X
ยกระดับผ้าไทยบุกตลาดสากล ในงาน STYLE Bangkok 2024

ยกระดับผ้าไทยบุกตลาดสากล ในงาน STYLE Bangkok 2024

20 มี.ค. 2567
700 views
ขนาดตัวอักษร

นายกเศรษฐาฯ เป็นประธานสักขีพยานพิธีลงนาม MOU ระหว่าง มทและ พณเพื่อน้อมนำพระดำริ "ผ้าไทยใส่ให้สนุกและ "Sustainable Fashion" สู่การยกระดับผู้ประกอบการผ้าไทยบุกตลาดสากลนำผ้าไทยก้าวสู่เวทีส่งออกระดับโลก พร้อมชวนเที่ยวชมงาน STYLE Bangkok 2024 วันที่ 20 - 24 มี.. 67  ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

วันนี้ (20 มี.. 67) เวลา 09.30  ฮอลล์ 4 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เขตคลองเตย กรุงเทพฯ นายเศรษฐาทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานสักขีพยาน พร้อมด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อต่อยอดการนำผู้ประกอบการที่มีศักยภาพที่ได้รับการพัฒนาจากโครงการผ้าไทยใส่ให้สนุกต่อยอดสู่ตลาดทั้งในและต่างประเทศ ระหว่างนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญปลัดกระทรวงมหาดไทย และนายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ร่วมลงนาม และ MOU เพื่อส่งเสริมการผลิตและใช้ผ้าไทยในประเทศ ระหว่างนายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่ และนางสาวสุมามาลย์ เต๊จ๊ะ เจ้าของแบรนด์ขวัญตา Khwanta และผู้บริหารวิชชาลัยผ้าทอหนองบัวลำภู(ศูนย์การเรียนรู้ขวัญตานอกจากนี้ ยังร่วมพิธีเปิดงาน STYLE Bangkok 2024 งานแสดงสินค้าแฟชั่นครั้งยิ่งใหญ่โดยมี นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ร่วมเป็นสักขีพยาน และมีคณะผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย กระทรวงพาณิชย์ หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการ และสื่อมวลชนเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลมุ่งขับเคลื่อนนโยบาย Soft Power เพื่อยกระดับมาตรฐานการผลิตของกลุ่มผู้ประกอบการภายในประเทศไปสู่สากล โดยวันนี้เป็นความร่วมมือครั้งสำคัญของกระทรวงมหาดไทยกับ กระทรวงพาณิชย์ ในการพุ่งเป้ายกระดับสินค้าหัตถกรรมของคนไทยให้มีความทันสมัยได้รับการต่อยอดไปสู่ตลาดต่างประเทศ และเป็นที่น่ายินดีว่ากรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยได้รวมพลังโชว์ศักยภาพสินค้าไลฟ์สไตล์และแฟชั่นอย่างยิ่งใหญ่ ในงาน STYLE Bangkok 2024 ระหว่างวันที่ 20 - 24 มีนาคม 2567 นี้  ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งคาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานไม่น้อยกว่า 30,000 ราย สร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 1,600 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้าว่าการส่งออกสินค้าไลฟ์สไตล์และแฟชั่นของไทยจะเติบโตอยู่ที่ร้อยละ 2 คิดเป็นมูลค่า 323,300.60 ล้านบาท โดยสินค้าส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ เฟอร์นิเจอร์เครื่องใช้บนโต๊ะอาหารและในครัวเครื่องเขียนและเครื่องใช้ในสำนักงาน และของชำร่วยและของตกแต่งบ้าน รวมไปถึงของเล่นและสินค้าสำหรับเคหะสิ่งทอ โดยมีตลาดส่งออกสำคัญ ได้แก่ สหรัฐอเมริกาญี่ปุ่นจีนอินเดีย และมาเลเซีย



นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยมีความมุ่งมั่นในการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการ OTOP โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ประกอบการประเภทผ้าและเครื่องแต่งกาย ซึ่งเราจะเห็นได้ว่าผ้าไทยเป็นผืนผ้าที่เกิดจากฝีไม้ลายมือคนไทย เป็นของพิเศษที่ไม่มีชาติใดเหมือนและการลงนาม MOU ร่วมกันในวันนี้ เป็นก้าวสำคัญที่จะทำให้พวกเราได้ร่วมกันภาคภูมิใจในสินค้าและผลิตภัณฑ์ของคนไทย ของไทยไม่มีคำว่าแพง แล้วที่สำคัญไปกว่านั้น เราจะได้ส่งออกผ้าไทยไปสู่ตลาดนานาประเทศ โดยมีตัวอย่างที่สำคัญซึ่งปรากฏเป็นไฮไลต์พิเศษของงาน STYLE Bangkok 2024 คือ พาวิลเลียน 'ผ้าไทยใส่ให้สนุกในพระดำริของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ที่ทรงเป็นดั่งแสงสว่างบนเส้นทางแห่งการพัฒนาภูมิปัญญาผ้าและหัตถศิลป์ไทย ด้วยพระปณิธานอันแน่วแน่ในการดำเนินตามรอยเบื้องพระยุคลบาท “สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง” โดยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ “สมเด็จย่า” ทรงอุทิศทุ่มเทพระวรกายเพื่อช่วยเหลือประชาชนชาวไทย ทรงฟื้นคืนชีวิตภูมิปัญญาผ้าและหัตถศิลป์ไทยให้กลายเป็นต้นทุนทางภูมิปัญญาในการประกอบอาชีพ ทรงสนับสนุนการสร้างอาชีพเสริมยามว่างจากฤดูการเกษตร ส่งเสริมการถักทอผืนผ้าและสร้างสรรค์งานหัตถกรรม นำมาซึ่งการสร้างงาน สร้างรายได้ ได้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีอย่างยั่งยืนรวมถึงการส่งเสริมและสนับสนุนกลุ่มผู้ประกอบการท้องถิ่นที่มีศักยภาพจากโครงการ 'ผ้าไทยใส่ให้สนุกต่อยอดเพื่อขยายตลาดสู่สากล 


ด้านนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ในวันนี้ตนรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มาร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ที่ถือเป็นความสำเร็จอีกขั้นหนึ่งของการน้อมนำพระดำริ Sustainable Fashion ของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ต่อยอดสู่การตลาดระดับนานาชาติ โดยบันทึกข้อตกลงความร่วมมือฉบับนี้ มุ่งเป้าเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนเชื่อมโยงผู้ประกอบการ SMEs และ OTOP สู่ตลาดในประเทศและต่างประเทศ โดยทั้งกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมมือกันดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจภูมิภาคและสร้างโอกาสทางการค้าสู่สากล โดยกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงพาณิชย์จะร่วมมือกันส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs และ OTOP ในการขยายตลาดในประเทศและต่างประเทศ ภายใต้แนวคิด "ตลาดนำการผลิตด้วยการกำหนดหลักเกณฑ์และคัดสรรผู้ประกอบการ SMEs และOTOP เพื่อส่งต่อผู้ประกอบการที่มีศักยภาพให้ได้รับการพัฒนาศักยภาพรองรับความต้องการตลาดในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะให้ความสำคัญในการพัฒนาทักษะด้านการตลาดในระดับสากลให้กับผู้ประกอบการ SMEs และ OTOP ที่มีศักยภาพ เพื่อเตรียมความพร้อมในการก้าวสู่ตลาดในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงจะส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs และ OTOP ที่มีความพร้อมในการเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศและการตลาดของกระทรวงพาณิชย์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ และในส่วนของกระทรวงมหาดไทยจะสนับสนุนในการคัดเลือกผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ที่มีศักยภาพ มีความพร้อมเข้าร่วมในการส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs และ OTOP ในการขยายตลาดในประเทศและต่างประเทศ โดยในขั้นต้นกำหนดระยะเวลาความร่วมมือตาม MOU ฉบับนี้ 3 ปี โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือฉบับนี้เป็นต้นไป


