X
จับเภสัชฯ เก๊ ย่านสายไหม !! ขายยาปลอม ยาผสมเสพติดขายวัยรุ่น

จับเภสัชฯ เก๊ ย่านสายไหม !! ขายยาปลอม ยาผสมเสพติดขายวัยรุ่น

22 ก.ย. 2565
1870 views
ขนาดตัวอักษร

แถลงบุกยึดของกลาง ยาปลอม ยาอันตราย มูลค่ากว่า 2,000,000 บาท พร้อมจับกุมเภสัชกรเก๊ ไร้ใบประกอบวิชาชีพฯ แต่เปิดร้านขายยา ตร.สอบสวนกลาง พร้อม อย. เผยรับแจ้งเบาะแสจาก สื่อสังคมออนไลน์ โดยเป็นร้านที่กลุ่มวัยรุ่นรู้จักดี และกำลังสืบสวนสอบสวน ขยายผลผู้อยู่เบื้องหลัง เจ้าของยาผิดกฎหมายดังกล่าว



วันที่ 21 กันยายน 2565 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ., พ.ต.อ. ธรากร เลิศพรเจริญ, พ.ต.อ.สำเริง อำพรรทอง, พ.ต.อ.ณัฐวัฒน์ เกศะรักษ์, พ.ต.อ.สมเกียรติ ตันติกนกพร รอง ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.4 บก.ปคบ., สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา โดย นพ. ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการ คณะกรรมการอาหารและยา, ภก. วีระชัย นลวชัย รองเลขาธิการ คณะกรรมการอาหารและยา ร่วมกันแถลงผลงานจับกุม น.ส.ปทุมพร (สงวนนามสกุล) อ้างตัวเป็นเภสัชกร ขายยาแก้ไอให้กลุ่มวัยรุ่น ตรวจยึดของกลางมูลค่ากว่า 2,000,000 บาท

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปราม การกระทำความผิดเกี่ยวกับ การคุ้มครองผู้บริโภค (กก.4 บก.ปคบ.) ได้รับแจ้งเบาะแสจาก สื่อสังคมออนไลน์ว่า มีการแพร่ระบาดของยาเสพติดชนิด 4x100 อย่างรุนแรงในกลุ่มวัยรุ่น โดยมีการนำ ยาแก้แพ้, ยาแก้ไอ ชนิดน้ำเชื่อม หรือยาบางชนิด มาใช้ผิดวัตถุประสงค์ โดยนำมาผสมกับ น้ำกระท่อมดื่ม เพื่อความมึนเมา และเสพติดเป็นจำนวนมาก จึงทำการสืบสวนพบว่า มีการขายยาแก้แพ้ หรือ ยาแก้ไอชนิดน้ำเชื่อม ยี่ห้อ ดาทิสซิน (DATISSIN SYRUP) หรือ “ยาฝาแดง” และยาแก้แพ้ ยี่ห้อ “อเลอร์ยิน” (ALLERGIN SYRUP) หรือที่เรียกในกลุ่มวันรุ่นว่า “ยาฉลากฟ้า” ซึ่งเป็นยาที่มีส่วนผสมของตัวยา chlorpheniramine maleate ซึ่งต้องจำหน่ายโดยเภสัชกร ที่ร้านยาต้นฝน ถ.สายไหม แขวงสายไหม เขตสายไหม กรุงเทพฯ และมีการจัดโปรโมชั่น การขายยาดังกล่าว ในลักษณะ 10 แถม 1 เพื่อกระตุ้นการขาย โดยผู้ขายไม่ได้รับอนุญาต ให้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม

ต่อมา วันที่ 15 กันยายน 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. ได้ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เข้าตรวจสอบร้านขายยา และสถานที่จัดเก็บยา ซึ่งดัดแปลงจากร้านขายยาเก่า ที่ถูกระงับใบอนุญาตไปแล้ว จำนวน 2 จุด ดังนี้

1. ร้านยาต้นฝน เลขที่ 123/10 ถ.สายไหม แขวงสายไหม เขตสายไหม กรุงเทพฯ จับกุม น.ส.ปทุมพร (สงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นผู้ขายยา ที่ไม่ใช่เภสัชกร และพบของกลาง ที่เข้าข่ายเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. ยา พ.ศ. 2510 จำนวน 4 รายการ ดังนี้

1. ยายี่ห้อแพคมาดอล PACMADOL ซึ่งมีสถานะยกเลิกทะเบียนตำรับยา (ยาปลอม) จำนวน 2,000 เม็ด

2. ยาแคปซูลสีเขียว-เหลือง (แบ่งบรรจุซองละ 10 เม็ด จำนวน 200 ซอง) จำนวน 2,000 เม็ด

