สถาปัตยกรรมของศาลเจ้าเป็นแบบจีนตอนใต้ผสมผสานกับศิลปะไทย มีการแกะสลักลวดลายไม้และปูนปั้นที่วิจิตรบรรจง สะท้อนให้เห็นถึงฝีมือช่างชั้นครูในอดีต ภายในประดิษฐานองค์เทพเจ้าโจวซือกงเป็นองค์ประธาน พร้อมด้วยเทพเจ้าองค์อื่นๆ ที่ชาวจีนให้ความเคารพ อาทิ เทพเจ้ากวนอู เจ้าแม่กวนอิม และเทพเจ้าแห่งโชคลาภ
เทคนิคการไหว้ขอพรให้เป็นสิริมงคล
การมาสักการะศาลเจ้าโจวซือกง ผู้คนส่วนใหญ่นิยมมาขอพรเรื่องสุขภาพ การงาน โชคลาภ และความสำเร็จในชีวิต โดยมีขั้นตอนการไหว้ขอพรที่นิยมดังนี้:
- เตรียมธูป เทียน และเครื่องบูชา: ทางศาลเจ้ามีจัดเตรียมไว้ให้ หรือสามารถเตรียมมาเองได้ตามศรัทธา โดยทั่วไปนิยมใช้ธูป 3 ดอก หรือ 9 ดอก และเทียน 1 คู่
- สักการะเทพเจ้าฟ้าดิน (ทีกง): เริ่มต้นด้วยการไหว้ทีกง ซึ่งเป็นเทพเจ้าสูงสุดของชาวจีน เพื่อขออนุญาตและบอกกล่าวการมาถึง
- สักการะองค์ประธาน (โจวซือกง): จุดธูปเทียน ตั้งจิตอธิษฐานขอพรจากองค์โจวซือกง บอกชื่อ-นามสกุล วันเดือนปีเกิด และสิ่งที่ต้องการขอพรอย่างชัดเจน
- สักการะเทพเจ้าองค์อื่นๆ: เดินเวียนไปสักการะเทพเจ้าองค์อื่นๆ ภายในศาลเจ้าตามลำดับ เพื่อขอพรในด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
- เสี่ยงเซียมซี (ถ้าต้องการ): หากมีเรื่องที่ต้องการคำแนะนำหรือต้องการทราบโชคชะตา สามารถเสี่ยงเซียมซีเพื่อดูคำทำนายได้
เคล็ดลับ: หากต้องการขอพรเรื่องสุขภาพเป็นพิเศษ แนะนำให้เตรียมยาหรือสมุนไพรมาวางไว้หน้าองค์โจวซือกงขณะขอพร เพื่อความเป็นสิริมงคล
การเดินทางมาศาลเจ้าโจวซือกง
ศาลเจ้าโจวซือกงตั้งอยู่ในทำเลที่สะดวกต่อการเดินทางหลายรูปแบบ:
- รถไฟฟ้า MRT: สถานีที่ใกล้ที่สุดคือ สถานีสามยอด จากนั้นสามารถเดินต่อมายังศาลเจ้าได้ไม่ไกล หรือต่อรถจักรยานยนต์รับจ้าง
- รถประจำทาง: มีรถประจำทางหลายสายที่ผ่านถนนเจริญกรุง เช่น สาย 1, 35, 93, 107, 113, 115, 178, 507, 514, 530, 542, 547 ลงป้ายใกล้ซอยเจริญกรุง 22
- เรือด่วนเจ้าพระยา: ลงท่าเรือสี่พระยา หรือท่าเรือกรมเจ้าท่า แล้วเดินต่อ หรือต่อรถสาธารณะเข้ามายังย่านตลาดน้อย
- รถยนต์ส่วนตัว: มีที่จอดรถบริเวณใกล้เคียง แต่ค่อนข้างจำกัด แนะนำให้ใช้บริการขนส่งสาธารณะจะสะดวกกว่า
วิถีชีวิตและสถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาดในย่านตลาดน้อย
ย่านตลาดน้อยเป็นย่านเก่าแก่ที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว เต็มไปด้วยกลิ่นอายของวัฒนธรรมจีน วิถีชีวิตดั้งเดิม และงานศิลปะร่วมสมัย การมาเยือนศาลเจ้าโจวซือกงจึงควรเผื่อเวลาเดินสำรวจย่านนี้ด้วย:
- ตรอกโรงภาษีเก่า: ตรอกเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยงานศิลปะกราฟฟิตี้และสตรีทอาร์ตสวยๆ เป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยม
- บ้านโซวเฮงไถ่: คฤหาสน์โบราณของคหบดีจีนที่มีอายุกว่า 200 ปี ปัจจุบันเปิดเป็นคาเฟ่และโฮสเทล บรรยากาศเงียบสงบสวยงาม
- โบสถ์กาลหว่าร์ (วัดแม่พระลูกประคำ): โบสถ์คริสต์นิกายโรมันคาทอลิกเก่าแก่ สถาปัตยกรรมงดงามโดดเด่น
- กำแพงกราฟฟิตี้: ตลอดสองข้างทางในซอยเจริญกรุง 22 และซอยต่างๆ ในย่านตลาดน้อย จะพบกับงานสตรีทอาร์ตเท่ๆ ที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ
- ร้านอาหารและคาเฟ่: ตลาดน้อยมีร้านอาหารจีนโบราณอร่อยๆ และคาเฟ่เก๋ๆ ซ่อนตัวอยู่มากมาย ลองแวะชิมอาหารท้องถิ่นหรือจิบกาแฟในบรรยากาศย้อนยุค
- ร้านค้าเก่าแก่: เดินสำรวจร้านค้าที่ยังคงดำเนินกิจการมาตั้งแต่สมัยอดีต ไม่ว่าจะเป็นร้านอะไหล่ยนต์ ร้านซ่อมเครื่องจักร หรือร้านขายของชำโบราณ ซึ่งสะท้อนวิถีชีวิตดั้งเดิมของย่านนี้ได้เป็นอย่างดี
การมาเยือนศาลเจ้าโจวซือกง ตลาดน้อย จึงไม่ใช่แค่การมาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น แต่ยังเป็นการเดินทางเข้าสู่โลกอีกใบที่ผสมผสานความศรัทธา ประวัติศาสตร์ และศิลปะเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว เป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจไม่ว่าจะมาเดี่ยว คู่ หรือมากับครอบครัว