X

5 อาถรรพ์เครื่องรางจากผีตายโหง

1 ม.ค. 2513
views
ขนาดตัวอักษร

จากกรณีที่มีประเดนข่าวของดาราชื่อดังที่ผูกคอตาย บนคอนโด แล้วเชือกที่ผู้ตายใช้ผูกคอตาย ได้หายไป หรือแม้กระทั่ง หรือประเด็นที่มีผู้ขอซื้อโซฟาที่น้องพริตตี้ชื่อดังได้นอนเสียชีวิต ในราคาที่สูงมาก จากความเชื่อที่ว่า สิ่งของที่อยู่กับศพผู้เสียชีวิตแบบผิดธรรมดา จะมีดวงจิตของผู้ที่เสียชีวิตสถิตอยู่ ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้พวกที่นิยมด้านไสยศาสตร์ ต้องการนำสิ่งของ หรือ ซากศพของผู้ตายนั้นมาปลุกเสกสะกดจิตวิญญาณของผู้ตายไว้ใช้งานด้านไสยศาสตร์ 5 เครื่องรางของคลังจากผีตายโหง ที่มีอาถรรพ์ชนิดที่ขนลุกขนพองกันเลยทีเดียว



"เชือกผีตายโหง"

"เชือกผูกคอตาย" มักจะมีพวกนักเล่นของนำไปให้ผู้มีวิชาลงอาคมกระทำในเรื่องเดรัจฉานวิชาทางด้านไสยศาสตร์ไว้ใช้บังคับทรมาณวิญญาณคนที่ตายด้วยเชือกเส้นนี้ให้มาบอกหวย หาเลขเด็ด เมตตามหานิยม ตามความเชื่อ แต่ ที่ผ่านมาก็เคยมีข่าว ผู้ที่ชอบสะสมเชือกชนิดนี้ นำไปลงอาคมหาเลขเด็ด แต่สุดท้ายกลับต้องใช้เชือกเส้นเดียวกันผูกคอตายโดยไม่ทราบสาเหตุ


"ปั้นเหน่ง" 

คือเครื่องรางของขลังประเภทหนึ่งที่ทำจากกระดูกส่วนหน้าผากของศพมนุษย์ หรือ ส่วนกลางกะโหลกศีรษะ โดยปั้นเหน่งมีความหมายอีกนัยหนึ่ง คือการย่อหัวกะโหลกทั้งหัวรวมไว้เพียงชิ้นเดียว เพื่อหวังผลนำมาใช้ทางไสยศาสตร์ และนำมาปลุกเสก สะกดวิญญาณนั้น ตามความเชื่อปั้นเหน่งเป็นขลังชนิดที่มีพุทธคุณด้านเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ แคล้วคลาด ใช้ป้องกันเหตุเภทภัยหรือคุณไสย และคงกระพันชาตรี ขอโชคลาภ หรือจะเป็นพรายกระซิบช่วยระวังป้องกันภัยเตือนภัย ฯลฯ



"หนังโยนี"
(หนังอวัยะเพศหญิงปลุกเสก)

เป็นอีกหนึ่งเครื่องรางของขลัง ที่ทำมาจากหนังโยนี(หนังอวัยะเพศหญิง) ผีตายโหง ผสมกับมวลสารต่างๆ ตามความเชื่อ หนังโยนี มีอานุภาพมหาเสน่ห์ ช่วยให้เป็นที่รักแก่ผู้พบเห็น จูงจิต จูงใจ กระตุ้นความรู้สึกที่อยากจะให้มาอยู่ใกล้ๆ ดั่งโดนมนตฺสะกด ให้ลุ่มหลง ใช้ได้ทั้งชายและหญิง ทำให้ผู้บูชา ดูดีมีเสน่ห์ มีเมตตามหานิยม ติดต่อธุรกิจการงาน เข้าหาผู้ใหญ่




"กะโหลกผีตายโหง"