"ประการสำคัญที่น่าภาคภูมิใจและชื่นชมยินดีอีกประการหนึ่ง คือ การลงนาม MOU ระหว่างกลุ่มบางจากและวิชชาลัยผ้าทอหนองบัวลำภู (ศูนย์เรียนรู้ขวัญตาเกิดจากความตั้งใจของท่านปลัดกระทรวงพาณิชย์ที่ได้มาหารือร่วมกับปลัดกระทรวงมหาดไทยที่กระทรวงมหาดไทย เพื่อร่วมมือกันน้อมนำแนวพระดำริของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” ในการช่วยจับคู่กับบริษัทขนาดใหญ่ที่มีอยู่แล้ว คือ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชนเพิ่มเติมมากยิ่งขึ้น โดยท่านปลัดกระทรวงพาณิชย์ได้ชี้แจงว่า จะดำเนินการสร้างความร่วมมือเพิ่มขึ้นในอนาคตอันใกล้ รวมทั้งการขยายผลไปสู่ตลาดโลกด้วย เพื่อส่งเสริมการผลิตและใช้ผ้าไทยในประเทศ ซึ่งร้าน “ขวัญตา” Khwanta .หนองบัวลำภู มีที่มาจากความตั้งอกตั้งใจและความใฝ่ฝันปรารถนาในการสืบสาน รักษาและต่อยอดภูมิปัญญาผ้าไทยของจังหวัดหนองบัวลำภูต่อจากคุณยายและคุณแม่ โดย "น้องอ๋อย สุมามาลย์ เต๊จ๊ะซึ่งเป็นผู้ที่มีความรักความหลงใหลในภูมิปัญญาผ้าไทย นำผ้าทอกับเทคนิคการด้นมือมาประยุกต์เข้ากับดีไซน์ยุคใหม่ได้อย่างลงตัว กลายเป็นแฟชั่นร่วมสมัยที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สร้างจุดต่างโดนใจลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างประเทศนอกจากนี้ ยังได้เปิดวิชชาลัยผ้าทอหนองบัวลำภู (ศูนย์เรียนรู้และออกแบบขวัญตาเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้และแหล่งประกอบอาชีพ สร้างงาน สร้างรายได้ให้กับพี่น้องสตรีในจังหวัดหนองบัวลำภู อันจะทำให้การขับเคลื่อนแนวทางการส่งเสริมผ้าไทยของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย ได้รับการหนุนเสริมผลักดันอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผ้าไทยเป็นผืนผ้าที่สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้อย่างมั่นคงให้กับพี่น้องประชาชนคนไทย ตามพระดำริ "ผ้าไทยใส่ให้สนุกของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา โดยกระทรวงมหาดไทยจะได้หนุนเสริมให้เกิดการขับเคลื่อนอย่างเข้มข้นต่อเนื่อง เพื่อทำให้พี่น้องประชาชนคนไทยได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืนตลอดไปนายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวเน้นย้ำ


ด้านนายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์มีความยินดีและตั้งใจอย่างยิ่งที่จะช่วยเหลือในด้านการต่อยอดผลิตภัณฑ์สินค้าไทยไปสู่ต่างประเทศ ซึ่งการลงนามบันทึกข้อตกลงในวันนี้ เกิดจากความมุ่งมั่นตั้งใจของกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงมหาดไทย ที่ได้ร่วมประชุมพูดคุยหารือเพื่อบูรณาการความร่วมมือในการส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs และ OTOP สู่ตลาดสากล ที่กระทรวงมหาดไทย ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้นำสินค้าผลิตภัณฑ์ OTOP มาต่อยอดพัฒนา โดยการร่วมมือกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายและพันธมิตรในการหาช่องทางการตลาด นอกจากนี้ยังได้ร่วมมือกับกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทยนำสินค้าที่ได้รับการพัฒนามาจำหน่าย รวมถึงเน้นการผลิตตามแนวเศรษฐกิจแบบ BCG นำสินค้าพื้นถิ่นมาพัฒนาต่อยอด และการบันทึกข้อตกลงร่วมกันในวันนี้ เป็นการพุ่งเป้าขับเคลื่อนสิ่งที่พวกเราทั้งสองกระทรวงมุ่งมั่นตั้งใจ เพื่อที่จะทำให้สินค้าหัตถศิลป์หัตถกรรมไทยได้รับการส่งออกและเป็นที่ยอมรับของตลาดในระดับสากลอย่างยั่งยืน


ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนเข้าร่วมงานแสดงสินค้าไลฟ์สไตล์และแฟชั่น "STYLE Bangkok 2024" จัดขึ้นระหว่างวันที่ 20 - 24 มีนาคม 2567 แบ่งเป็นวันเจรจาธุรกิจในวันพุธที่ 20 ถึงวันศุกร์ที่ 22 มีนาคม 2567 เวลา 10.00 - 18.00 และเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมงานได้ในวันเสาร์ที่ 23 ถึงวันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคม 2567 เวลา 10.00 - 21.00 ฮอลล์ 1 - 4 ชั้น 6 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ผู้ที่สนใจสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ stylebangkokfair.com Facebook/Instagram/TikTok : Style Bangkok Fair หรือโทรศัพท์สายตรงกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศกระทรวงพาณิชย์ ที่เบอร์โทรศัพท์ 1169

Terms of Service © 2025 MCOT.net All rights reserved นโยบายข้อมูลส่วนบุคคล นโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยเว็บไซต์ นโยบายเว็บไซต์ของ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)