3. ยาแก้ไอชนิดน้ำเชื่อมยี่ห้อดาทิสซิน (DATISSIN SYRUP) (ฝาแดง) ชนิดน้ำเชื่อม จำนวน 270 ขวด

4. ยาแก้แพ้ ยี่ห้อ อเลอร์ยิ่น (ALLERGIN SYRUP) จำนวน 185 ขวด


2. บ้านเลขที่ 123/13 ถ.สายไหม แขวงสายไหม เขตสายไหม กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นร้านขายยาเก่า ที่ถูกพักใช้ใบอนุญาตขายยาไปแล้ว ใช้จัดเก็บยา โดยไม่ได้รับอนุญาต พบของกลางที่เข้าข่ายเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ยา พ.ศ. 2510 จำนวน 3 รายการ ดังนี้

1. ยายี่ห้อแพคมาดอล PACMADOL ซึ่งมีสถานะยกเลิกทะเบียนตำรับยา (ยาปลอม) จำนวน 2,000 เม็ด

2. ยาแก้แพ้แก้ไอ มีทะเบียน รวม 26 ยี่ห้อ จำนวน 19,592 ขวด

3. ยาทรามาดอล มีทะเบียน จำนวน 164,550 แคปซูล



จากการตรวจสอบ พบว่า สถานที่ที่ใช้จัดเก็บยา เคยเป็นร้านขายยา ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ อย. ตรวจสอบ และพักใช้ใบอนุญาต เนื่องจากได้รับการร้องเรียน เกี่ยวกับการขายยาแก้ไอ ที่ผิดกฎหมาย 2 ครั้ง เมื่อปี 2561 และ 2563 โดยใช้วิธีการเปลี่ยนชื่อ และ ขออนุญาตเปิดร้านขายยาใหม่ กระทั่งปี 2564 จึงขออนุญาตเปิดร้านขายยาดังกล่าว ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับร้านเดิม และอีกกว่า 12 ร้าน ในพื้นที่สายไหม หนองจอก ธัญบุรี เพื่อจะได้มีโควตา ในการสั่งยาปริมาณมากขึ้นแล้ว นำมาจัดเก็บไว้ ที่สถานที่เก็บยาดังกล่าว

เบื้องต้น น.ส.ปทุมพรฯ ผู้ต้องหารับว่า จบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และทำงานกับร้านยาดังกล่าว มาแล้วเป็นเวลา 4 ปี โดยมีหน้าที่ขายยา ให้กับลูกค้าทั่วไป ซึ่งตนเองไม่ได้มีความรู้ ด้านเภสัชกรรม แต่อย่างใด ส่วนมากจะมีเพียงแค่วัยรุ่น มาซื้อยาแก้แพ้ หรือยาแก้ไอชนิดน้ำเชื่อม เฉลี่ยวันละ 80 - 100 ขวด ซึ่งเป็นที่รู้กันในกลุ่มวัยรุ่นว่าที่ร้าน ขายยาแก้แพ้ แก้ไอ แก้ปวด สำหรับผสมยาเสพติด 4x100 เจ้าหน้าที่จึงได้จับกุมตัวผู้ต้องหา พร้อมตรวจยึดของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน กก.4 ดำเนินคดี โดย น.ส.ปทุมพรฯ ถูกดำเนินคดีข้อหา มิได้เป็นผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม ทำการประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม หรือแสดงด้วยวิธีใด ๆ ให้ผู้อื่นเข้าใจว่า ตนเป็นผู้มีสิทธิประกอบวิชาชีพฯ โดยมิได้ขึ้นทะเบียน และรับใบอนุญาต และศาลอาญามีนบุรี พิพากษาลงโทษ ปรับ 17,500 บาท จากการสืบสวนสอบสวน ขยายผลผู้อยู่เบื้องหลัง ซึ่งเป็นเจ้าของยาที่ผิดกฎหมาย โดยศาลอนุมัติหมายจับ บุคคลดังกล่าวแล้ว ในข้อหา “ร่วมกันขายยาปลอม และร่วมกันย้ายสถานที่เก็บยา โดยไม่ได้รับอนุญาต”

เบื้องต้นการกระทำดังกล่าว เป็นความผิดตามข้อมูล ดังนี้

1. พ.ร.บ. ยา พ.ศ. 2510

1.1 มาตรา 21 ฐาน “ผู้รับอนุญาตขายยา ไม่จัดให้มีเภสัชกร อยู่ปฏิบัติหน้าที่” ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

1.2 มาตรา 26(6) ฐาน “ไม่จัดทำบัญชียา ที่ซื้อและขายตามที่กำหนด ในกฎกระทรวง” ระวางโทษปรับ 2,000 - 10,000 บาท

1.3 มาตรา 26 (7) ฐาน “ขายยาอันตราย เกินจำนวนตามประกาศ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เรื่องหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขายยา” ระวางโทษปรับ 2,000 - 10,000 บาท

