นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายภูมินทร ปลั่งสมบัติ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นำหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมซักซ้อมเสมือนจริงพิธีรับพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากสาธารณรัฐประชาชนจีน ณ ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 และการเคลื่อนริ้วขบวนไปยังมณฑลพิธีท้องสนามหลวง
สำหรับการซ้อมในวันนี้ เป็นการซ้อมใหญ่เสมือนจริง เริ่มตั้งแต่เครื่องบินพิเศษอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) ถึงท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 การอัญเชิญขึ้นรถริ้วขบวน และซักซ้อมขบวนรถตามเส้นทางจริง โดยขบวนรถจะเคลื่อนผ่านทางยกระดับดอนเมือง ผ่านเส้นทางเยาวราช ถนนหลานหลวง และเข้าสู่ถนนราชดำเนินไปยังลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ จากนั้นเริ่มการซ้กซ้อมการจัดริ้วขบวนอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) ซึ่งจะเริ่มเคลื่อนขบวนจากลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ เพื่อไปยังมณฑลพิธีท้องสนามหลวง จำนวน 24 ขบวน ผู้เข้าร่วมเดินริ้วขบวนจากหน่วยงานต่างๆ ประกอบด้วย ผู้แทนจากหน่วยงาน ของไทย - จีน องค์กรเครือข่าย 5 ศาสนา และกลุ่มชาติพันธุ์กว่า 2,700 คน นอกจากนี้ มีการซ้อมประกอบพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) ขึ้นประดิษฐานที่มณฑป โดยการซ้อมใหญ่เป็นไปอย่างเรียบร้อย ยิ่งใหญ่ และงดงาม ทั้งนี้ พระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จะมาถึงประเทศไทย ในวันที่ 4 ธันวาคม 2567 โดยประชาชนสามารถรับชมผ่านการถ่ายทอดสดทางช่อง NBT2hd
ทั้งนี้ รัฐบาลไทยและรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนได้เห็นชอบร่วมกัน ในการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากวัดหลิงกวง กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน มาประดิษฐาน ณ ท้องสนามหลวงเป็นการชั่วคราว เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และในโอกาสการครบรอบ 50 ปี แห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย - จีน ในปี 2568 ขอเชิญชวนประชาชนสักการะ พระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) ได้ตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคม 2567 - 14 กุมภาพันธ์ 2568 ตั้งแต่เวลา 07.00 น - 20.00 น. ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง เจ้าหน้าที่ได้จัดเตรียมดอกไม้สักการะและโปสการ์ดพร้อมบทสวดบูชาพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) มอบให้ประชาชนที่เดินทางมาสักการะพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) และจะอัญเชิญกลับในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2568 และจะอัญเชิญกลับในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2568