อีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ของไทยที่ต้องจารึกไว้ เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศปลดล็อกกัญชา ปลดกัญชาออกจากยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 ส่งผลให้กัญชาทางการแพทย์และธุรกิจกัญชาในประเทศไทยมีการตื่นตัวกันมากทีเดียว จากวันนั้นจนวันนี้ ปี 2566 ธุรกิจกัญชาไทยก้าวหน้าและพัฒนาไปในด้านใดบ้าง พร้อมการคาดการณ์การเติบโตจะอยู่ที่เท่าไหร่ ไปติดตามกัน
ประโยชน์ของกัญชา
หลังการปลดล็อกกัญชา ทำให้หลายคนได้รับรู้เกี่ยวกับประโยชน์ของกัญชามากขึ้น โดยเฉพาะประโยชน์ทางการแพทย์ แต่ความจริงแล้วกัญชามีประโยชน์ในด้านอื่น ๆ อีก ดังนี้
ช่วยให้หลับง่าย และหลับลึกขึ้น
ช่วยให้เจริญอาหาร
บรรเทาอาการปวดเรื้อรัง
ยับยั้งการเกิดเซลล์มะเร็ง
บรรเทาอาการคลื่นไส้
มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ
มีสารอนุมูลอิสระ ปกป้องริ้วรอยอันเกิดจากแสงแดด
ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนของผิว
ประเภทธุรกิจกัญชาในประเทศไทย
ด้วยสรรพคุณของ ‘กัญชา’ ที่มีประโยชน์มากมายดังที่กล่าวไปข้างต้น ส่งผลให้เกิดอุตสาหกรรมและธุรกิจกัญชาในประเทศไทยมากมาย นับตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ ดังนี้
กลุ่มเกษตรกรผู้เพาะปลูก
กลุ่มนี้นับเป็นกลุ่มต้นน้ำ ผู้ปลูกต้องเป็นผู้ที่มีความรู้และความเข้าใจในกัญชาแต่ละสายพันธุ์เป็นอย่างดี ต้องรู้ว่าแต่ละสายพันธุ์ปลูกแบบในร่มหรือกลางแจ้งถึงจะได้ผลผลิตที่ดีมีคุณภาพ ปริมาณน้ำที่ต้องการ สภาพภูมิอากาศที่เหมาะสม หรือพูดง่าย ๆ ก็คือต้องเป็นผู้ที่ควบคุมการปลูกทั้งหมด เพื่อผลลัพธ์ที่ต้องการคือ กัญชาคุณภาพดี รวมทั้งได้ปริมาณที่ภาคอุตสาหกรรมต้องการต่อการผลิตในแต่ละรอบ
ทั้งนี้ การปลูกในเชิงพาณิชย์หรือปลูกเป็นอุตสาหกรรมต้องมีการขออนุญาตปลูกกัญชากับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ก่อน
กลุ่มธุรกิจโรงงานสกัดสาร CBD-THC
หลังการปลดล็อกกัญชาได้มีกลุ่มบริษัทบางบริษัทเห็นโอกาสทางธุรกิจจากการเปิดโรงงานสกัดสาร CBD-THC เพื่อป้อนสารสกัดดังกล่าวให้กับธุรกิจปลายน้ำ ที่สำคัญ พวกเขาปฏิบัติถูกต้องตามที่กฎหมายและขอใบอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กำหนด เพื่อวัตถุประสงค์และประโยชน์ในเชิงพาณิชย์หรืออุตสาหกรรม
โดยธุรกิจปลายน้ำดังกล่าว ได้แก่ กลุ่มอาหาร/เครื่องดื่ม เครื่องสำอาง อาหารเสริม สมุนไพร รวมถึงธุรกิจอื่น ๆ ที่มีแนวโน้มการขยายตัวเพิ่มขึ้นในอนาคต
กลุ่มร้านขายกัญชาออนไลน์
ด้วยความที่เราก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลมากขึ้นและมากขึ้นทุกวัน การสั่งซื้อกัญชาจากร้านค้ากัญชาออนไลน์เป็นอีกหนึ่งธุรกิจกัญชาในไทยที่เติบโตอย่างรวดเร็ว และสามารถซื้อได้ง่ายแค่ปลายนิ้ว ปัจจุบันเราสามารถพบเห็นร้านค้าเหล่านี้ได้มากมายบนโลกอินเทอร์เน็ต ซึ่งมีทั้งขายปลีก-ขายส่ง ตลอด 24 ชั่วโมง มีกัญชาสายพันธุ์ต่าง ๆ ให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Indica (อินดิกา), Sativa (ซาติวา) และลูกผสม (Hybrid)
ทั้งนี้ ก่อนการตัดสินใจซื้อ ควรหาข้อมูลจากเว็บไซต์ที่มีการรีวิวและการให้ข้อมูลการใช้ที่ถูกต้อง มีการบริการที่ดี เพราะข้อมูลเหล่านี้มีผลต่อการตัดสินใจซื้อ เพื่อลูกค้าจะได้รับประสบการณ์ดี ๆ จากกัญชาโดยเฉพาะกับมือใหม่ที่ไม่เคยใช้มาก่อน สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Weed.review เพราะการตัดสินใจเลือกซื้ออย่างชาญฉลาดจะทำให้เราได้รับประสบการณ์ที่ดีและผลลัพท์ตามที่ต้องการจากการใช้กัญชา