1.4 มาตรา 39 (7) ฐาน “ผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการ (เภสัชกร) ไม่ควบคุมการทำบัญชียา” ระวางโทษปรับ 1,000 - 5,000 บาท

1.5 มาตรา 30 ฐาน “ย้ายสถานที่เก็บยา โดยไม่ได้รับอนุญาต” ระวางโทษปรับ 1,000 - 3,000 บาท

1.6 มาตรา 72 (1) ฐาน “ขายยาปลอม” ระวางโทษจำคุก ตั้งแต่ 1 - 20 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2,000 - 10,000 บาท

2. พ.ร.บ. วิชาชีพเภสัชกรรม พ.ศ. 2537 มาตรา 28 ฐาน “ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมฯ โดยมิได้ขึ้นทะเบียน และรับใบอนุญาต” ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 3 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ. กล่าวว่า การปลดล็อก “พืชกระท่อม” ออกจากยาเสพติดประเภท 5 ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้คนบางกลุ่ม โดยเฉพาะเยาวชน ใช้โอกาสนำเอาน้ำกระท่อม ไปใช้เป็นส่วนผสมกับยาแก้ไอ ยาแก้แพ้ชนิดน้ำเชื่อม หรือยาแก้ปวด ในลักษณะสารเสพติด ที่เรียกว่า “4x100” แล้วนำมาดื่ม เพื่อให้เกิดอาการมึนเมา เสียสุขภาพ และอาจก่อเหตุอาชญากรรม สร้างความเดือดร้อน แก่ประชาชนตามมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ จะดำเนินกวดขันจับกุม ร้านขายยา รวมถึงเครือข่าย ที่นำยาดังกล่าวไปขาย เพื่อตัดตอนการเข้าถึง ยาเสพติดชนิด 4x100 ให้ถึงที่สุด ทั้งนี้การดำเนินการ ด้านการปราบปราม เป็นการแก้ปัญหาได้ส่วนหนึ่ง ต้องอาศัยผู้ปกครอง หมั่นสอดส่องดูแลบุตรหลาน อย่าได้เข้าไปยุ่ง เกี่ยวกับการใช้ยาในลักษณะดังกล่าว หากพบเห็นการกระทำความผิด สามารถแจ้งได้ที่ สายด่วน ปคบ. 1135 หรือเพจ ปคบ. เตือนภัยผู้บริโภค

ภก. วีระชัย นลวชัย รองเลขาธิการ คณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า ปัญหาการนำยา ไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ติดตามแก้ไขปัญหาดังกล่าว มาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดพบเยาวชนนำ “ยาแก้แพ้แก้ไอ” และ “ยาทรามาดอล” มาใช้ผิดวัตถุประสงค์ รับประทานเพื่อให้เกิดอาการมึนงง และเมา

อย. มีมาตรการกำกับดูแล การจำหน่ายยากลุ่มดังกล่าว ตลอดห่วงโซ่ ตั้งแต่การผลิต / นำเข้า การขายให้ร้านขายยา และการจ่ายให้ผู้ป่วย ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ บันทึกการรับ จ่าย เพื่อให้เจ้าหน้าที่ อย. ตรวจสอบ หากตรวจพบ มีการซื้อขายยาในทางที่ผิด นอกจากจะถูกดำเนินคดี ตามกฎหมายแล้ว ยังถูกพักใช้ใบอนุญาต เป็นเวลา 120 วันด้วย ตั้งแต่ปี 2561 - ปัจจุบัน มีร้านขายยาที่กระทำผิดกฎหมาย ถูกพักใช้ใบอนุญาตไปแล้วกว่า 65 ร้าน, โรงงานผลิต 2 แห่ง และเพิกถอนบริษัทขายส่งยา 1 แห่ง หากผู้ใดพบเบาะแส ร้านขายยา ที่มีพฤติกรรมขายยาในทางที่ผิด สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน อย. 1556 หรือผ่าน Line@FDAThai, Facebook: FDAThai หรือ E-mail: 1556@fda.moph.go.th ตู้ปณ. 1556 ปณฝ. กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี 11004 หรือ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ทั่วประเทศ


#BackboneMCOT
อ้างอิง และขอบคุณข้อมูล จาก :

เว็บไซต์ : สำนักสารนิเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
https://pr.moph.go.th

เฟซบุ๊ก : สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)
https://www.facebook.com/FDAThai

เว็บไซต์ : สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)
https://oryor.com



อ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ..คิดอย่างไรกับเรื่องนี้ เขียนเลย
Terms of Service © 2025 MCOT.net All rights reserved นโยบายข้อมูลส่วนบุคคล นโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยเว็บไซต์ นโยบายเว็บไซต์ของ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)