ชิ้นส่วนหัวกะโหลกคนตายโหงโดยเฉพาะผู้ผูกคอตาย คนที่ทำไสยศาสตร์มนต์ดำ เขาต้องการเฉพาะคนตายโหงเท่านั้น หากตายโหงแล้วนำศพไปฝังไว้ โบราณว่า เพื่อจะสั่งสอนคนในสมัยนั้นว่า การตายโหงนั้นไม่ดี เพราะเป็นการตายแบบผิดธรรมชาติ อย่าใช้ชีวิตอย่างประมาท ในส่วนความเชื่อของแต่ละบุคคลนั้น หัวกะโหลกศพของผู้เสียชีวิต เป็นเรื่องไสยศาสตร์ สามารถนำมาทำเครื่องรางป้องกันอันตรายต่างๆ หรือทำเสน่ห์มหานิยมได้



"กุมารทอง"

แรกเริ่มเดิมทีมาจากวิญญาณของเด็กที่ตายในท้องแม่หรือที่เรียกว่าตายทั้งกลม ผู้มีวิชาอาคมจะไปนำพาวิญญาณเด็กนั้นมาเลี้ยงไว้เป็นลูก จากหลักฐานที่พบในเอกสารโบราณระบุถึงการทำกุมารทอง ต้องหาศพที่ตายทั้งกลม แล้วประกอบพิธีกรรมผ่าเอาศพทารกในท้องนั้นมาย่างไฟให้แห้งสนิทก่อนรุ่งอรุณ แล้วจึงลงรักปิดทองให้ทั่ว ด้วยเหตุนี้จึงเรียกว่ากุมารทอง ซึ่งเชื่อกันว่าเสมือนมีวิญญาณเด็กอยู่ในรูปกุมารนั้น ผู้บูชาต้องเลี้ยงดูเหมือนลูกของตน ต้องให้ข้าวน้ำเซ่นสรวงและต้องเรียกให้กินข้าวด้วย กล่าวกันว่าหากปฏิบัติดูแลดีกุมารทองก็จะช่วยค้ำคูณ อาทิ ช่วยคุ้มครองป้องกันเจ้าของและครอบครัวจากสิ่งไม่ดีทั้งหลาย ช่วยให้ทำมาค้าขึ้น ไปจนถึงเตือนภัยล่วงหน้าอีกด้วย และจะคอยติดตามเฝ้าระวังบ้านเรือนจากโจรผู้ร้ายและศัตรูไม่ให้มากล้ำกราย

ซึ่งนอกจากความเชื่อด้านไสยศาสตร์แล้ว ทางด้านกฏหมายการซื้อขายชิ้นส่วนมนุษย์ ถือเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย ตามตัวบทกฎหมาย ลักษณะความผิดเกี่ยวกับศพ ซึ่งเป็นกฎหมายที่แก้ไขใหม่ และประกาศใช้ เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2558 ตามประมวลกฎหมายอาญา แก้ไขเพิ่มเติมลักษณะความผิดเกี่ยวกับศพ และเพิ่มเติมมาตรา 366/1 (กระทำชำเราศพ) มาตรา 366/2 (กระทำอนาจารศพ) มาตรา 366/3 (ทำให้เสียหายเคลื่อนย้ายทำลายศพ) และมาตรา 366/4 (ดูหมิ่นเหยียดหยามศพ) ดังนั้น การนำชิ้นส่วนของศพ ซึ่งอ้างว่าผ่านพิธีกรรมทางไสยศาสตร์มาจำหน่าย ถือว่าเป็นการทำให้เสียหายเคลื่อนย้ายทำลายศพ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 366/3 ผู้ใดโดยไม่มีเหตุอันสมควร ทําให้เสียหาย เคลื่อนย้าย ทําลาย ทําให้เสื่อมค่า หรือทำให้ไร้ประโยชน์ ซึ่งศพ ส่วนของศพ อัฐิ หรือเถ้าของศพ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสามปี หรือ ปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ (พระราชบัญญัติ แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 22) พ.ศ. 2558) (ที่มา ทนายเจมส์ LK)


Terms of Service © 2025 MCOT.net All rights reserved นโยบายข้อมูลส่วนบุคคล นโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยเว็บไซต์ นโยบายเว็บไซต์ของ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)