กลุ่มธุรกิจเครื่องสำอาง
สารสกัดในกัญชาที่นำมาใช้ผลิตเครื่องสำอางจะเป็นสาร CBD ที่ไม่มีฤทธิ์ต่อจิตประสาท
และจากประโยชน์ของกัญชาที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ, มีสารอนุมูลอิสระ ลดการเกิดริ้วรอยก่อนวัย และช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนของผิวหนัง จึงส่งผลให้วงการเครื่องสำอางมีการคิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกัญชามากมาย ได้แก่ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว บำรุงเส้นผม ยาสีฟัน คอสเมติก รวมถึงน้ำหอม เป็นต้น
กลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม
สำหรับกลุ่มธุรกิจอาหารผสมกัญชานี้ต้องบอกว่า ปัจจุบันเราสามารถพบเห็นร้านอาหารและเครื่องดื่มผสมกัญชาได้มากมายทั่วประเทศไทยเลยก็ว่าได้ รวมไปถึงบริษัทเอกชนทั้งรายเล็กและรายใหญ่ ต่างให้ความสนใจในส่วนนี้เป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าพร้อมทุ่มเม็ดเงินไปกับธุรกิจกัญชากันยกใหญ่ เรียกได้ว่า ถ้าไม่เห็นกำไร คงไม่มีใครอยากลงทุน
โดยในส่วนของกัญชาที่สามารถนำมาประกอบอาหารและเครื่องดื่มได้ ได้แก่ เมล็ดกัญชง ใบจริง/ใบพัด ลำต้น เปลือก เส้นใย กิ่ง ก้าน ราก รวมไปถึงน้ำมัน CBD (สารสกัด Cannabidiol) และมี THC (Tetrahydrocannabinol) ไม่เกิน 0.2% ตามที่กฎหมายกำหนด ในขณะที่ช่อดอก และเมล็ดกัญชาไม่สามารถใช้ได้
แต่สิ่งสำคัญ คือ ร้านค้าต้องแจ้งผู้บริโภคว่าอาหารและเครื่องดื่มในร้านมีส่วนผสมของกัญชา โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ร้านต้องไม่จำหน่ายอาหารผสมกัญชาให้กับสตรีมีครรภ์ สตรีให้นมบุตร รวมถึงผู้ที่มีอายุน้อยกว่า 20 ปี ตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุข
กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์สมุนไพร
ด้วยกระแสคนรักสุขภาพในประเทศไทยยังคงมาแรงและยังคงแรงอย่างต่อเนื่อง จากจุดนี้เองส่งผลให้หลาย ๆ บริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับสุขภาพ หันมาให้ความสนใจผลิตสินค้าที่มีส่วนผสมของกัญชาและกัญชงมากขึ้น ซึ่งผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ยาแผนโบราณ และผลิตภัณฑ์อาหารเสริม เป็นต้น ภายใต้วัตถุประสงค์ที่จะผลิตภายใต้แบรนด์ของตัวเอง และหนุนการผลิตแบบ OEM ด้วย
มาถึงตรงนี้แล้ว เราอาจจะพอเห็นภาพโดยรวมได้ว่า ‘สรรพคุณของกัญชา’ สามารถเอื้อประโยชน์ต่อธุรกิจได้หลากหลายเลยทีเดียว และเมื่อเกิดธุรกิจใหม่ ๆ ขึ้น ก็ย่อมเกิดอาชีพใหม่ ๆ ตามมา ตั้งแต่อาชีพที่เกี่ยวกับกัญชาตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ
ทั้งนี้ ได้มีการคาดการณ์มูลค่าธุรกิจกัญชาในประเทศไทยว่ามูลค่าของตลาดกัญชาเพื่อการแพทย์จะสูงราว 7,000 ล้านบาท และเพื่อสันทนาการจะอยู่ราว 14,000 ล้านบาท ในปี 2567 ซึ่งจากปี 2565 ที่ได้มีการปลดล็อกกัญชามาจนปัจจุบันในปี 2566 กัญชาทำให้เกิดธุรกิจและอาชีพใหม่ ๆ มากมาย ซึ่งประเทศไทยจะสามารถสร้างมูลค่าของตลาดกัญชาได้มากแค่ไหนหรือจะทุบสถิติจากที่คาดการณ์ไว้ ก็เป็นอะไรที่น่าจับตามองทีเดียว
ข้อมูลแหล่งที่มา
https://www.bnhhospital.com/th/medical_cannabis
https://mgronline.com/business/detail/9640000124642
https://www.nfi.or.th/hemp/assets/Hemp/1/5-%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%9B.pdf
https://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/1012307
https://www.businesstoday.co/pr-news/14/01/2022/80492/